April 19, 2024   5:20:13 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > EVERเล่นข่าวพ้นฟื้นฟูเดือนหน้า :เตือนหุ้นแพงเกินแล้ว-ปัจจัยพ
 

P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
วันที่: 03/04/2006 @ 22:04:05
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

EVER วิ่งรับข่าวหลุดแผนฟื้นฟูกิจการไม่เกินพ.ค.นี้ ไม่สนโบรกฯแนะปัจจัยพื้นไม่โดดเด่น ผู้บริหารแจงหลังทุกอย่างจบ เตรียมสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครู้จัก โดยผุดโครงการใหม่ในทำเลชานเมือง

เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา หุ้นบริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVERปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.40 บาท ปิดตลาด 6.10 บาท สูงสุด 6.10 บาท ต่ำสุด 4.76 บาท มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 25.68 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามาเล่นเก็งกำไร เพราะเชื่อว่าบริษัทจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ในช่วงเดือนเม.ย.หรือพ.ค.นี้

นักวิเคราะห์รายหนึ่ง ประเมินว่า ปัจจัยพื้นฐานหุ้น EVER ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนักเพราะเป็นหุ้นขนาดเล็กที่หมุนเวียนในตลาดไม่มากนัก รวมถึงบริษัทยังไม่มีโครงการเปิดใหม่ที่ชัดเจน แต่การที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทเตรียมออกจากแผนฟื้นฟูกิจการภายใน 1-2 เดือนนี้

นายสวิจักร์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการบริษัท พร๊อพเพอร์ตี้ แพลนเนอร์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ EVER เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ในช่วงเม.ย-พ.ค.นี้ จากนั้นจะมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ โดยมีการนำบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการของบริษัท

หลังการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทจะเร่งสร้างแบรนด์ของบริษัทให้เป็นที่รู้จักโดยจะมีการหาทำเลในบริเวณชานเมือง ทั้งทางด้านตะวันตกและตะวันออก เพื่อเปิดโครงการขนาดไม่ใหญ่ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ในกระบวนการขายมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,300 ล้านบาท อาทิ โครงการมายโฮม ประชาชื่น เป็นโครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการคงเหลือประมาณ 90 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังมีโครงการมายโฮมทาวน์ เทพารักษ์ เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นมูลค่าโครงการเหลือประมาณ 500 ล้านบาท โครงการมายวิลล่าบางนา ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน 1 อาคาร มูลค่าโครงการ ประมาณ 436 ล้านบาท อาคารที่พักอาศัย มูลค่าโครงการคงเหลือ170 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีโครงการที่คาดว่าจะเปิดขายช่วงไตรมาส 2/49 ประกอบด้วย โครงการมายโฮม เชียงใหม่ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว โดยเฟสแรกจะเปิดขายจำนวน 150 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท และโครงการมายโฮม สุวินทวงศ์ เฟสแรกจะเปิดขาย 150 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท

การประเมินรายได้บริษัทช่วง 1-2 ปีนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก เพราะช่วงที่ผ่านมาบริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ จึงทำให้รายได้ที่เข้ามาต้องมีการนำไปชำระหนี้ แตกต่างจากรายได้ที่จะเข้ามาในอนาคต ปัจจุบันบริษัทมีการจ่ายชำระหนี้ไปค่อนข้างมากแล้ว ในส่วนของรายได้ช่วงไตรมาส 1/49 จะเติบโตกว่าช่วงไตรมาส 4/48 และช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก โดยคาดว่ารายได้ทั้งปี 49 จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทนายสวิจักร์ กล่าว

ที่มา:
ข่าวหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com