บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)

แนวโน้มที่สดใสสะท้อนในราคาหุ้นแล้ว

เต็มมูลค่า
ราคาปิด (บาท)          8.65
ราคาเป้าหมาย (บาท)     8.10
SET Index           838.74

* ผลประกอบการไตรมาส 4/50 ลดลง 41% จากปีก่อนและ 36% จากไตรมาสก่อน
        LH ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4/50 ที่ 753 ล้านบาท โดยลดลง 41% จากปีก่อนและ
36% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้เนื่องจากยอดขายที่ชะลอตัวลง อัตรากำไรที่หดตัว และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท
ร่วมที่ลดลง รายได้ลดลง 22% จากปีก่อนเป็น 4.55 พันล้านบาท เพราะปีที่แล้วมีแคมเปญทูเดย์ สเปเชียล
ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมาก อัตรากำไรขั้นต้นรวมลดลงเหลือ 29.9% จาก 31.6% ในไตรมาสก่อน เนื่อง
จากรายได้ค่าเช่ามีอัตรากำไรเป็นลบ เพราะต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาเต็มจำนวนในขณะที่อัตราการเข้าเช่า
ยังต่ำ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของการขายบ้านก็ลดลงเช่นกัน เหลือ 30.8% จาก 31.7% ในไตรมาสก่อน
เนื่องจากต้นทุนทางอ้อมที่ค่อนข้างคงที่ แต่ฐานรายได้ลดลง ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง 76% จากปี
ก่อน เนื่องจาก LHPF ซึ่ง LH ถือหุ้นอยู่ 50% บันทึกกำไรจำนวนมากจากการขายอาคารเวฟเพลสในงวด
เดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น แต่กำไรทั้งปี 2550 ลดลง 2.7% เป็น 3.16 พันล้านบาทหรือ
0.36 บาทต่อหุ้น เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำลงและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลง

* ตั้งเป้ารายได้โต 13% ในปี 2551LH
        ตั้งเป้ารายได้จากการขายบ้านโต 13% เป็น 2.1 หมื่นล้านบาทในปี 2551 โดยจะเปิด 14
โครงการใหม่ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจะกระทบต่อต้นทุนของ LH ประมาณ
2-3% ในปีนี้ เราคาดว่า LH จะต้องปรับขึ้นราคาขายบ้านในบางโครงการ เพื่อที่จะรักษาเป้าอัตรากำไร
ขั้นต้นที่ 31% เราคาดว่ารายได้ปีนี้จะโต 13% เป็น 2.1 หมื่นล้านบาท (รวมรายได้ค่าเช่าจาก LH
Property ซึ่ง LH ถือหุ้นอยู่ 60%) และคาดว่ากำไรจะโต 11% เป็น 3.51 พันล้านบาทหรือ 0.40 บาท
ต่อหุ้นจ    แนวโน้มที่สดใสสะท้อนในราคาหุ้นแล้วเราเชื่อว่าแนวโน้มที่สดใสของกลุ่มอสังหาฯ จากการคาด
การณ์อัตราดอกเบี้ยจะลดลง และพรีเมียมของราคาหุ้น LH ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว ราคาหุ้น LH ตอนนี้ไม่ถูก โดยมี PER ปี 2551 ที่ 21 เท่า และสูงกว่าราคา
เป้าหมายของเราที่ 8.10 บาท เราปรับคำแนะนำเป็น เต็มมูลค่า เราคาดว่า LH จะจ่ายปันผลอีก 0.20
บาทต่อหุ้นสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ซึ่งคิดเป็นอัตราเงินปันผล 2.3%

        เนื่องจากเปิดโครงการใหม่เพียง 7 โครงการ มูลค่ารวม 6.68 พันล้านบาทในปีที่แล้ว แต่ทำ
ยอดขายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท LH จึงมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูงถึง 3.28 พันล้านบาทในปี
2550  บริษัทจ่ายคืนหนี้บางส่วนในไตรมาส 4/50 ทำให้ยอดเงินกู้ลดลงเหลือ 1.38 หมื่นล้านบาทจาก
1.50 หมื่นล้านบาทในไตรมาสก่อน อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุนลดลงเหลือเพียง 0.69 เท่า ณ สิ้นปี 2550
จาก 0.76 เท่าในไตรมาสก่อน


จะเปิด 14 โครงการมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 13%

        ยอดขาย Presales ของ LH ลดลง 17% จากปีก่อนและ 22% จากไตรมาสก่อนเป็น 4.34
พันล้านบาทในไตรมาส 4/50 เนื่องจากปีที่แล้วมีแคมเปญ ทูเดย์ สเปเชียล และยอดขายเดือนธ.ค. ที่
ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ยอดขาย presales ทั้งปีเพิ่มขึ้น 8% เป็น 1.87 หมื่นล้านบาทในปี 2550 แม้ว่า
จะเปิดโครงการใหม่เพียง 7 โครงการ มูลค่า 6.68 พันล้านบาท ปีนี้ LH ตั้งเป้ารายได้จากการขายบ้าน
โต 13% เป็น 2.1 หมื่นล้านบาท โดยจะเปิด 14 โครงการใหม่ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย
บ้านเดี่ยว 7 โครงการ มูลค่า 8.18 พันล้านบาท, ทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ มูลค่า 2.43 พันล้านบาท
และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 1.40 พันล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม เดอะแบงค็อก สาทร
-ตากสิน ได้เปิดให้จองตั้งแต่ปีก่อน และตอนนี้ถูกจองเต็มแล้ว

รายได้จาก LH Property สูงขึ้นในปีนี้

        LH Property ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ LH ถือหุ้นอยู่ 60% จะทำรายได้ค่าเช่าให้แก่ LH มากขึ้นใน
ปีนี้ หลังจากเปิด 2 โครงการในครึ่งหลังของปีที่แล้ว ตอนนี้ LH Property มี 3 โครงการในมือ ได้แก่
1) LH วิลล่า ซึ่งเป็นบ้านหรูให้เช่า จำนวน 37 ยูนิต ตั้งอยู่ที่ถนนนราธิวาส โครงการนี้มีมูลค่า 760 ล้าน
บาท โดยคาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทน (yield) 8% ต่อปี โครงการนี้เปิดในเดือนมิ.ย. 2550 และตอนนี้
มีอัตราการเข้าเช่า 59% ผู้บริหารคาดว่าอัตราการเข้าเช่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 85% ในปีนี้ 2) LH ราชดำริ
เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 500 ห้อง ตั้งอยู่บนถนนราชดำริ โดยมีมูลค่าโครงการ 2.6 พันล้านบาท เริ่ม
เปิดดำเนินงานในเดือนต.ค. 2550 และคาดว่าจะได้ yield 10% ต่อ อัตราการเข้าเช่าตอนนี้อยู่ที่ 24%
และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% โดยเฉลี่ยทั้งปีนี้ 3) LH สุขุมวิท เป็นโครงการอาคารสูงใกล้กับสถานีรถไฟ
ฟ้า BTS อโศก มูลค่าโครงการรวม 5.4 พันล้านบาท จะเริ่มเปิดดำเนินงานในปี 2554 เราคาด่วาราย
ได้จาก LH Property จะเท่ากับ 400 ล้านบาทในปี 2551 โดยที่อัตรากำไรยังคงต่ำในปีนี้ เนื่องจาก
ต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาเต็มจำนวน ในขณะที่อัตราการเข้าเช่ายังไม่สูงนัก

บล.กิมเอ็ง