บมจ. แคล-คอม อีเล็คโทรนิคส์ (CCET) ซื้อ ราคาปิด (บาท) 6.05 ราคาเป้าหมาย (บาท) 7.90 SET Index 826.65
รายจ่ายครั้งเดียวทำให้กำไรไตรมาส 4/50 ต่ำกว่าคาด
แนวโน้มปีนี้ยังเติบโตแข็งแกร่งและให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสม่ำเสมอ
* กำไรปกติปี 2550 เติบโตถึง 22% เป็น 9.7 พันล้านบาท ในสัปดาห์ที่แล้ว CCET รายงานผลประกอบการปี 2550 มีกำไรสุทธิ 2.9 พันล้านบาทและกำไร ปกติหลังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.97 พันล้านบาท (0.76 บาท/หุ้น) ถือเป็นการเติบโตอย่างโดด เด่นถึง 22% จากปีก่อนหน้า ยอดขายในสกุล US$ เพิ่มขึ้นถึง 32% เป็น 2.7 พันล้านเหรียญฯ ในขณะที่ ยอดขายในสกุลบาทเพิ่มขึ้น 21% เป็น 9.4 หมื่นล้านบาท อันเนื่องมาจากการขยายธุรกิจเครื่องโทรศัพท์ เคลื่อนที่ไปยังตลาดอินเดียซึ่เงป็นตลาดขนาดใหญ่ อีกทั้งการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจเครื่องพิมพ์ set-top box และ PBCA สำหรับฮาร์ดดิสค์ไดร์ฟ (HDD) ในขณะที่สามารถรักษาระดับอัตรากำไรจาก การดำเนินงานที่ 3.5%
* กำไรไตรมาส 4/50 ต่ำกว่าคาดเนื่องจากการบันทึกค่าใช้จ่ายครั้งเดียว CCET บันทึกค่าใช้จ่ายครั้งเดียวราว 100 ล้านบาทในไตรมาส 4/50 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ของสายการผลิตสินค้ากลุ่มโทรคมนาคมเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่จากตลาดใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามาในปี 2551 ด้วยค่าใช้จ่ายดังกล่าวทำให้กำไรปกติในไตรมาส 4/50 ตกลง 7% yoy และต่ำกว่าประมาณการของเรา 103 ล้านบาทหรือ 14% และเป็นสาเหตุให้ราคาหุ้น CCET ตกลง 3% หลังประกาศผลประกอบการด้วย
* ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.20 บาท/หุ้นสำหรับการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 0.20 บาท/หุ้นสำหรับการดำเนินงานครึ่งปีหลังตามคาด มีกำหนดขึ้น เครื่องหมาย XD วันที่ 4 มี.ค. และกำหนดจ่ายเงิน 24 เม.ย. ทั้งนี้เมื่อรวมกับครึ่งปีแรกทำให้เงินปัน ผลรวมสำหรับงวดปี 2550 เป็น 0.40 บาท/หุ้นเทียบเท่า อัตราตอบแทน 6.6% ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน
* คาดกำไรปกติปีนี้เติบโต 15% เป็น 3.4 พันล้านบาท ธุรกิจของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตดีในปีนี้ ด้วยสัญญาล่าสุดกับ Seagate ซึ่งเป็นผู้ผลิต HDD อันดับ 1 ของโลก ที่จ้างโรงงานของ CCET ในจีนผลิตตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นไปจากเดิมที่จ้างแต่โรงงานใน ไทย และเป็นปัจจัยหลักทำให้ยอดขายในเดือน ม.ค.51 เติบโตถึง 26% yoy เป็น 248 ล้านเหรียญฯ ยิ่งไปกว่านั้น การขยายกำลังการผลิตของ Western Digital ซึ่งเป็นผู้ผลิต HDD อันดับ 2 ของโลกและ เป็นลูกค้าธุรกิจ PCBA ของ CCET เช่นกันก็คาดว่าจะส่งผลบวกต่อบริษัทด้วย นอกจากนั้น หลังจากที่บริษัท มีลูกค้าใหม่เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอินเดียเมื่อต้นปีที่แล้วกับลูกค้าใหม่ set-top box เมื่อปลายปีที่แล้ว ผู้บริหารของบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ามาอีกในปีนี้จากทางอเมริกาเหนือและ อินเดีย โดยในปีนี้ประเทศไทยและภูมิภาคนี้กลับมามีความน่าสนใจขึ้นอีกครั้งหลังจากค่าแรงในจีนเพิ่มขึ้นมาก เราคาดว่ายอดขายปีนี้จะขยายตัว 18% เป็น 1.1 แสนล้านบาทและกำไรปกติจะเติบโต 15% เป็น 3.4 พันล้านบาทหรือ 0.79 บาท/หุ้น (สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 32.5 บาท/US$)
* แนะนำ ซื้อ เพื่อนการเติบโตต่อเนื่องและเงินปันผลน่าสนใจ ด้วยแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง การจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตราที่น่าสนใจและราคา เหมาะสม 7.9 บาท/หุ้น อ้างอิง P/E 10 เท่า เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ
บล.กิมเอ็ง
|