April 20, 2024   2:17:39 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > PICNI ป่วยถึงขั้น ICU
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 02/03/2006 @ 08:50:46
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คำโบราณที่ว่าช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิดไม่มิด คงเป็นสุภาษิตที่เหมาะสำหรับใช้กับงบการเงิน ปี 2548 ของบริษัท ปิคนิคคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือPICNI หลังผู้ตรวจสอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท เพราะตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ[/color:d95ab5b752">

เท่านั้นยังไม่พอ บริษัทยังมีผลการดำเนินงานขาดทุนถึง 3,059 ล้านบาท และยังมีหนี้สินเป็นภาระผูกพันอีก 8,574 ล้านบาท
สิ่งเหล่านี้ คือ ปัญหาที่บริษัทต้องรีบแก้ไขเพื่อให้หุ้น PICNI สามารถกลับมาเทรดได้เหมือนเดิม หลังถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP จนกว่าจะมีการแก้ไขงบการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี

นอกจากนี้หากมองไปข้างหน้าจะพบว่า ยังมีปัญหารออยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นปัญหา ใครจะกล้าใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามา ในเมื่อผลการดำเนินงานขาดทุนอย่างหนักรวมถึงภาระหนี้สินที่บริษัทแบกรับมีอยู่อีกบานเบอะ จนถึงขั้นถูกฟ้องร้องเพื่อบังคับใช้หนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียนที่อดีตผู้บริหารเคยคุยฟุ้งว่า เป็นบริษัทดีมีอนาคตไกล

-ขาดทุนบักโกรก[/color:d95ab5b752">
การประกาศผลการดำเนินงานงวดปี 2548 ของบมจ. ปิคนิคคอร์ปอเรชั่น (PICNI)ที่ปรากฏให้เห็นชัดว่าบริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิถึง 3,059.51 ล้านบาท ลดลง 3,294.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการลดลง 1,402.25 %โดยสาเหตุของกำไรสุทธิที่ลดลงดังกล่าวมีรายละเอียดที่มาจาก ดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 341.67ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 198.06 ล้านบาท

โดยสาเหตุของการเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้มีการขยายตัวทางธุรกิจอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547 เช่น การลงทุนในธุรกิจค้ำน้ำมันปิโตรเลียมเหลว, ขยายธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจขนส่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย จึงทำให้มีการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ สาเหตุหลักอีกประการคือ การขาดทุนจากการตัดจำหน่ายถังบรรจุก๊าซบริษัทมีการบันทึกผลขาดทุนจากการตัดจำหน่ายถังบรรจุก๊าซ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากรายงานการประเมินของผู้ประเมินอิสระได้รายงานการประเมินว่ามูลค่าถังบรรจุก๊าซต่ำกว่าที่บันทึกไว้เป็นสินทรัพย์ของบริษัทจำนวน 1,000 ล้านบาท

รวมถึงบริษัทมีการบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 1,516 ล้านบาท ซึ่งค่าเผื่อดังกล่าวประเมินจากประสบการณ์รับชำระหนี้ของบริษัท โดยส่วนที่เหลือค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย480.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 349.06 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุของการเพิ่มเนื่องจากในปลายปี 2547 บริษัทได้มีการลงทุนในธุรกิจค้ำน้ำมันปิโตรเลียมเหลว,ขยายธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลวทั้งในและต่างประเทศ และธุรกิจขนส่ง

สำหรับปัญหาทางบัญชีที่เกิดขึ้นซ้ำซากของ PICNI เหมือนกับเป็นความตั้งใจที่จะบิดเบือนข้อมูล ซึ่งน่าจะสอดคล้องกับตำรากลอุบายทางบัญชีที่มีอยู่ด้วยกัน ทั้งหมด 7 ประเภทโดยแยกเจตนาของการกระทำได้ 2 แบบ คือ 1. ต้องการเพิ่มกำไรในงวดปัจจุบัน โดยการเพิ่มรายได้และกำไร หรือลดค่าใช้จ่ายในงวดปัจจุบัน

2. ต้องการลดกำไรในงวดปัจจุบัน เพื่อเพิ่มกำไรในอนาคต โดยการลดรายได้หรือเพิ่มค่าใช้จ่ายในงวดปัจจุบัน สำหรับกรณีของ PICNI น่าจะใช้กลยุทธ์กลอุบายทางบัญชีเพื่อเพิ่มกำไรในงวดปัจจุบัน เพราะหลังจากมีการตรวจสอบทางบัญชีพบว่า มีการบันทึกค่าใช้จ่ายหลายส่วนไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางบัญชี โดยเฉพาะในส่วนของค่าใช้จ่ายโรงบรรจุแก๊ส

-ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่ออกความเห็น[/color:d95ab5b752">

การที่ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่อหมายเหตุประกอบงบการเงิน โดยให้เหตุผลว่างบการเงินนี้มีความไม่แน่นอนที่เป็นสาระสำคัญอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์และความสามารถในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ทำให้บริษัทฯอาจไม่สามารถขายสินทรัพย์ เก็บหนี้ และชำระหนี้สินได้ตามปกติธุรกิจ

ตามมาตรฐานทางวิชาชีพการสอบบัญชีข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 และสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันได้ในสภาพปัจจุบัน อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงมีหน้าที่ดำเนินการติดตามเรียกเก็บคืนจากลูกหนี้ต่าง ๆ หรือดำเนินการรับคืนมูลค่าสินทรัพย์ต่าง ๆ ของบริษัทฯจากบุคคลอื่น ถึงแม้ว่าจะมีการตั้งสำรองหนี้สูญหรือ สำรองเผื่อขาดทุนหรือตัดจำหน่ายไปแล้วก็ตาม
ทั้งนี้เพื่อลดความเสียหายแก่ปิคนิคให้เหลือน้อยที่สุด

ผลดังกล่าวทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตัดสินใจขึ้นเครื่องหมาย NP หลักทรัพย์ของ PICNIเนื่องจากบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้

นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ยังขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ PICNI ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 1 มีนาคม 2549 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปมีเวลาในการพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ PICNI ต่อไป พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 2 มีนาคม 2549 จนกว่า PICNI จะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข หรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าPICNI ไม่ต้องแก้ไขงบการเงินดังกล่าว

จากผลการดำเนินงานที่ขาดทุน รวมถึงความไม่โปร่งใสทางบัญชี เพียงแค่ 2 สิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า แม้จะมีใบบัวขนาดใหญ่ปิดซากช้างได้ แต่คงไม่สามารถปิดกลิ่นเน่าที่เล็ดรอดออกมาได้

-หุ้นเพิ่มทุนจะขายใคร[/color:d95ab5b752">

ปัญหาความไม่โปร่งใสทางบัญชีของ PICNI จนทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่แสดงความเห็นในงบการเงินปี 2548 ถือเป็นความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้นในจังหวะเดียวกับที่บริษัทจะทำการเพิ่มทุนเพื่อใช้หนี้อีกรอบ โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทได้เปิดช่องการขายหุ้นที่กว้างมากไม่ว่าจะเป็นการขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม การขายให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งช่องทางดังกล่าวคงจะยากที่จะนักลงทุนกลุ่มใด ใจกล้าที่จะใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาในสภาวะที่บริษัทมีปัญหาเรื้อรัง

อีกทั้งราคาหุ้นในกระดานอยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 0.70 บาท(ก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP)ขณะที่การใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนจะต้องใช้เงิน 1 บาท คงไม่ดีแน่ถ้าจะมีใครซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยราคาหุ้นในกระดานมีมูลค่าต่ำกว่า เท่านั้นยังไม่พอ หากตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย SP

และอนุญาตให้สามารถซื้อขายได้ตามปกติ เชื่อได้เลยว่าราคาหุ้นอาจร่วงลงต่ำกว่าราคาปิดก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องของผลประกอบการ และความโปร่งใสของงบการเงิน
ถ้าการเพิ่มทุนครั้งนี้ของPICNI มีปัญหา คงไม่ใช่ผู้บริหารเท่านั้นที่ต้องคิดหนัก หากยังรวมถึงบริษัทจัดการกองทุนต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น(B/E) อีกจำนวน 3 ราย คงต้องเป็นผู้ที่คิดหนักกว่าบริษัทเป็นแน่แท้
หากหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทไม่สามารถขายได้ จะทำให้บริษัทไม่มีเงินมาชำระคืนหนี้ที่ค้างอยู่ 510 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทได้เปิดช่องไว้ในกรณีที่หุ้นเพิ่มทุนขายไม่ได้ จะนำหุ้นเพิ่มทุนเหล่านี้ไปใช้ในการแปลงหนี้เป็นทุนแทน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเจ้าหนี้ที่ต้องยอมรับเงื่อนไขการแปลงหนี้เป็นทุนในครั้งนี้

ท่ามกลางสภาวะปัญหาที่รุมเร้าบริษัทอยู่ในขณะนี้ ใครจะเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติในการถือหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ รายย่อย หรือ เจ้าหนี้
ความหมายการแสดงหมายเหตุของผู้ตรวจสอบบัญชี

การอ่านหมายเหตุตามหลักการบัญชี จะมีข้อพิจารณาตามลำดับขั้นตอน เพื่อใช้เป็นข้อสังเกตความผิดปกติงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ จะถูกแบ่งเป็น 4 ระดับดังต่อไปนี้

1.แสดงความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไข เป็นหมายเหตุประกอบงบที่ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินถูกต้องในสาระสำคัญ ตามหลักการบัญชีที่รองรับทั่วไป โดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งความคิดเห็นระดับนี้ ถึงแม้จะมีความผิดของบัญชีแต่ไม่ถือเป็นความผิดอย่างมีสาระสำคัญ เป็นการออกรายงานให้ความเห็นแบบปกติทั่วไป

2.แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ข้อ คือ
2.1 ถูกจำกัดขอบเขต โดยสถานการณ์ และฝ่ายบริหาร เนื่องจากบางส่วนการตรวจสอบอาจไม่เป็นที่พอใจของผู้สอบ รวมถึงการมีหลักฐานไม่สมบูรณ์ หรือมีความไม่น่าเชื่อถือเกิดขึ้น
2.2แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขว่าไม่ถูกต้อง เพราะมีงบบางส่วนที่เป็นสาระสำคัญแต่ไม่มีการปฏิบัติตามหลักมาตรฐานการบัญชี
ทั้งนี้ในวรรคความเห็นของผู้สอบจะมีข้อยกเว้นไว้ ซึ่งจะมีวรรคก่อนหน้า คือวรรคแสดงความเห็นได้บรรยายไว้ว่าถูกจำกัดขอบเขต หรืออาจะมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักการบัญชี

3.ไม่แสดงความเห็น เป็นการถูกจำกัดขอบเขต ทำให้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่องบการเงินได้ เหมือนในข้อ 2.1 แต่จะมีระดับความมีสาระสำคัญอย่างมากกว่าข้อ 2.1รวมทั้งกรณีความไม่แน่นอนที่มีระดับสาระสำคัญมาก
4.แสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง จะคล้ายกับข้อ 2.2 แต่จะเป็นสาระสำคัญที่มากกว่า และมีผลกระทบต่องบการเงินเป็นอย่างมาก และคล้ายกับข้อ 3 โดยมีการปฏิบัติการไม่ถูกต้องตามหลักมาตราฐานบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึงจะมีผลกระทบต่องบการเงินอย่างมีนัยสำคัญมาก หรือถึงขั้นร้ายแรง

การไม่ขอแสดงความเห็นต่องบบัญชีงวดปี 48 ของPICNI นั้น จัดได้ว่าอยู่ในระดับ 3ของหมายเหตุประกอบงบการเงินทั้งหมดที่มีอยู่ 4 ระดับ(ดูล้อมกรอบ) ซึ่งเรียงลำดับตั้งแต่ระดับแรก คือ ระดับของสาระสำคัญ ต่อมาระดับที่ 2 ไม่เป็นสาระสำคัญ ส่วนระดับที่ 3-4ถือเป็นสาระสำคัญอย่างมาก ถ้างบการเงินใดได้รับเชิญให้อยู่ในระดับที่ 3-4 เชื่อแน่ว่างบการเงินจะต้องมีปัญหาที่จะต้องรีบแก้ไขด่วนอย่างแน่นอน

 กลับขึ้นบน
อาฟง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
#1 วันที่: 02/03/2006 @ 08:52:11 : re: PICNI ป่วยถึงขั้น ICU
เพิ่มทุนPICNIวุ่น งบปี48ไม่โปร่งใส[/color:5c2d1fa7ba">

ผู้ถือหุ้น PICNI ประกาศชัดไม่ใส่เงินเพิ่มทุนให้อีกแล้ว เหตุไม่เชื่อมั่นผู้บริหารแถมยังหมกเม็ดสินทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท หายไปไหนไม่รู้ แถมเจ้าหนี้ฟ้องร้องเพียบ ด้านผู้สอบบัญชี ระบุชัดการดำเนินธุรกิจไม่มีความแน่นอน

แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ถือหุ้นบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ PICNIเปิดเผยกับข่าวหุ้นธุรกิจว่าการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้(2มี.ค.)ผู้บริหารต้องมีคำตอบเรื่องงบการเงินปี 2548 หลังจากผู้บสอบบัญชีไม่แสดงความเห็น พร้อมตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่ขาดหายไปกว่า 1,000 ล้านบาท หลังจากที่ผ่านมาผู้บริหารไม่สามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าวได้

พร้อมกันนี้ผู้บริหารต้องชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินกว่า 3,374 ล้านบาทจากหนี้สินทั้งหมด 5,053 ล้านบาทที่ครบกำหนดชำระคืนในปี 2548 แต่บริษัทไม่สามารถชำระคืนได้จนเป็นเหตุให้เกิดการฟ้องร้องจาก 3 กองทุนรวมในช่วงที่ผ่านมา

ผู้ถือหุ้นกลุ่มดังกล่าว ระบุอีกว่า กรณีบอร์ดอนุมัติแผนเพิ่มทุน 1,478 ล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ เป็นเรื่องที่ผู้ถือหุ้นเดิมไม่อาจยอมรับได้ เพราะที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นราย่อยต่างเจ็บตัวกับ PICNI มามากพอแล้ว ที่สำคัญผู้บริหารไม่สามารถให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวต่างๆได้เลย และไม่มั่นใจว่าเงินที่ใส่เพิ่มลงไปจะถูกนำไปแก้ปัญหาให้ PICNI ได้จริงหรือไม่ ดังนั้นบริษัทควรขายหุ้นให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP)แทน

ขณะที่นางสาวศิราภรณ์ เอื้ออนันต์กุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3844 บริษัทสำนักงานเอินส์ท แอนด์ยัง จำกัด ระบุในรายงานผู้สอบบัญชีบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน)หรือ PICNI เกี่ยวกับงบการเงินงวดปี 2548 ว่า งบการเงิน PICNI มีความไม่แน่นอนหลายรายการ มีรายการธุรกิจกับกิจการที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเป็นจำนวนมากและการตรวจสอบมีข้อจำกัด ประกอบด้วย การถือรายได้จากการขายก๊าซราคาสูงผิดปกติเป็นเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น ข้อสมมติฐานการนำส่วนต่างของราคาขายก๊าซฯเข้าส่วนเกินทุน จากราคาขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว

รวมทั้งการพึ่งพิงกับกลุ่มธุรกิจหนึ่งและการจะได้รับคืนหนี้คงค้างโดย PICNI มียอดลูกหนี้ประมาณ 719 ล้านบาท และบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง มียอดลูกหนี้ประมาณ 150 ล้านบาทซึ่ง PICNI ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้แล้ว 719 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ข้อจำกัดการตรวจสอบถังบรรจุก๊าซขนาดเล็กที่อยู่ในการควบคุมของบริษัทโรงบรรจุก๊าซที่ PICNI ซื้อจากผู้ผลิตถังรายหนึ่ง เดิมบันทึกเป็นสินทรัพย์ประมาณ 2,166ล้านบาท หลังจากปรับจำนวนถังบรรจุก๊าซที่ขาดไป 1,000 ล้านบาทตามที่ผู้ประเมินทรัพย์สินได้ประเมินไว้

โดยฝ่ายบริหาร PICNI แจ้งว่ากำลังอยู่ระหว่างการหาสาเหตุที่แท้จริงของผลต่างดังกล่าว ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกิจในระดับปกติหรือไม่ปัจจุบันถังบรรจุก๊าซที่ซื้อจากผู้ผลิตถังรายดังกล่าว บันทึกในบัญชี PICNI มีมูลค่าเหลืออยู่ประมาณ 1,100 ล้านบาท

พร้อมทั้งโอกาสที่จะได้รับมูลค่าครบถ้วนในเงินมัดจำและถังบรรจุก๊าซขนาดใหญ่ จำนวนเงินประมาณ 705 ล้านบาทของ PICNI และ 258 ล้านบาทของบริษัทย่อย 2 แห่ง

ประเด็นสำคัญ PICNI มีความไม่แน่นอนของความสามารถในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพราะผลกระทบต่อโครงสร้างทางการเงิน PICNIและการฟ้องร้องจากเจ้าหนี้ซึ่ง PICNI อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องและการเพิ่มทุน

รวมถึงรายได้จากการติดตั้งระบบให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน และบริษัทที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มบริษัทโรงบรรจุก๊าซ และการได้รับคืนหนี้คงค้าง ซึ่งมียอดลูกหนี้จำนวน 254ล้านบาท การดำเนินธุรกิจน้ำมันปิโตรเลียม ที่มีลักษณะพึ่งพิงกับกลุ่มธุรกิจบางกลุ่ม และขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์และการต่อรองกับกลุ่มธุรกิจนี้ และยอดลูกหนี้คงค้าง 760 ล้านบาท ซึ่งPICNI ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้แล้ว 734 ล้านบาท พร้อมทั้งผลของคดีฟ้องร้องต่อ PICNI ของสำนักงานอัยการสูงสุดและโอกาสที่จะได้รับคืนมูลค่าของค่าความนิยมของบริษัทย่อยจำนวน 605 ล้านบาท

จากกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่างบการเงินมีความไม่แน่นอนที่เป็นสาระสำคัญอย่างมาก เป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์และความสามารถในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของบริษัท ทำให้บริษัทฯอาจไม่สามารถขายสินทรัพย์ เก็บหนี้และชำระหนี้สินได้ตามปกติธุรกิจ ดังนั้นตามมาตรฐานวิชาชีพการสอบบัญชีทางผู้สอบบัญชีอนุญาตจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินงวดสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2548 ได้

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:5c2d1fa7ba">
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 02/03/2006 @ 20:10:44 : re: PICNI ป่วยถึงขั้น ICU
ICU=0.10 .0008 .0008
 กลับขึ้นบน
lookwa
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 397
#3 วันที่: 03/03/2006 @ 18:37:02 : re: PICNI ป่วยถึงขั้น ICU
โหดไปอ่ะ...หลึงเดียวก้อพอ นะ นะ .0002 .0002 .0002 [/color:cc352f3253">[/size:cc352f3253">
 กลับขึ้นบน
nikei
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 692
#4 วันที่: 04/03/2006 @ 12:04:19 : re: PICNI ป่วยถึงขั้น ICU
ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ให้ 2 หลึง เอาป่าว ป้าวาว ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 [/color:82d1d9400b">
 กลับขึ้นบน
lookwa
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 397
#5 วันที่: 05/03/2006 @ 10:41:49 : re: PICNI ป่วยถึงขั้น ICU
2หลึงของนิคหรอ....ม่ายอาวอ่ะ .000b .000b

ถ้าของคนอื่น....อาจทบทวนใหม่ด้าย .0008 .0008 .0008 [/color:d1ae83526a">[/size:d1ae83526a">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com