หุ้นตระกูลชินวัตร ดี๊ด๊ารับข่าวศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องคดีซุกหุ้น 2 โบรกเกอร์ชี้เป็นหุ้นอ่อนไหวตามกระแสข่าวรายวัน ส่วนการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้น SC เล่นข่าวปัจจัยหุ้นเรื่องผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ดี เตือนระวังขาใหญ่ถือโอกาสออกของ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ราคาหุ้นตระกูลชินวัตรและกลุ่มบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SHIN ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทั้งบริษัท เอสซี แอสเสท คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน)หรือSC บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)หรือ ADVANCบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด(มหาชน) หรือ SATTEL และบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)หรือ ITV
โดยราคาหุ้นทั้งกลุ่มปรับตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไม่รับคำร้องของ 28 สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ซึ่งยื่นขอให้วินิ๗ฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 209 และ216 วรรค 6 โดยศาลตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ6 ไม่รับคำร้องดังกล่าว
ทั้งนี้ราคาหุ้น SC นั้นปรับตัวหลังจากมีกระแสข่าวดังกล่าวหวือหวามากที่สุด โดยช่วงเช้าราคาหุ้ยังคงอ่อนตัวอยู่ที่ระดับเดียวกับราคาปิดตลาดเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ราคา 16.30บาท และปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากรับข่าวปิดตลาดช่วงเช้าที่ราคา 19.50 บาท โดยราคาสูงสุดข้อวันอยู่ที่ 20.40 บาทหลังจากอ่อนตัวลงมาแกว่งช่วงแคบๆที่ราคา 20 บาท และอ่อนตัวมาปิดตลาดฯที่ราคา 19.90 บาทเพิ่มขึ้น 3.60 บาท หรือประมาณ 22% และยังมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในกระดานมูลค่า 1418.287 ล้านบาท
เนื่องจากเป็นช่วงปล่อยของนักลงทุน หลังจากดันราคาหุ้นขึ้นไปอยู่ระดับสูง อย่างต่อเนื่องโดยยังคงใช้กระแสข่าวเก่า ที่เชื่อว่าบริษัทจะมีพันธมิตรใหม่เข้ามาล่อใจนักลงทุนรายย่อยแม้ว่าผู้บริหารของบริษัทจะออกมาชี้แจ้งกระแสข่าวดังกล่าวแล้วก็ตาม
ส่วนหุ้นในกลุ่มตัวอื่นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันแต่ไม่หวือหวามากนัก อาทิ ADVANC ปิดตลาดที่ 98 บาทเพิ่มขึ้น 4 บาทหรือประมาณ 4% โดยราคาสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 98.50บาทและราคาต่ำสุดที่ 95 บาท มีมูลค่าการซื้อขาย 493.60 ล้านบาท
หุ้น SHIN ปิดตลาดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 1.05% ราคาสูงสุดระหว่างวันที่ 48.25 ราคาต่ำสุด47.75 บาทมูลค่าการซื้อขาย 343.403 บาท
หุ้น SATTEL ปิดตลาดที่ 12.90 บาทเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือประมาณ 0.78% ราคาสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 13.20 บาทต่ำสุดที่ 12.60 บาทมูลค่าการซื้อขาย 188.86 ล้านบาท หุ้น ITV ปิดตลาดที่ 11.20 บาทเพิ่มขึ้นขึ้น 0.20 บาทหรือ 1.818%ราคาสูงสุดของวันอยู่ที่ 11.40 บาท ต่ำสุดที่ 11.00 บาท
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า การปรัปตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่ม SHINทั้งกลุ่มหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับฟ้องจาก 28สว. นั้นแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นทั้งกลุ่มอ่อนไหวมาก ดั้งนั้นเมื่อมีกระแสข่าวทางบวกหุ้นกธจะขยับขึ้นระยะสั้น และเมื่อมีข่าวเชิงลบหุ้นก็จะปรับตัวลดลงไปอีก
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน)หรือ ASPประเมินว่า การที่ราคาหุ้น SC ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งยังคงมาจากกระแสข่าวเก่าที่ระบุว่าบริษัทจะมีพันธมิตรเข้าร่วมลงทุน เบื้องต้นคิดจาก P/E ที่ระดับ 12 เท่า
สำหรับผลประกอบการปี 48 เชื่อว่า SC จะมีกำไรสุทธิประมาณ 307.2 ล้านบาทคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.95 บาทเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 422.5 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.22 บาท และมีรายได้จากธุรกิจหลักประมาณ 1,504.4 ล้านบาทเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากธุรกิจหลักจำนวน 1,667.8 ล้านบาท โดยจะบันทึกรายได้จากโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เป็นหลัก
ขณะที่ปี 49 อาจมีกำไรสุทธิประมาณ 387.3 ล้านบาทคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.20บาทและมีรายได้จากธุรกิจหลักประมาณ 2,130 ล้านบาท โดยจะมีรายได้จากค่าเช่าและบริการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นกว่า 53% ลดลงจาก 48% ในปีก่อนมาอยู่ที่ 35% ประมาณ 754ล้านบาทเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากค่าเช่าและบริการ 721 ล้านบาท
โดยเบื้องต้นคาดว่าบริษัทจะมีรับรู้รายได้จากยอดขายที่มีอยู่ในมือประมาณ 243 หลังคือโครงการบางกอกบูเลวาร์ด-รามอินทรา โครงการบางกอกบูเลวาร์ด-พระราม 5 โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด-แจ้งวัฒนะ โครงการวิสต้าพาร์ค-วิภาวดี โครงการวิสต้าพาร์ค-วัชรพลและโครงการเซ็นตริกซีน มูลค่าโครงการ 6,345 ล้านบาท จำนวน 1,119 ยูนิต

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:69e78dea2b">