April 20, 2024   3:43:31 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เมื่อ "ทักษิณ" ดอดพบ "ป๋าเปรม"
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 23/02/2006 @ 23:21:30
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวได้อีกครั้ง หลังจาก ก.ล.ต. แถลงข่าวความชัดเจน แอมเพิล ริช และ ทักษิณ เข้าพบ ป๋าเปรม ช่วยลดระดับความร้อนแรงทางการเมือง ขณะที่วงการหลักทรัพย์ คาดชุมนุม 26 ก.พ.นี้ จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะ 3 มี.ค.นี้ ทักษิณ จะเปิดเวทีพบประชาชนครั้งใหญ่ที่ท้องสนามหลวง และจะเปิดประชุม 2 สภาในวันที่ 6 มี.ค. เพื่อชี้แจงข้อข้องใจให้ทุกฝ่ายได้รับทราบอีกครั้ง[/color:831ba15f8d">


* 23 ก.พ. ดัชนีฯ บวก 4.08 จุด หลังเคลียร์ แอมเพิล ริช
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ได้ฟื้นตัวอีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้
ด้วยการปิดบวก 4.08 จุด มาอยู่ที่ 732.68 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่สูงถึง 14,934.44 ล้านบาท
โดยดัชนีฯ ปรับขึ้นตลอดวันนี้ หลังจาก นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยผลการตรวจสอบของ ก.ล.ต.ว่า กรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร ซื้อหุ้น SHIN จากแอมเพิล ริช ราคา 1 บาท เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 49 แต่มีการขายให้กับ เทมาเส็ค เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 49
ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท ไม่เข้าข่ายการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์เดอร์
เทรดดิ้ง)
เนื่องจาก แอมเพิล ริช เป็นบริษัทที่ นายพานทองแท้ และนางสาวพินทองทา ร่วมกันถือหุ้น 100% ถือเป็นกลุ่มเดียวกัน ดังนั้น การซื้อขายที่เกิดขึ้นจึงไม่ส่งผลให้ผู้อื่นเสียเปรียบ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า นายพานทองแท้ ได้กระทำความผิดเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 246 และ 247 รวมกัน 3 ประเด็น โดยเฉพาะประเด็นไม่รายงานการได้หุ้น SHIN จำนวน 24.99% เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2543 โดยไม่ระบุข้อมูลการถือหุ้น SHIN ของออมเพิล ริช ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 258
ทั้งนี้ การกระทำผิดดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดที่ไม่เข้าข่ายรุนแรง ซึ่งขั้นตอนต่อไป จะแจ้งให้นายพานทองแท้ทราบ หากยินยอมเสียค่าปรับก็จะนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับต่อไป ซึ่งคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์จะทราบว่าจะต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเท่าไหร่
ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร พบว่าไม่มีความผิดในการต้องยื่นรายงานใดๆ ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.

* ส.ส่งเสริมผู้ลงทุนไทยระบุคุ้มค่าแก่การรอคอย
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวว่า นายธีระชัย ได้ชี้แจงเรื่องหุ้น SHIN อย่างชัดเจน และตอบคำถามในทุกประเด็น ซึ่งการที่มีความล่าช้าก่อนหน้านี้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับที่รอคอย และเห็นว่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เป็นการตอบรับในเรื่องดังกล่าวที่มีความชัดเจนออกมา

* นายกฯ เข้าพบ ป๋าเปรม หาทางพารัฐฯ ฝ่าวิกฤติ
และในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งแม้ไม่ได้ให้สัมภาษณ์หลังการเข้าพบ แต่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ว่า นายกฯ จะขอคำปรึกษาจากองคมนตรี เพื่อพารัฐบาลฝ่าวิกฤติทางการเมืองในขณะนี้ และได้ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองคลายความร้อนแรงลงได้ระดับหนึ่ง

* วงการค้าหลักทรัพย์ชี้การเมืองผ่อนคลายหลัง ทักษิณ เปิดเวทีพบประชาชน
แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์ กล่าวว่า เชื่อว่าการชุมนุมในวันที่ 26
กุมภาพันธ์นี้ จะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองดูเหมือนจะคลี่คลายลง หลังจากนายกรัฐมนตรีนายกฯ เข้าพบ ป๋าเปรม และก่อนหน้านี้ นายกฯ ได้ประกาศจะเปิดเวทีพบประชาชนครั้งใหญ่ที่บริเวณท้องสนามหลวงในวันที่ 3 มีนาคม และจะเปิดประชุม 2 สภา ในวันที่ 6 มีนาคมนี้
เพื่อตอบข้อข้องใจให้ทุกฝ่ายได้รับทราบอีกครั้ง

* กบข.คาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ารีบาวน์ 2-3 วัน ไม่ว่า 26 ก.พ. จะเป็นอย่างไร
ขณะที่ นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าหลังการชุมนุม ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2-3 วัน หรือ ปรับเพิ่มขึ้น 30-40 จุด และหลังจากนั้นดัชนีหุ้นฯ จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยขึ้นๆ ลงๆ อยู่ในกรอบแคบ
โดยหลังการชุมนุมในวันที่ 26 กุมภาพันธ์แล้ว เชื่อว่าเหตุการณ์ยังไม่น่าจะจบลง โดยการชุมนุมยังคงน่าจะมีอย่างต่อเนื่อง และเป็นสิ่งที่ประชาชนจะต้องเตรียมรับ

สำหรับราคาหุ้นในปัจจุบันที่ P/E 10 เท่า นายวิสิฐ มองว่า หุ้นบางตัวก็ถือว่ามีราคาแพง แต่บางตัวก็เป็นราคาที่รับได้ ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญก็ขึ้นอยู่กับการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหากมีการเติบโตในระดับ 10-20% ที่ P/E 10 เท่า ถือว่าไม่แพง แต่หากเติบโตในระดับ 5% ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่แพง

* คาด นลท. ยังรอผลชุมนุม 26 ก.พ.
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นก่อนวันที่ 26 ก.พ.นี้ ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากตัวแปรของการลงทุน คือ การชุมนุมของฝ่ายต่อต้านนายกรัฐมนตรีในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ที่ทุกฝ่ายจับตามองว่าเหตุการณ์จะออกมาเป็นอย่างไร
ดังนั้น แม้ปัจจัยอื่นๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ปัจจัยเรื่องการชุมนุมประท้วงก็ยังเป็นปัจจัยหลักที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจ
ปัจจุบันทุกฝ่ายกำลังจับตามองว่านายกฯ จะตัดสินใจออกมาอย่างไร
เพราะเชื่อว่าปัจจัยที่เกิดขึ้นเป็นแค่แรงกดดันเท่านั้น ตัวแปรของความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างแท้จริงคือตัวนายกรัฐมนตรีเองที่จะเป็นคนตัดสินว่าจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และอย่างไร
และขณะนี้หลายฝ่ายก็มีความเห็นคล้ายกันว่านายกฯน่าจะใช้วิธีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และเมื่อถึงเวลานั้นหากนายกฯ ยังเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดิมใครก็ไม่สามารถออกมาชุมนุมต่อต้านได้อีก เพราะถือว่าประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจแล้ว ซึ่งจะสร้างความชัดเจนในได้ทุกเรื่อง และจะทำให้ความอึมครึมหมดไป บรรยากาศการลงทุนก็จะกลับมาได้

* เผยต่างชาติเริ่มทยอยเก็บหุ้นกลุ่ม ชินวัตร
นายถนอมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้นักลงทุนส่วนใหญ่จะยังรอดูความชัดเจนในวันนี้ 26 กุมภาพันธ์นี้ก่อน ซึ่งหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น บรรยากาศการลงทุนอาจจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยส่วนตัวเห็นว่าปัจจุบันมีหุ้นพื้นฐานดีบางตัวราคาลดลงไปมากจากผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง และเริ่มมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเก็บ
ซึ่งเชื่อว่าเมื่อบรรยากาศการลงทุนกลับคืนมาหุ้นเหล่านี้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ที่เห็นชัดๆ ก็ คือ หุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มชินวัตร





ที่มา efinancethai.com[/color:831ba15f8d">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com