พนักงานกฟผ.2.5 หมื่นคน ปิดปากเงียบ หลังสำลักผลประโยชน์หุ้นจอง 4.6 พันล้าน บางรายหวังจับเสือมือเปล่าฟันกำไรนอกตลาด 2 เท่า โก่งราคาจะขายต่อหากได้ราคาขั้นต่ำ 30 บาท/หุ้น ส่วนประธานสร.กฟผ.ลั่น!ไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้น ขณะที่ล่าสุดกฟผ.เตรียมวงเงินกู้ 6 พันล้าน รองรับพนักงานที่คาดจะใช้สินเชื่อซื้อหุ้นถึง 72 %โดยมาจากสหกรณ์กฟผ.4 พันล้าน และแบงก์นครหลวงไทย 2 พันล้าน แถมให้ดอกเบี้ยต่ำล่อใจ


?????????????????????????????????????.


เสียงคัดค้านของพนักงานบริษัท กฟผ.จำกัด(มหาชน)ที่ไม่ต้องการให้หุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเงียบลง ตามมาด้วยการให้ผลประโยชน์ก้อนโตเรื่องหุ้น ให้แก่พนักงานบมจ.กฟผ. 25,000 คน ขณะที่ฝั่งของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ เตรียมตัวรับภาระค่าไฟฟ้าเพิ่มวันที่ 1 ตุลาคมศกนี้ หลังจากมติครม.อนุมัติให้บมจ.กฟผ.ปรับสูตรการคำนวณค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(Ft)โดยกำหนดเป็นศูนย์ จากปัจจุบันค่าเอฟทีเท่ากับ 46.83 สตางค์ต่อหน่วย โดยดึงค่าเอฟที มาใส่ไว้ในค่าไฟฟ้าฐาน จากเดิม 2.25 บาทต่อหน่วย ปรับเป็น 2.72 บาทต่อหน่วย และจะตรึงค่าไฟฟ้าไว้ 3 ปี (ต.ค.2548-ต.ค.2551)


ทั้งนี้ตามมติคณะรัฐมนตรีหรือครม.วันที่ 30 สิงหาคม 2548 และคำสั่งกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่บมจ.กฟผ.เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2548 ให้บมจ.กฟผ.เพิ่มทุนจดทะเบียน 20,000 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 60,000 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 80,000 ล้านบาท (พาร์10 บาท) โดยให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,000 ล้านหุ้น แบ่งจัดสรรให้พนักงานและผู้บริหารบมจ.กฟผ. 460 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ที่ 10 บาท ต่อหุ้น ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 1,540 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไป


โดยกำหนด 2 ทางเลือกในการจัดสรรหุ้นแก่พนักงานและผู้บริหารบมจ.กฟผ. ดังนี้ ทางเลือกที่ 1 เป็นการให้หุ้นเปล่าหรือให้ฟรี ส่วนทางเลือกที่ 2 ให้พนักงานซื้อหุ้นในราคาพาร์(10 บาท) ซึ่งทั้ง 2 ทางเลือกพนักงานจะได้ประโยชน์เท่ากันคือ จะได้รับการจัดสรรหุ้นจำนวน 8 เท่าของเงินเดือน


-พนักงานกฟผ.เลือกควักเงิน


หลังจากบมจ.กฟผ.ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลลิ่ง)เพื่อขออนุมัติกระจายหุ้นให้พนักงานและผู้บริหาร เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ฐานเศรษฐกิจได้ติดตามความเคลื่อนไหวของพนักงานบมจ.กฟผ.และการเตรียมความพร้อมเพื่อจองซื้อหุ้นพบว่า ขณะนี้ทางบมจ.กฟผ.ได้เตรียมแหล่งเงินกู้ไว้พร้อมแล้ว


สอดคล้องกับนายพิชัย จุลพงศธร รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริหาร บมจ.กฟผ. ที่กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า พนักงานและผู้บริหารในสัดส่วนกว่า 90 %หรือประมาณ 24,300 คน จากจำนวนพนักงานและผู้บริหารทั้งหมดในปัจจุบัน 27,000 คน สนใจเลือกแนวทางที่ 2 คือ ซื้อหุ้นในราคาพาร์ เนื่องจากจะได้หุ้นมากกว่าวิธีแรก(ให้หุ้นฟรี)


-เปิดสูตรคำนวนผลประโยชน์ 4 พันกว่าล้าน


เอกสารจากบมจ.กฟผ.ได้คำนวนผลประโยชน์หุ้นที่พนักงานจะได้รับหากเลือกแนวทางที่ 2 คือ การซื้อหุ้นราคาพาร์ โดยสมมุติพนักงานที่มีเงินเดือน 20,000 บาท ต่อเดือน รับผลประโยชน์หุ้น 8 เท่าของเงินเดือน คิดเป็นจำนวน 160,000 บาท มีสิทธิซื้อหุ้นในราคาพาร์(10 บาท)ขณะที่สมมุติราคาหุ้นที่เสนอขายประชาชนทั่วไป( IPO)ที่ราคา 30 บาท /หุ้น โดยเมื่อนำผลต่างของราคาIPOกับราคาพาร์ (30-10 ) คือ 20 บาท ไปหาร 160,000 พนักงานจะมีสิทธิซื้อหุ้นราคาพาร์จำนวน 8,000 หุ้น แต่ต้องเสียเงินซื้อหุ้นเอง 80,000 บาท


ส่วนทางเลือกแรก คือ การรับหุ้นฟรี ซึ่งพนักงานเลือกแนวทางดังกล่าวไม่ถึง 10 %จากจำนวนพนักงานทั้งหมดนั้น สำหรับสูตรการคำนวนมีดังนี้ สมมุติพนักงานมีเงินเดือน 20,000 บาท ต่อเดือน ผลประโยชน์ 8 เท่าของเงินเดือน คิดเป็นจำนวน 160,000 บาท นำราคาหุ้นIPOสมมุติที่ 30 บาท /หุ้น หาร 160,000 บาท พนักงานจะได้หุ้นให้เปล่าจำนวน 5,333 หุ้น


ดังนั้นคาดว่าผลประโยชน์ที่พนักงานบมจ.กฟผ.จะได้รับจากหุ้นครั้งนี้ประมาณ 4,600 ล้านบาท เมื่อคำนวนจากจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้พนักงานและผู้บริหาร 460 ล้านหุ้น คูณด้วยราคาจองซื้อที่พาร์ 10 บาท


-เตรียมวงเงินกู้ 6,000 ล้าน


นายพิชัย กล่าวว่า จากการสำรวจแหล่งเงินที่พนักงานจะใช้จองซื้อหุ้นบมจ.กฟผ. พบว่าส่วนใหญ่หรือประมาณ 18,000 คน มีความประสงค์จะกู้เงิน และขณะนี้บริษัทได้เตรียมแหล่งเงินกู้รองรับ 2 แหล่ง คือ เป็นเงินกู้จากสหกรณ์ออมทรัพย์ กฟผ.ประมาณ 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5 % ต่อปีชำระไม่เกิน 3 ปี ส่วนอีก 2,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้จากธนาคารนครหลวงไทย


-สคิป ปล่อยกู้ดอกเบี้ยพิเศษ


นางสาวอังคณา สวัสดิ์พูน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานนโยบายและแผนธนาคารนครหลวงไทย กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า ธนาคารได้ปล่อยกู้ให้กับบมจ.กฟผ. 2 ส่วนคือ การปล่อยกู้โดยตรงให้กับพนักงานที่มีจำนวน 27,000 คน โดยมีวงเงินกู้ประมาณ 2,000 ล้านบาท กำหนดอายุสัญญากู้ 3 ปี 1 เดือน นับจากหุ้นบมจ.กฟผ.เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ย 3ระยะคือ เดือนที่ 1-13 อัตราดอกเบี้ย 3.75%ต่อปี เดือนที่ 14-25 อัตราดอกเบี้ย 4.5%ต่อปี และเดือนที่ 26-37 อัตราดอกเบี้ย 5.25%ต่อปี


โดยธนาคารให้กู้เต็มตามสิทธิและภาษี และให้กู้เฉพาะการชำระภาษีอย่างเดียว ทั้งนี้เงื่อนไขในการปล่อยกู้ต้องเป็นพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเท่านั้น โดยยกเว้นพนักงานที่ครบอายุเกษียณในวันที่ 30กันยายน 2548และพนักงานที่เกษียณก่อนอายุภายในปี2548 ขณะเดียวกันพนักงานผู้กู้จะต้องมีรายได้สุทธิเพียงพอต่อการชำระดอกเบี้ยรายเดือนของเงินกู้และต้องนำหุ้นจำนำเป็นหลักทรัพย์ค้าประกันเงินกู้ นอกจากนี้ธนาคารยังพิจารณาให้กู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ของบมจ.กฟผ.อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางพนักงานบมจ.กฟผ.สามารถเลือกกู้เงินผ่านธนาคารโดยตรงหรือจะกู้ผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์กฟผ.ก็ได้


ถ้ากู้ผ่านแบงก์โดยตรงพนักงานก็จะได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ หากกู้ผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์แม้อาจจะจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่านิดหน่อย แต่พนักงานก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนในฐานะสมาชิก เช่น การได้รับเงินปันผลประจำปี ซึ่งเมื่อหักดอกเบี้ยเงินกู้แล้ว อาจจะมีต้นทุนต่ำกว่ากู้กับธนาคารก็เป็นได้ ฉะนั้นขึ้นอยู่กับตัดสินใจของพนักงานบมจ.กฟผ.นางสาวอังคณากล่าว


-จ้องจับเสือมือเปล่าฟันกำไร 2 เท่า


พร้อมกันนี้ฐานเศรษฐกิจได้สอบถามท่าทีของพนักงานบมจ.กฟผ.บางส่วนหลังได้รับการจัดสรรหุ้นนั้น พบว่ามีพนักงานบางส่วนที่จะขายทำกำไรต่อให้บุคคลอื่นที่คาดว่าจะมีการกว้านซื้อหุ้นนอกตลาด โดยส่วนใหญ่น่าจะเป็นพนักงานในต่างจังหวัดที่ไม่มีความรู้เรื่องหุ้น และพนักงานที่ฐานะไม่ดี


สำหรับราคาที่พอใจจะขายต่อต้องอยู่ในระดับ 30 บาทต่อหุ้นขึ้นไป หรือมีกำไรประมาณ 2 เท่า จากราคาจอง (10 บาท) อย่างไรก็ตามจากการแนะนำของผู้บริหารของบริษัทนั้น ต้องการให้พนักงานซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาวถือนานๆเพราะโอกาสที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นหรือประมาณ 2-3 เท่าตัวนั้น มีโอกาสสูงมาก เนื่องจากธุรกิจบมจ.กฟผ.เป็นธุรกิจที่ผูกขาดรายเดียว


นอกจากนี้ แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า พนักงานบางส่วนที่ไม่มีเงินซื้อและต้องการจะขายหุ้นในราคาที่พอใจคือ ระดับ 30 กว่าบาทต่อหุ้นขึ้นไปนั้น โดยการขายหุ้นต่อให้พนักงานด้วยกัน แต่ใช้ชื่อพนักงานที่ได้สิทธิจองซื้อ ขณะที่เงินจะมาจากพนักงานที่ต้องการซื้อหุ้นต่ออีกทอดหนึ่ง และจะมีการตกลงด้วยการทำสัญญาเงินกู้ในวงเงินเท่ากับราคาที่มีการตกลงซื้อขาย เช่นที่ราคา 30 บาท ต่อหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นที่ได้รับการจัดสรร ดังนั้นโดยเฉลี่ยพนักงานก็พอใจกับกำไรที่จะได้รับจากการขายหุ้นจำนวน 20 บาทต่อหุ้น ขณะที่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในการกู้เงินซื้อหุ้นด้วย


อนึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดหลักเกณฑ์การห้ามพนักงานและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจขายหุ้น(ไซเรนพีเรียต)เป็นระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่หุ้นเข้าซื้อขาย และหลังจากนั้นสามารถขายได้ทุก ๆ6 เดือน ในสัดส่วน 25 % ของจำนวนหุ้นที่ติดไซเรนพีเรียต


-สร.กฟผ.จำใจรับสภาพต้านแปรรูปไม่สำเร็จ


นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจ บมจ.กฟผ.ให้ความเห็นว่า สำหรับจุดยืนของสหภาพฯ ยังดำเนินการคัดค้านการแปรรูปกฟผ.อยู่ เพราะไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการนำสมบัติของชาติไปขาย และจะทำให้ผู้บริโภคต้องใช้ไฟฟ้าในราคาที่แพงขึ้น ซึ่งเวลานี้ได้เริ่มมีการส่งสัญญาณให้เห็นแล้วว่าค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อกฟผ.เข้าตลาดฯ เพราะรัฐบาลได้อนุมัติให้ค่าเอฟทีที่เป็นอยู่ปัจจุบันไปรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน และให้คิดค่าเอฟทีใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป การที่รัฐบาลออกมาบอกว่าค่าไฟฟ้าต่อไปจะขึ้นลงตามราคาเชื้อเพลิงจึงเป็นไปไม่ได้ เพราะได้มีการปรับค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นล่วงหน้าไปแล้ว


ส่วนการที่พนักงานเคยต่อสู้เพื่อคัดค้านการแปรรูปนั้น ต้องยอมรับกับผลประโยชน์ที่ให้นั้น เพราะที่ผ่านมาได้ถูกหมายหัวมาตลอด โดยหากยังคัดค้านอยู่ก็จะมีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนและให้ออกจากงาน และเมื่อกฟผ.แปลงเป็นบริษัทมหาชนได้แล้ว ทำให้พนักงานยอมรับการแปรรูปมากขึ้น ประกอบกับทางรัฐบาลได้บีบกฟผ. ทำให้ผู้บริหารต้องลงมาบีบพนักงานมากขึ้นด้วย จนสุดท้ายเมื่อกระแสสังคมไม่ตอบรับกับการต่อต้าน จึงทำให้พนักงานต้องหันไปยอมรับกับผลประโยชน์ที่ได้แทน แต่ในส่วนตัวไม่ขอรับหุ้นที่ได้สิทธิแต่อย่างใด

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

[/color:597a676cde">

ว่าเเล้วเอาเงินฟาดหัวเสร็จทุกราย

คัดค้านก้อว่า...เสือนอนกิน
ยอมแพ้ก้อว่า...เสือหิว
ยังดีนะ..ได้เป็นเสือ .0002