ฐาปน

หลังจากนี้กลุ่มทุนใหม่จะต้องจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม โดยผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายร็อบ คอลลินซ์, นายเอียน ดอนนาคี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ยอมขายหุ้นให้จำนวน 170 ล้านหุ้น ในราคา 2.04 บาท หรือต้องใช้เงินอีก 346.8 ล้านบาท ซึ่งรวมกับว่าการซื้อหุ้นใหม่จะใช้เงินลงทุนครั้งนี้ทั้งสิ้น 796 ล้านบาท เพื่อถือหุ้นในสัดส่วน 51.84%

“การเพิ่มทุนในครั้งนี้นับเป็น ก้าวสำคัญของบริษัท ในการก้าว ขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะจะได้รับ การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหม่ ซึ่งมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง” นางอรฤดี กล่าว

นอกจากนี้ การเพิ่มทุนและซื้อ หุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่นี้จะทำให้กลุ่ม ผู้ลงทุนใหม่กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ผู้บริหารระดับสูง ทีมงานบริหารและพนักงาน ยังได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ต่อไป

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า การเข้าลงทุนใน UV เพราะเชื่อมั่นในผลการดำเนินงาน แนวทางการลงทุน และทีมงานผู้บริหารของบริษัท โดยจะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทที่จะลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพ และสร้างผลตอบแทนได้เป็นที่น่าพอใจ

นอกจากนี้ ยังยืนยันที่จะให้ UV เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและยังคงใช้ทีมบริหารชุดเดิม และพัฒนาให้เป็นบริษัทชั้นนำต่อไปในการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ ลูกชายนายเจริญซื้อหุ้น UV ในราคาต่ำกว่าปิดครั้งล่าสุดที่ 2.18 บาท และหุ้นได้หยุดการซื้อขายมา 2 วัน โดยคาดว่าจะเปิดซื้อขายตามปกติตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. เป็นต้นไป และราคาหุ้นวันนี้ น่าจะปรับตัวขึ้นแรง ขานรับข่าวดีกลุ่มทุนใหม่

ปัจจุบันกลุ่มนายเจริญเป็น เจ้าของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง เช่น บริษัท อาหารสยาม (SFP) บริษัท โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) และปัจจุบันยังมีแผนที่จะนำบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ หรือเบียร์ช้าง เข้าตลาดหุ้นไทยเป็น แห่งที่ 2 หลังประสบ ความสำเร็จในตลาดหุ้นสิงคโปร์