PICO ยอมตัดใจขายคืนหุ้น"บีอีซีเทโรเอ็กซ์ซิบิชั่น"39% ให้กับกลุ่มช่อง 3 ยอมรับกำไรปีนี้ลดฮวบ หลังการเมืองวุ่นไม่จบ ส่งผลงานอีเว้นต์เงียบ ลุ้นครึ่งปีหลังสถานการณ์น่าจะเริ่มดีขึ้น นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน)หรือ PICO เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาราคาขายหุ้นบริษัท บีอีซีเทโร เอ็กซ์ซิบิชั่นส์ จำกัด ที่ถืออยู่ประมาณ 39% คืนให้กับบริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยคาดว่าสิ้นก.ค.นี้ น่าจะดำเนินการซื้อขายเสร็จสิ้น "บริษัทแม่บีอีซี เทโร เอ็กซ์ซิบิชั่นส์ ต้องการซื้อหุ้นคืนกลับไป แม้ว่าเราจะเสียดายแต่มองว่าถ้าเขาได้ไปจะเป็นประโยชน์มากกว่าก็ยินดีขายคืนไปให้ โดยไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้เป็นตัวเลขไปแล้ว"นายศีลชัยกล่าว นายศีลชัย กล่าวว่า บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานจัดกิจกรรมในต่างประเทศ เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้(สิ้นสุดก.ย.50)ไว้ที่ระดับ 23-24% แม้ว่าครึ่งปีแรก(สิ้นสุดเม.ย.50) อัตรากำไรขั้นต้นบริษัทอยู่ที่ 22%โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานจัดอีเว้นท์ในประเทศแถบเอเซียแปซิฟิก มูลค่างานประมาณ 50 ล้านบาท โดยยอมรับว่าปีนี้กำไรสุทธิจะไม่เติบโตจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท เนื่องจากภาวะการเมืองที่ไม่ชัดเจน เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้งานจัดกิจกรรมเกิดการชะงักตามไปด้วย "ปีนี้คงจะพยายามรักษากำไรให้ใกล้เคียงกับปีก่อนเพราะคาดการณ์สถานการณ์ยากมาก ไม่รู้ว่า 6 เดือนจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ภาคเอกชนหลายๆแห่งชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์"นายศีลชัยกล่าว ทั้งนี้บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือเติบโตใกล้เคียงปีก่อน ที่มีรายได้ 750-780 ล้านบาท จากเดิมที่วางเป้าหมายไว้เติบโต 15%เนื่องจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว งานอีเว้นท์ต่างๆ เกิดการชะงัก โดยล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาบริษัทมีมูลค่างานในมืออยู่ 200 ล้านบาทและอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีก 3-4 โครงการ มูลค่ารวม 50-60 ล้านบาท ขณะเดียวกัน PICO หันรับงานประเภทจัดกิจกรรมด้านการพัฒนาองค์ความรู้(KNOWLEDGE DEVELOPMENT) มากขึ้นจาก 24%เป็น 30% เพราะงานประเภทดังกล่าวมีระยะเวลาการรับรู้รายได้ค่อนข้างนานประมาณ 12 เดือน 18 เดือน และ 24 เดือน ช่วยทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง แม้ว่างานประเภทดังกล่าวจะมีกำไรขั้นต้นไม่แตกต่างไปจากงานจัดกิจกรรมทางการตลาดก็ตาม "แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งตามกำหนด แต่เชื่อว่าลูกค้าหลายรายคงไม่ควักเงินเพื่อจัดกิจกรรมทางการตลาดมากนัก เพราะความไม่ชัดเจนมันสะสมมานานมากแล้วและยังไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก ผมว่ามันเหมืองแสงสว่างปลายอุโมงค์" ปัจจุบันบริษัทมีงานประเภทจัดกิจกรรมทางด้านการพัฒนาองค์ความรู้ ที่เตรียมดำเนินการในปี 50 หลายโครงการ อาทิงานพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติมูลค่างานประมาณ 150ล้านบาทซึ่ง PICO ได้ร่วมกับบริษัท STORYL LNC(ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง THE LORD OFTHE RINGS) ในการออกแบบ และจัดทำนิทรรศการและส่วนจัดแสดง เพื่อเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและมรดกแห่งงานศิลป์ของบรรพกาล "แม้เศรษฐกิจและการเมืองจะยังไม่ชัดเจน แต่เราเชื่อว่างานที่มาจากลูกค้าเดิมจะยังวางใจให้เราทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันงานที่ได้จากลูกค้าเดิม จะอยู่ในระดับประมาณ 60-70% ที่เหลือเป็นงานจากลูกค้าใหม่ประมาณ 30% อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทรับงานภาคเอกชน 70 และภาครัฐ 30%" | เข้าชม: 2,528 |
|