April 20, 2024   10:41:17 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเหมืองทองคำTHL มองเห็นอนาคต..เรืองรอง
 

Kuririn
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 26
วันที่: 24/08/2005 @ 08:18:18
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นเหมืองทองคำ ทุ่งคาฮาเบอร์ อนาคตเรืองรอง ไตรมาส 1 ปีหน้าเริ่มผลิตทองคำ พร้อมรับรู้รายได้ทันที โอกาสสูงพลิกขาดทุนเป็นกำไร ผู้บริหาร โรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย ลั่นแนวโน้มรายได้ไหลเข้า หวังรับอานิสงส์เมกะโปรเจกต์ด้วย คาดรัฐไฟเขียวขุดดีบุกในอันดามัน นักวิเคราะห์ประเมินหุ้น THL เริ่มมีแรงเก็งกำไรรับข่าวดีขุด ทองคำ-ดีบุก มองพื้นฐานในอนาคตแข็งแกร่ง ประเมินราคาหุ้นเหมาะสมที่ 3-4 บาท

นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ชอย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THL เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการเหมืองทองคำว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานและการติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2548 และเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาส 1/ 2549 อย่างแน่นอน และในปีแรกของการผลิตคาดว่าจะสามารถผลิตได้ทองคำได้ประมาณ 45,000 ออนซ์ จะส่งผลให้บริษัทมีรายได้ประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 800 ล้านบาท


ตอนนี้โครงการเหมืองทองคำของเรา ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณูปโภคทุกอย่างใกล้จะเสร็จหมดแล้ว ส่วนในเรื่องของตัวเครื่องจักรก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในเดือนกันยายนนี้ และคาดว่าเมื่อเริ่มดำเนินการผลิตจะสามารถรับรู้รายได้ในทันที และจะเป็นรายได้หลักของบริษัทในอนาคต หรือร้อยละ 90% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท

สำหรับรายได้ในไตรมาส 3/2548 เชื่อมั่นว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 2 โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ทั้งปีไว้ที่ประมาณ 24 ล้านบาท สามารถทำได้รายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทสามารถทำรายได้แล้วกว่า 16 ล้านบาทแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทกำลังรอโครงการเมกะโปรเจกต์ของการรถไฟฟ้ารางคู่ ถ้าหากโครงการนี้เริ่มดำเนินการได้ภายในปีนี้ ก็จะส่งผลทำให้รายได้รวมของบริษัทขยับขึ้นเป็น 40 ล้านบาทได้ทันที

รอภาครัฐไฟเขียวกลับไปทำเหมืองดีบุก
นายโรนัลด์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปีหน้าว่า บริษัทมีแผนที่จะมีการสำรวจและประเมินปริมาณแร่ทองคำเพิ่ม และหากมีปริมาณทองคำเพิ่มมากขึ้น บริษัทก็มีแผนที่จะเพิ่มขยายกำลังการผลิตทองคำเพิ่มขึ้น ส่วนในเรื่องของดีบุกนั้น ทางบริษัทได้มีการสำรวจไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขณะนี้กำลังรอทางภาครัฐอนุมัติในเรื่องของค่าภาคหลวง หากทางภาครัฐได้มีการปรับค่าภาคหลวงให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไป บริษัทก็จะเข้าไปลงทุนในเรื่องของดีบุก หลังจากที่ผ่านมาบริษัทได้หยุดการผลิตไปแล้ว

สำหรับธุรกิจดีบุกคงจะต้องขึ้นอยู่กับมาตรการของรัฐบาล จะเป็นผู้กำหนดอัตราค่าภาคหลวง หากมีการปรับราคาค่าภาคหลวงให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงจนเกินไป เราจะเข้าไปลงทุนในส่วนนี้เพิ่ม ปัจจุบันดีบุกของเราจะขุดที่ทะเลอันดามัน ส่วนเหมืองทองคำนั้น ประเมินแล้วว่าถ้าหากปริมาณความต้องการใช้ทองคำเพิ่มสูงขึ้นเราก็มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเหมืองทองคำให้เพิ่มขึ้น
เล็งนำหุ้นเหมืองทองคำเข้าตลาดหุ้น
นายโรนัลด์ กล่าวว่า ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะนำบริษัททุ่งคำ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แต่ยังไม่ทราบกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนว่าจะสามารถนำบริษัททุ่งคำเข้าจดทะเบียนได้เมื่อไหร่ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีผลการดำเนินงานที่เป็นขาดทุนอยู่ ตามกฎเกณฑ์ของตลาดนั้น ถ้าหากบริษัทใดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดนั้น จะต้องมีผลการดำเนินงานที่มีกำไรติดต่อ 3 ไตรมาสถึงจะเข้าจดทะเบียนในตลาดได้ ดังนั้นทางบริษัทก็คงจะต้องใช้ระยะเวลาที่จะดำเนินการในส่วนให้แล้วเสร็จก่อน ในอนาคตเรามีแผนที่จะแยกทุ่งคำออกจากทุ่งคา โดยทุ่งคำจะเป็นบริษัทที่เน้นเหมืองทองคำ ส่วนทุ่งคานั้นจะเน้นการทำดีบุก แต่เรายังไม่ได้สามารถบอกได้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่

นายโรนัลด์ กล่าวถึงประเด็นเรื่องของราคาทองคำที่มีแนวโน้มว่าภายใน 1-2 ปี ที่ราคาอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นบาทละ10,000-15,000 บาทว่า สำหรับราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจจะมีความเป็นไปได้ และหากเป็นจริงบริษัทคงได้รับประโยชน์จากส่วนนี้คือ ทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงอิงกับราคาปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 400 เหรียญต่อออนซ์

คาดต้นไตรมาส1พลิกขาดทุนเป็นกำไร
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมีโก้ จำกัด (หมาชน) เปิดเผยถึงราคาหุ้นของ THL ที่มีการปรับขึ้นนั้น สาเหตุมาจากนักลงทุนเข้ามาเล่นเก็งกำไรได้ตามกระแสข่าวในเรื่องของการสร้างเหมืองทองคำที่จะก่อสร้างเสร็จภายในไตรมาส 1/2549 ถือว่าเป็นข่าวเชิงบวก เนื่องจากหุ้นดังกล่าวยังขาดสภาพคล่อง ดังนั้นจึงไม่ควรเข้าไปเสี่ยงมากนัก โดยให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 2 บาท

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการเหมืองทองคำของ THL คาดว่าอาจจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2548 แต่ทั้งนี้จะต้องรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก่อนว่า จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนหรือไม่ แต่ถ้าสามารถดำเนินการได้ตามแผนก็จะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 1 ปี 2549 ก็จะทำให้ THL มีรายได้จากส่วนนี้

นอกจากนี้ ข่าวที่ออกมาว่าราคาทองจะปรับเพิ่มขึ้นถึง 10,000-15,000 บาท ใน อีก 1-2 ปีข้างหน้า คาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อ THL แต่คงไม่มากนัก เพราะมีเหมืองทองคำเพียงแห่งเดียว ประกอบกับมีขนาดไม่ใหญ่นัก ดังนั้นน่าจะทำให้มีรายได้จากส่วนนี้เข้ามาเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ได้ประมาณการผลประกอบการในปี 2548 คาดว่าจะขาดทุน 44 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่ขาดทุนถึง 57 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามถ้า THL สามารถดำเนินการโครงการเหมืองทองคำได้ภายในปี 2549 ก็จะพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร ทั้งนี้คาดว่าน่าจะมีกำไรในปี 2549 อย่างน้อย 279 ล้านบาท

ประเมินราคาหุ้นเหมาะสมที่ 3-4 บาท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด เปิดเผยว่า THL ได้ประกาศผลการดำเนินไตรมาส 2/2548 ออกมายังคงมีผลขาดทุนสุทธิ 15.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและลดลง 34.99%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วน 6 เดือนที่ผ่านมามีผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 35.14% โดยในปี 2548 ยังคงคาดการณ์ว่า THL จะขาดทุนสุทธิ 65.96 ล้านบาท ส่วนในปี 2549 คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 792 ล้านบาท ซึ่งรายได้กว่า 96% จะมาจากทองคำ โดยอิงระดับราคาทองคำที่ 420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยนที่ 40 บาทต่อดอลลาร์ เพราะการขายทองคำจะอิงสกุลดอลลาร์ คาดมีกำไรสุทธิ 359 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.47 บาท คาดว่าจะจ่ายปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น (คาดว่าจะมีการล้างขาดทุนสะสม ด้วยการนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นมาหักกลบ) และยังสามารถออกจากกลุ่มฟื้นฟูกิจการได้ อิงระดับ P/E ที่ 8-9 เท่า ราคาเหมาะสมที่ 3.76-4.23 บาท) ยิ่งโครงการเหมืองทองใกล้แล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ หุ้นของ THL น่าจะได้รับความสนใจมากขึ้น ถึงแม้ผู้บริหารจะมั่นใจต่อการเสร็จสิ้นของโครงการเหมืองทองคำ แต่ติดตามความคืบหน้าของโครงการ หากชัดเจนว่าไม่มีการเลื่อนอีก ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินราคาเหมาะสมที่ 3.76-4.23 บาท

ที่มา กระแสหุ้นรายวัน

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 24/08/2005 @ 09:15:05 : re: หุ้นเหมืองทองคำTHL มองเห็นอนาคต..เรืองรอง
ทุ่งคำเริ่มถลุงแร่ทองที่เลยต้นปี49 มั่นใจได้ทองคำบริสุทธิ์มูลค่า2 พันล้าน

โดย ผู้จัดการรายวัน 18 สิงหาคม 2548 16:15 น.
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-บริษัททุ่งคำฯ เจ้าของโครงการเหมืองทองคำใน ต.เขาหลวง จ.เลย ประกาศพร้อมลงมือขุดค้นและถลุงแร่ทองคำได้ราวต้นปี 49 เผยประทานบัตร 6 แปลงแรก
กว่า 1,300 ไร่ ถลุงเป็นทองคำบริสุทธิ์90% มูลค่าร่วม 2 พันล้านบาท ขณะเดียวกันเตรียมสำรวจเชิงลึก แหล่งแร่ทองคำในพื้นที่ใกล้เคียงรอยต่อ อ.เมือง-วังสะพุงต่อ

นายสมศักดิ์ ร่วมคิด กรรมการบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการสัมปทานเหมืองทองในพื้นที่ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จังหวัดเลยว่าในราวเดือนธันวาคม 2548
การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะการวางระบบไฟฟ้าเข้าสู่พื้นที่โรงงานถลุงแร่ทองคำจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ หลังจากนั้นราวต้นปีหน้า บริษัทฯจะเริ่มดำเนินการขุดแร่และนำขึ้นมา
ผลิตเป็นทองคำบริสุทธิ์ได้

สำหรับพื้นที่ประทานบัตร เพื่อขุดแร่ทองคำในเฟสแรก อยู่พื้นที่ต.เขาหลวง อ.วังสะพุงทั้งหมด 6 แปลง รวม 1,310 ไร่ ซึ่งจากผลสำรวจและศึกษา พบว่าในแปลงประทานบัตร
แห่งนี้ มีปริมาณสินแร่ราว 985,682 ตัน มีค่าความสมบูรณ์เฉลี่ย 5.05 กรัม ต่อเนื้อหินปนทองคำ 1 ตัน สามารถนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ เป็นปริมาณทองคำบริสุทธิ์ 90
เปอร์เซ็นต์ได้ประมาณ 5 ตัน คิดเป็นมูลค่าร่วม 2,000 ล้านบาท

ตามข้อตกลงในโครงการลงทุนเหมืองทองแห่งนี้ ทองคำบริสุทธิ์ที่ได้จากการถลุง บริษัท ทุ่งคำ จำกัดจะต้องขายให้กับรัฐบาลไทยตามอัตราทองคำในตลาดโลก เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลไทยไม่รับ
ซื้อ บริษัทฯสามารถจำหน่ายในต่างประเทศแทนได้ และตามกฎหมายบริษัทผู้ลงทุนจะต้องจ่ายค่าภาคหลวง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอัตราร้อยละ 60 รวมเป็นตัวเงินเกือบ100
ล้านบาท

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของมูลค่าลงทุน ในการขุดค้นและแปรรูปสินแร่เป็นทองคำบริสุทธิ์ ในแปลงสัมปทานกว่า 1,300 ไร่ดังกล่าว จากเดิมตัวเลขการลงทุนอยู่ที่ราว 380
ล้านบาท แต่ล่าสุดได้ประเมินตัวเลขลงทุนใหม่ วงเงินได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 800 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากต้องนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ ในการทำเหมืองจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด รวมไป
ถึงการสร้างโรงงานในพื้นที่ 2-3 ไร่ด้วย

ในช่วงนี้เราต้องเร่งจัดทำระบบไฟฟ้า ที่จะใช้ในโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้ และคาดว่าอีกราว 1-2 เดือนเครื่องจักร ที่สั่งไว้จะต้องทยอยนำเข้าไปติดตั้งประกอบ
ในโครงการให้แล้วเสร็จ นายสมศักดิ์กล่าวและว่า

หลังจากโครงการสัมปทานระยะแรก 6 แปลงดังกล่าวเริ่มดำเนินการตามแผนแล้ว บริษัทฯจะเดินหน้าสำรวจศึกษาเชิงลึกในด้านความคุ้มค่าเชิงพาณิชย์ ในแหล่งสินแร่ทองคำในพื้นที่ใกล้
เคียง เขตรอยต่ออำเภอเมืองและอำเภอวังสะพุง ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า มีอีก 110 แปลง ที่มีปริมาณสินแร่ทองคำที่น่าสนใจ ที่สามารถขุดค้นขึ้นมาเพิ่มมูลค่าและมีอัตราคุ้มทุนเชิงพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม ต้องรอการสำรวจศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าในจำนวนร้อยกว่าแปลง มีสักกี่แปลงที่มีอัตราคุ้มค่าทางเศรษฐกิจที่จะลงทุนในระยะต่อไป โดยพื้นที่เป้าหมายโครงการระยะที่
2 นี้ บริษัทฯได้ยื่นขอประทานบัตรไปแล้วเช่นกัน

6 แปลงแรกที่ได้ประทานบัตรขุดค้น และนำขึ้นมาถลุงเป็นทองคำบริสุทธิ์ น่าจะใช้เวลา 6-7 ปี และในระหว่างที่ขุดค้นเฟสแรกนี้ เราก็จะศึกษาสำรวจเชิงลึกแปลงที่เหลือ
ควบคู่กันไป เพื่อให้การลงทุนต่อเนื่องนายสมศักดิ์กล่าวและระบุเพิ่มเติมว่า ในส่วนกรณีที่พื้นที่โครงการบางส่วนของโครงการเฟสแรกอยู่ในเขต ส.ป.ก.จำนวน 4 แปลง บริษัทฯได้
รับการอนุญาตจากส.ป.ก.เรียบร้อยแล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีการสร้างโรงงานถลุงแร่ จะช่วยสร้างงานให้กับคนท้องถิ่นได้มาก เพราะต้องใช้คนงานหลายร้อยคน แต่หลังจากขั้นตอนการก่อสร้างโรงงานแล้วเสร็จ
เข้าสู่กระบวนการถลุงแร่ให้เป็นทองคำบริสุทธิ์จะใช้กำลังคนที่เป็นช่างเทคนิค โดยเฉพาะราว 80-90 คนเท่านั้น

สำหรับปัญหาที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าการเปิดหน้าเหมือง เพื่อทำเหมืองทองที่ ต.เขาหลวง อ.สะพุง จ.เลย ครั้งนี้ อาจเกิดปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงจะรุกล้ำเข้าไปขุดทองในพื้นที่
สัมปทานนั้น ไม่น่าจะทำได้ เพราะสินแร่ทองคำที่สำรวจพบดังกล่าว ไม่ใช่ทองคำผง เหมือนที่มีการขุดพบที่เขาพนมพา จ.พิจิตร แต่เป็นแร่ทองคำที่ฝังในชั้นหิน ซึ่งต้องใช้กระบวนการถลุง
ด้วยการนำก้อนหิน ที่มีส่วนผสมของสินแร่มาบดแยกด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยเท่านั้น

อนึ่ง บริษัททุ่งคำ จำกัด เป็นบริษัทในเครือบริษัททุ่งคา ฮาร์เบอร์ จำกัด(มหาชน) จดทะเบียนเมื่อปี 2534 ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 500 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัททุ่งคำ จำกัดมีบริษัท
ทุ่งคาฯถือหุ้นอยู่ 99 % ที่เหลือเป็นหุ้นของบริษัทชลสินธุ์ จำกัด
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com