????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 30/03/2006 @ 20:35:11 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หุ้นเล็ก ควงแขนให้ผลตอบแทนนักลงทุนสูงสุดในรอบเดือนนี้ไม่สนปัจจัยการเมืองร้อนแรงTWP- PRECHA นำทีมเพิ่ม 1029.63%และ414.29% ตามลำดับ หลังได้อานิสงส์หลุดรีแฮปโก้ ตลาดฯปล่อยวิ่งเต็มที่ ขณะที่MME แรงไม่เลิกให้ผลตอบแทนถึง 137.5% ในขณะที่ SET Index วันนี้วงการมั่น
ใจไปต่อได้ หลังแรงกดดันทางการเมืองคลี่คลายลง มีวินโดว์ เดรสซิ่งหนุน
แต่ให้ระวังหุ้น XD ที่มีถึง 36 ตัว ยังเป็นหนามยอกอกสำคัญ ในขณะที่ดัชนี
หลังเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย. เสร็จ[/color:dca8681206">
ใน 1 เดือนที่ผ่านมาหากจะบอกว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อยู่ในภาวะที่ผันผวนดัชนีแกว่งตัวมากที่สุดตั้งแต่รับศักราชใหม่ 2549 เป็นต้นมาเลยทีเดียว ทั้งนี้เพราะปัจจัยการเมืองที่ร้อนแรงและเขม็งเกลียวขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำทีมโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุลและพลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่ต้องการให้พ.ต.ท.ทัก
ษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ทำให้สถานการณ์การเมืองในประเทศตึงเครียด จนส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุนเป็นอย่างมาก ต่างประเทศเริ่มชะลอ
ที่จะนำเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาลงทุนเพราะห่วงว่าปัญหาที่การขึ้นการเมืองที่อาจ
จะยืดเยื้อจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศไปด้วยซึ่งเห็นได้จากปริมาณการซื้อขายสุทธิในเดือนมีนาคมนี้ที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีปริมาณการ
ขายต่อเนื่องและติดต่อกันมากขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ที่ยัง
คงมีปริมาณการซื้อสุทธิอยู่ ในขณะที่นักลงทุนประเภทสถาบันและนักลงทุน
ทั่วไป ก็ยังคงมีปริมาณการซื้อขาย ในแต่ละวันไม่มากเหมือนก่อนหน้านี้เช่น
กันเพราะไม่แน่ใจในสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะแม้การเลือก
ตั้งกำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 2 เมษายนนี้แล้วก็ตามแต่ความมั่นใจในสถานการณ์ดังกล่าวก็ยังไม่ดีขึ้น ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรได้ประกาศอีกครั้งว่าจะชุมนุมใหญ่
ครั้งใหม่ในวันที่ 7 เมษายน หลังจากเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยิ่งทำให้การเมืองในประเทศยังไม่ทีท่าว่าจบลงง่ายๆเพราะฉะนั้นการตัดสินใจลงทุนของ
นักลงทุนในช่วงนี้จึงอาจจะต้องชะลอออกไป
ทั้งนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในสัปดาห์นี้ก็คงเคลื่อนไหวผันผวนเช่น
กันโดยเปิดตลาดฯวันแรกของสัปดาห์นี้ ดัชนีปิดที่ระดับ 733.33 จุด เพิ่มขึ้น
จากวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งอยู่ที่ 730.85 จุด 2.48 จุด ส่วนวันที่ 28 มีนาคม ดัชนี
ลดลงจากวันที่ 27 มี.ค. 4.09 จุด โดยปิดที่ 729.24 จุดและลดลงอีกในวันที่ 28 มี.ค. 4.37 จุด มาปิดที่ 724.87 จุด และเพิ่มขึ้นอีก 6.12 จุด มาปิดที่ระดับ 730.99 จุดเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของ eFinancethai.com พบว่าในรอบเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมานี้ท่ามกลางกระแสการเมืองในปัจจุบันก็ยังคงมีหุ้นที่ให้
ผลตอบแทนได้ดีที่สุดและสามารถฝ่ามรสุมและความร้อนแรงทางการเมืองมา
ได้โดยให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุนมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมาโดยอีไฟแนนซ์
ได้รวบรวมมาทั้งสิ้น 10 อันดับ ประกอบด้วย
หุ้น ราคาปิด (1 มี.ค.) ราคาปิด (30 มี.ค.) เปลี่ยนแปลง %
1.TWP** 2.70 30.5 1,029.63
2.PRECHA** 0.70 3.60 414.29
3.MME 14.00 33.25 137.50
4.TGCI 1.80 3.84 113.33
5.SFP(XD) 45.00 89.00 97.78
6.DTCI 12.40 22.30 79.84
7.MODERN-W 1.55 2.72 75.48
8.NNCL-W1 3.04 4.64 52.63
9.SPORT-W 1.42 2.14 50.70
10.SPORT-W2 0.58 0.84 44.83
** TWP กลับเข้ามาซื้อขายวันที่ 21 มี.ค.49
** PRECHA กลับเข้ามาซื้อขายวันที่ 6 มี.ค.49
ที่มา : efinancethai.com
* CNS ระบุ TWP ได้อานิสงส์แรงหลังพ้นรีแฮปโก้
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน เปิดเผยว่า ราคาหุ้นบมจ. ไทยไวร์โพรดัคท์ (TWP)ที่ให้ผลตอบ
แทนสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาว่า คงเกิดจากแรงซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ได้กลับเข้ามาซื้อขายในหมวดปกติซึ่งนักลงทุนมองว่าบริษัทที่ออกมาจากหมวดฟื้นฟูกิจการย่อมมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคงมาก
ขึ้นประกอบจำนวนหุ้น TWP มีอยู่เพียง 27 ล้านหุ้นเท่านั้นถือว่าน้อยมาก ซึ่งเมื่อมีแรงซื้อเข้ามามาก ราคาหุ้นจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง
บริษัทที่ออกจากรีแฮปโก้ย่อมมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงดีขึ้นจากการปรับโครงการสร้างทางการเงินซึ่งพอทุกอย่างดีขึ้น ราคาหุ้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น
เพราะนักลงทุนคาดหวังว่าก็จะกลับเข้ามาซื้อ ซึ่งหุ้น TWP ก็เช่นกันเป็นหุ้นที่ออกจากรีแฮปโก้ จึงทำให้มีแรงซื้อเข้ามามากนายถนอมศักดิ์ กล่าว
* มองวันนี้ หุ้นวิ่งต่อ แต่ยังมี XD เป็นเสี้ยนหนาม
ส่วนทิศทางดัชนีฯ ในวันนี้คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อได้อีก แต่อาจจะ
ไม่มากนัก เนื่องจากแม้จะมีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนในเรื่องการประกาศตัวเลข
เศรษฐกิจเดือน ก.พ.ที่คาดว่าจะออกมาดี แรงกดดันทางการเมืองคลี่คลายลง
การทำวินโดว์ เดรสซิ่ง วันสุดท้ายจะยังมีอยู่ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้จะมีหุ้นที่
ขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับปันผล) ถึง 36 ตัว ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อดัชนีฯถึง 1.76 จุด ประกอบกับนักลงทุนอาจจะมีความกังวลเรื่องแรงขายในวันจันทร์ที่อาจจะเกิดขึ้นในหุ้นที่ทำวินโดว์ เดรสซิ่งไว้และกังวลเรื่องการขึ้นเครื่องหมาย XD ที่จะมีมากถึง 56 ตัว ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อดัชนีฯถึง 2.91 จุด จึงอาจจะทำให้การลงทุนบางส่วนยังชะลอต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าดชนีฯน่าจะยังปรับขึ้นไม่เกิน 734-737 จุดซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนคาดว่าในช่วงเช้าหุ้นตัวเล็กน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่อาจจะอ่อนแรงลงในช่วงท้าย เพราะเกรงการขายทิ้งในวันจันทร์ ซึ่งนัก
ลงทุนสามารถเก็งกำไรได้ นอกจากนั้น หุ้นในกลุ่มแบงก์-สื่อสารก็มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นซึ่งสามารถซื้อและขายที่แนวต้านได้เนื่องจากปัจจัยการเมืองที่รออยู่เบื้องหน้าอาจทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับลดลงได้อีก ทำให้นักลงทุนยังมีโอกาสซื้อหุ้นในราคาต่ำได้อีก
* มอง 1 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีอยู่ในกรอบ 721.758 จุด
ในขณะที่ภาวะตลาดหุ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น นายถนอมศักดิ์ มองว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบบริเวณ 721-758 จุด ซึ่งดัชนีฯได้ปรับตัว
ลดลงมาอย่างต่อเนื่องจากการที่นักลงทุนมีความกังวลจากความไม่แน่นอน
จากปัจจัยทางการเมืองตั้งแต่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา อีกทั้งยังมีการชุมนุมของทั้งกลุ่มพันธมิตรฯและกลุ่มสมัชชา
คนจนจึงส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนแล้วค่อยกลับเข้ามาลงทุน จึงถือเป็นอีกปัจจัยที่กดดันดัชนีให้ปรับตัวลดลง
* ชี้ ตลาดหุ้นหลังเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังจากการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายนนี้ว่าทิศทางตลาดฯยังคงไม่มีความชัดเจนเพราะยังไม่สามารถประเมินได้ว่าหลัง
จากการเลือกตั้งไปแล้วจะสามารถเปิดสภาภายใน30 วันได้หรือไม่และหากเปิดสภาไม่ได้แล้วจะมีวิธีหาทางออกอย่างไร และจะเป็นไปในรูปแบบไหนอีกทั้งหากสามารถสรุปรูปแบบได้แล้วจะเป็นที่พอใจของประชาชนส่วนใหญ่หรือไม่
ทั้งนี้ในช่วงที่ภาวะตลาดฯยังคงมีความไม่แน่นอนนั้นแนะนำลงทุนใน
หุ้นที่มีผลประกอบการที่แน่นอนเช่น กลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ที่มีรายได้จากค่าเช่า, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
*นครหลวงไทย แนะเล่นหุ้นมีประเด็น TOP- CPN- TPI
นางสาวธาริษา ชัยสุนทรโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดุห้นในวันพรุ่งนี้อาจจะยังผันผวนแต่มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้บ้างจากแรงซื้อในหุ้นพื้นฐาน และหุ้นที่มีประเด็น โดยนักลงทุนไม่ได้กังวลกับการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายนนี้ เนื่อง
จากนักลงทุนทราบดีว่าเหตุการณ์น่าจะยืดเยื้อ เพราะกลุ่มพันธมิตรจะมีการชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 7 เมษายน ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นก็จะไม่มี
นัยสำคัญกับดัชนีตลาดหุ้นมากนัก
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกเล่นหุ้นที่มีประเด็น เช่น TOP CPN TPI หากจะเล่นหุ้นขนาดเล็กคงเลือกเล่นหุ้นที่ไม่ได้ผลกระทบจากประ
เด็นทางการเมืองโดยประเมินแนวต้านอยู่ที่ 736 แนวรับที่ 730 จุด
ที่มา efinancethai.com[/color:dca8681206">
|
