เชื่อไทยรักไทยผงาดเหมือนเดิม แม้เสียงสวรรค์จะไม่เท่าเดิมงานนี้ปัจจัยการเมืองคลี่คลาย กิตติรัตน์คาดวันจันทร์นี้ตลาดตอบสนองเชิงบวก-ดร.โกร่งยอมรับหลังยุบสภาเศรษฐกิจอาจชะลอตัวชั่วคราว เพื่อรอให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้น ค่ายซีมิโก้เชื่อ SET ดีดช่วงสั้นเล็งบริเวณ 750 จุด แนะเล่นเก็งกำไรหุ้นอสังหาฯ บิ๊กไซรัส ชี้นายกฯยอมถอย เพื่อไม่ให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย ฟากบล.นครหลวงไทยจ้องหั่นตัวเลขศก.-กำไรบจ.ลง

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจประกาศยุบสภาน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า(27ก.พ.-3มี.ค.) เนื่องจากทำให้ปัจจัยทางการเมืองคลี่คลายและคืนอำนาจให้ประชาชนอีกครั้ง เพื่อใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง ตรงจุดนี้น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ซึ่งเมื่อวันศุกร์(24ก.พ.)ตลาดฯได้สะท้อนปฎิกิริยาเชิงบวกตอบรับไปบ้างแล้ว

ทั้งนี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งใหม่ เชื่อว่า พรรคไทยรักไทยน่าจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกครั้ง โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่คะแนนเสียงที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนคงไม่มากเท่ากับครั้งที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการขายหุ้นชินวัตรให้กับนักลงทุนต่างชาติ โดยไม่เสียภาษี

การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและตัวนายกรัฐมนตรีว่าประชาชนยังคงศรัทธามากน้อยเพียงใดแหล่งข่าวและว่า ทุกอย่างน่าจะเคลียร์หากไทยรักไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โดยนายกฯเป็นคนเดิม
แม้จะมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องยอมรับเพราะถือเป็นการปฎิบัติตามระบอบประชาธิปไตย

แหล่งข่าวกล่าวว่า คาดว่า จำนวน ส.ส.ในเขตกรุงเทพฯน่าจะไม่เท่าเดิม เนื่องจากประชาชนในกรุงเทพฯมักอิงกระแสเป็นหลักมากกว่า ซึ่งหลายพื้นที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีโอกาสได้รับเลือกตั้ง ขณะที่ฐานเสียงและ ส.ส.ส่วนใหญ่ ของพรรคไทยรักไทยในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ซึ่งมีสัดส่วน ส.ส.จำนวนมาก น่าจะได้รับเลือกจากประชาชนอีกครั้ง แม้บางพื้นที่จะถูกพรรคการเมืองคู่แข่งเข้ามาแย่งคะแนนเสียง จนได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.

ทั้งนี้เชื่อว่า การหาเสียงของพรรคการเมืองครั้งนี้คงพุ่งเป้าโจมตีไปที่ตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในประเด็นการขายหุ้นชินวัตรให้นักลงทุนต่างชาติ
นายกิติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์
กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้ประกาศยุบสภาฯว่า ตลาดหุ้นน่าจะตอบรับในชิงบวก
เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวัง

ภาวะตลาดในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ก็ปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สะท้อนให้เห็นว่ามีข่าวในแง่ดี ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในการยุบสภาก็เป็นส่งที่หลายคนคาดหวังเป็นไปได้ว่าเมื่อตลาดเมื่อเปิดทรดในวันจันทร์อาจจะตอบรับในเชิงบวกนายกิตติรัตน์กล่าว
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาฯ ทำให้บรรยากาศทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเห็นว่าการที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภาอย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดทุนไทยได้รับผลกระทบจากความอึมครึมของสถานการณ์ทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.นี้อาจจะไม่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากไม่มีเหตุผล จะชุมนุมเพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปและมองว่าการยุบสภาครั้งนี้จะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากมองว่าพรรคไทยรักไทยจะได้รับการเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนด้วย

เขากล่าวอีกว่า สำหรับภาคการลงทุน ไม่น่าจะเกิดภาวะชะงักงัน เช่นเดียวกันเพราะนักลงทุนยังเชื่อมั่นว่าพรรคไทยรักไทยจะมีโอกาสกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง แต่หากไม่สามารถกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลเป็นสมัยต่อไปเชื่อว่าจะส่งผลต่อโครงการเมกะโปรเจ็กและจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนเช่นเดียวกัน


ด้านนักลงทุนต่างประเทศ คาดว่าจะยังไม่ถอนการลงทุนออกไปจากประเทศไทยเพราะมองเรื่องการยุบสภาเป็นเรื่องธรรมดาของระบอบประชาธิปไตยและเชื่อว่าในวันจันทร์นี้จะทำให้ดัชนีฯตลาดหุ้นไทยกลับมายืนในแดนบวกได้
ดร.วีระพงษ์ รามางกูร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงการประกาศยุบสภาของนายกรัฐมนตรีว่าจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดการชะลอตัวลงจนกว่าการเลือกตั้งใหม่จะเสร็จสิ้น ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวของนายกฯมองว่า เป็นทางออกกที่ดีที่สุดในการคืนอำนาจให้กับประชาชน ซึ่งหากผู้ชุมนุมเพื่อต่อต้านนายกรัฐมนตรียังดำเนินการชุมนุมต่อไปก็แสดงให้เห็นว่าผู้ชุมนุมไม่มีจิตใจที่เป็นประชาธิปไตยและไม่มีเหตุผล

นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การบริหารงานในส่วนของกระทรวงการคลังที่เป็นรัฐบาลรักษาการก็ยังดำเนินต่อไปตามปกติ ซึ่งมองว่าการยุบสภาของนายกฯเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้เพราะในระบอบประชาธิปไตย ควรจะคืนอำนาจให้กับประชาชนให้มีสิทธิเลือกรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศใหม่อีกครั้ง

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) (SYRUS)กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า(27ก.พ.-3มี.ค.)ดัชนีตลาด คงปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังการประกาศยุบสภา ซึ่งถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีฯยอมถอยเพื่อไม่ให้ประเทศชาติได้รับความเสียหายจากความขัดแย้งทางการเมือง นับว่าเป็นความเสียสละทางการเมือง
นายสาธิต วรรณศิลปิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัดกล่าวว่า การยุบสภา จะส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอีก 6-9 เดือน ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจการลงทุนและโครงการเมกกะโปรเจ็กและบริษัทฯอาจจะมีการปรับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีลงรวมทั้งผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน

นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรียุบสภา
เชื่อว่า จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น โดยมองที่ 750จุด
เนื่องจากแรงกดดันทางการเมืองได้คลี่คลาย โดยมองว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลนโยบายทางการเมืองคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ประเมินจากภาวะทางเศรษฐกิจและGDP ที่ปรับตัวดีขึ้นและอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวลดลง หลังจะมีการประกาศในวันที่ 1 มีนาคมนี้

เราได้มีการดูข้อมูลย้อนหลังในยุคของรัฐบาลที่มีการยุบสภา ที่มี 7ครั้งนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าเมื่อยุบสภาแล้วตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง แต่ที่เราประเมินว่าตลาดฯจะปรับเพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้ดูอดีตแต่ประเมินจากเศรษฐกิจและ GDPรวมถึงเงินเฟ้อที่คาดว่าจะลดลง ส่วนอีก 1-2เดือนต่อไปนี้จะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามเนื่องจากการเมืองอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นายสิทธิเดชกล่าว
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น นักลงทุนต่างชาติก็ยังซื้อสุทธิและยังไม่ขายออกมาซึ่งมองว่าอาจจะขายออกมาหลังจากเดือนเมษายน เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดฯตลาดฟิวเจอร์เปิดการซื้อขาย ทำให้มีตัวพยุงรองรับไว้และหลังจากนั้นคงจะมีการเทขายออกมา

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาหุ้นปรับลดลงและขายเมื่อราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น โดยเน้นในกลุ่มพลังงานที่ยังคงได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและกลุ่มธนาคาร เพราะจะมีประเด็นในเรื่องของการประกาศเงินเฟ้อในวันที่ 1ม.ค.นี้ซึ่งคาดว่าจะปรับลดลง ในขณะเดียวกันสามารเข้าเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้

นางสาวสิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้ประกาศยุบสภาคาดว่าก็ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อภาวะตลาดหุ้นไทย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์การชุมนุมในวันที่26 ก.พ.นี้มากกว่า
นอกจากนี้กรณีที่รัฐบาลประกาศยุบสภาไม่ใช่ข้อเรียกของกลุ่มผู้ชุมนุมเพราะผู้ชุมนุมต้องการให้นายกลาออกมากกว่าการยุบสภา โดยหากมีเหตุการณ์รุนแรงหรือขยายวงกว้างรวมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บเชื่อว่าในวันจันทร์เมื่อเปิดตลาดมาดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงประกอบกับนักลงทุนคงจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ประเด็นหลักๆที่มีผลกระทบต่อภาวะตลาดน่าจะเป็นเรื่องการชุมนุมในวันที่อาทิตย์นี้มากกว่าเพราะการประกาศยุบสภาไม่ได้ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุมผู้ชุมนุมอาจจะไม่พอใจและอาจจะมีการเรียกร้องให้นายกลาออกซึ่งการชุมนุมจะออกมาในรูปใดเราก็ไม่สามารถบอกได้คงต้องติดตามต่อไป นางสาวสิริณัฏฐา กล่าว

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน
จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า การปรับยุบสภาของนายกรัฐมนตรีมองว่าน่าจะส่งบวกต่อภาวะตลาด เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลลงบ้างรวมทั้งปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุน
นอกจากนี้การชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.49ก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ต้องติดตามรวมทั้งยังเป็นปัจจัยที่กดดันภาวะตลาดหุ้นไทยให้เคลื่อนไหวไปไหนได้ไม่ไกล ถ้าหากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหรือยืดเยื้อและการชุมนุมไม่มีข้อยุติเชื่อว่าในวันจันทร์นี้น่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมาและบรรยากาศการลงทุนคงไม่สดใส
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนแนะนำนักลงทุนขายทำกำไรและลดความเสี่ยงลดบ้างโดยให้แนวรับไว้ที่735 จุด แนวรับถัดไปไว้ที่ 730 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่745 จุด ให้แนวต้านถัดไปไว้ที่ 750 จุด


ที่มา efinancethai.com[/color:8cda20882e">

เย้ๆๆ หุ้นไทยจะพุ่งแล้ว

.0002 แล้ววังน้ำเย็น ทำไงดีอะ .0003 เลือกตั้งงวดนี้เงินสะพัดแน่ แล้วนักการเมืองจะหาเงินจากใหน ชาวหุ้นคิดดู ...มีเวลาอีกไม่ถึง2เดือนตอนนี้ก็จะได้วัดฝีมือของชาวหุ้นอีกครั้ง ตลาดหุ้นจะต้องมีผู้ชนะ และ ผู้แพ้ เลือกเอาเองก็แล้วกันว่าจะอยู่เป็น ผู้ชนะ หรือ ผู้แพ้ ดี ขอให้โชคดีจ๊ะ

.0008 .0008 คาดว่า ท ร ท จะได้ ส ส 270 +- คน .0008 .0008