เศรษฐกิจไทยในท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง ในภาวะที่เงินเฟ้อขยับขึ้นมาสูง ในขณะที่รายได้เติบโตไม่ทัน ผู้ลงทุนจะบริหารจัดการพอร์ต การลงทุนของตัวเองอย่างไรให้เหมาะสม

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ดร.สมจินต์ ศรไพศาล" กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ แนะนำว่า โดยพื้นฐานคือหลักสมดุลให้มีทั้งสินทรัพย์ส่วนที่เสี่ยงน้อย เสี่ยงปานกลาง และเสี่ยงมากอย่างสมดุล ในยามที่ทุกอย่างไม่แน่นอน อาจจะเพิ่มสัดส่วนของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามในส่วนที่เราคิดว่าสามารถลงทุนได้นานๆ เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าของตลาดหุ้นในปัจจุบัน ถ้ามองสัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิในอนาคต (Forward P/E) อยู่ที่ 12 เท่า อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ 3-4% สำหรับการลงทุนระยะยาวก็ถือว่าไม่เลวนัก เพราะปัจจัยสำคัญที่กำหนดมูลค่าของหลักทรัพย์คือความสามารถในการทำกำไร อีกส่วนหนึ่งคือสภาวะอารมณ์ของตลาดซึ่งมีหลายปัจจัยมากมายทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ ซึ่งเราคาดคะเนไม่ได้ แต่ถ้าเรามีมุมมองของความสามารถในการทำกำไรไม่แย่จนเกินไป เงินที่ลงทุนได้ระยะยาวก็สามารถที่จะแบ่งมาลงทุนในตลาดหุ้นได้เช่นกัน

"แต่ถ้าเป็นเงินที่จะต้องใช้ในระยะเวลาอันสั้น พวกกองตราสารตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ที่อายุไม่ยาวจนเกินไป ก็เป็นทางเลือกได้ รวมทั้งการที่ปัจจัยภายในประเทศมันวุ่นวายการแบ่งเงินไปลงทุนต่างประเทศบ้าง ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้เช่นกัน"

ด้าน “โรเบิร์ต เพนนาโลซา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแนะนำว่า ในช่วงที่เงินเฟ้อสูงเช่นนี้ ค่าใช้จ่ายก็ปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้อำนาจซื้อของเงินลดลง การถือเงินสดไว้ในช่วงที่เงินเฟ้อสูง จึงไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะไม่สามารถที่จะสร้างผลตอบแทนต่อสู้กับเงินเฟ้อได้ ทำให้ความมั่งคั่งของเราลดลง นักลงทุนจึงควรกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้มากขึ้น ให้เงินทำงานอย่างฉลาด นอกจากนี้ยังควรจะลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าใช้จ่ายในเรื่องภาษีผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) นอกจากนี้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศไม่ค่อยดี การกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยได้

“ไม่เพียงเท่านี้ นักลงทุนยังควรจะเน้นการลงทุนระยะยาวมากกว่าการซื้อขายบ่อยในลักษณะเทรดหุ้น เพราะจะทำให้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เหล่านี้น่าจะช่วยทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนได้”

 คำแนะนำเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนไทยในช่วงข้าวยากหมากแพงอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

Bkk biznews