April 19, 2024   6:02:56 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เปิดช่องSCIB-BTเพิ่มทุน - ไฟเขียวฝรั่งถือหุ้น เพิ่มศักยภาพ
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 02/03/2006 @ 08:48:09
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แบงก์ชาติเปิดทาง SCIB-BT หาคู่หูต่างชาติ ยันไม่ปิดกั้น จะหาพันธมิตรวิธีไหนก็ได้แต่ไม่แตะหุ้นที่กองทุนฟื้นฟูฯถือ ตั้งใจขายคนไทย ไฟเขียวให้เพิ่มทุนเพื่อขายฝรั่งนักวิเคราะห์ชี้2 แบงก์อยู่เป็นโสดรอดยาก จำเป็นต้องหาพันธมิตรนอก เพิ่มความสามารถแข่งขัน รองรับการเปิดเสรีทางการเงิน[/color:0500c8a397">

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูเพื่อการพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF)กล่าวว่าตามที่เคยบอกว่าทางกองทุนฟื้นฟูเพื่อการพัฒนาระบบสถาบันการเงินจะไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่ในธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ SCIB และธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน)หรือ BT ให้ต่างชาตินั้น หมายถึงเฉพาะในส่วนที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถืออยู่ แต่ถ้าหาก 2ธนาคารต้องการพันธมิตรเป็นต่างชาติ ก็สามารถใช้วิธีอื่นได้ เช่น การเพิ่มทุน

กองทุนฟื้นฟูฯไม่ขายหุ้นให้ต่างชาติอยู่แล้ว แต่ถ้า SCIB และ BT อยากได้พาร์ทเนอร์เป็นต่างชาติ ก็คงต้องใช้วิธีเพิ่มทุนให้ต่างชาติเข้ามา ซึ่งเราก็ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนฟื้นฟูฯ ต้องการขายหุ้นให้คนไทยมากกว่าต่างชาติ และจะต้องเป็นการขายให้ประชาชนทั่วไป เพื่อที่จะได้มีการแข่งขันในด้านราคา แต่หากเป็นนักลงทุนสถาบัน จะมีอำนาจในการต่อรองมาก ซึ่งจะทำให้กองทุนฟื้นฟูฯ ขายของในราคาถูก ในขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยืนยัน ตลอดว่า หากจะขายก็ต้องได้ราคาดีที่สุด และมีราคาพรีเมี่ยมในระดับสูง

อย่างไรก็ตามในที่สุดแล้วกองทุนฟื้นฟูฯก็ต้องขายหุ้นที่ถืออยู่ในสถาบันการเงินออกไปจนหมด และต้องการเหลือแบงก์รัฐไว้เพียงแห่งเดียว คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KTB เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบัน กองทุนฟื้นฟูฯถือหุ้นอยู่ในธนาคารนครหลวงไทยจำนวน. 47.58% ธนาคารไทยธนาคารจำนวน 48.98% และธนาคารกรุงไทยจำนวน 56.41%

ก่อนหน้านี้นายอรุณ จิระชวาลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ SCIB กล่าวว่าธนาคารต้องการพันธมิตรจากต่างชาติมากกว่าคนไทยเพราะต่างชาติมีประสบการณ์มากกว่า ดังนั้น การเข้ามาร่วมธุรกิจจะทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีต่างชาติหลายรายเข้ามาพูดคุยกับธนาคาร

นายกวี ชูกิจเกษม นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)พัฒนสิน กล่าวว่า เชื่อว่าที่สุดแล้ว ทั้ง BT และ SCIB จะต้องหาพันธมิตรต่างชาติเพื่อเข้ามาเสริมธุรกิจ และไม่ใช่แค่ 2 ธนาคารนี้เท่านั้น อาจจะรวมถึงธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAYที่มีข่าวมาตลอดว่าจะควบรวมกับ จีอี มันนี่ แม้ว่าผู้บริหารจะปฏิเสธก็ตาม

นอกจากนี้ธนาคารที่เกิดใหม่หลายแห่ง ก็จำเป็นต้องมองหาพันธมิตรเช่นกัน เพราะต่อไปการแข่งขันทางการเงินจะมีความรุนแรงมากขึ้น มีการเปิดเสรีทางการเงินประกอบกับเกณฑ์ใหม่ๆ จากทางการเช่น BASEL 2 ยิ่งทำให้ธนาคารที่มีขนาดไม่ใหญ่มากต้องหาพันธมิตรมาเสริมในเชิงธุรกิจเพื่อความอยู่รอด และสามารถแข่งขันได้

สำหรับ BT ขณะนี้แม้ว่าจะเป็นปีที่สิ้นสุดภาระแคปส์ที่จะต้องจ่ายให้กองทุนฟื้นฟูฯ แต่การลงรายละเอียดในทางบัญชียังไม่เรียบร้อย ดังนั้น ต้องรออีกสักระยะหนึ่งก่อนที่ BT จะเป็นคลีนแบงก์อย่างแท้จริง และที่ผ่านมาผู้บริหารธนาคารก็ยืนยันว่ามีการพูดคุยกับพันธมิตรต่างชาติ และน่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้

ด้านผลประกอบการสิ้นปี 2548 ของ BT มีกำไรสุทธิ 611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%จากปี 2547 โดยรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล เพิ่มขึ้นถึง 2,421 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากดอกเบี้ยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 765 ล้านบาท รายได้จากเงินลงทุน เพิ่มขึ้น 1,117 ล้านบาทเพราะมีการขยายสินเชื่อ และลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้น การให้เช่าซื้อและสัญญาเช่าทางการเงิน เพิ่มขึ้น 123 ล้านบาท รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการชดเชยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ 318 ล้านบาท

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:0500c8a397">

 กลับขึ้นบน
nikei
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 692
#1 วันที่: 04/03/2006 @ 12:14:03 : re: เปิดช่องSCIB-BTเพิ่มทุน - ไฟเขียวฝรั่งถือหุ้น เพิ่มศักยภ
.0008 .0008 ได้แต่แอบมอง BT วิ่ง .0008 .0008
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com