กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือจี-7 ตกลงกันในวันนี้ ที่จะร่วมมือกันในการแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเยน ทั้งนี้ การร่วมมือกันของจี-7 ดังกล่าว ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้อยครั้งมาก โดยจี-7 ระบุตั้งเป้าที่จะคลายความกังวลในตลาด หลังจาก นักลงทุนแห่เทขายสินทรัพย์อย่างตื่นตระหนกในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นทันทีราว 1 เยน สู่ 80.73 เยนในเช้าวันนี้ หลังจากทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76.25 เยนเมื่อวานนี้ ขณะที่ดัชนี นิกเกอิของตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้น 2.7 % ในการซื้อขายเช้านี้ และ ลดช่วงติดลบที่ทำไว้ในช่วงต้นสัปดาห์นี้
การร่วมมือกันของกลุ่มจี-7 ในครั้งนี้สร้างความประหลาดใจ ต่อตลาด เพราะก่อนหน้านี้แหล่งข่าวกล่าวว่า กลุ่มจี-7 อาจทำได้แต่เพียง การอนุญาตให้ญี่ปุ่นแทรกแซงตลาดเพียงลำพัง
นายโยชิฮิโกะ โนดะ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เริ่มต้นขายเยนในวันนี้เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทย ส่วนธนาคาร กลางของประเทศอื่นๆในกลุ่มจี-7 จะเริ่มต้นแทรกแซงตลาดเมื่อตลาดของ ประเทศนั้นๆเปิดทำการ
นางแคธี เหลียน ผู้อำนวยการแผนกวิจัยสกุลเงินของบริษัทจีเอฟที กล่าวว่า "ครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือกันแทรกแซงตลาดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2000 ดังนั้นเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงมากต่อตลาด"
"การแทรกแซงตลาดจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงได้ก็ต่อเมื่อ หลายประเทศร่วมมือกัน และเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าความเป็นเอกภาพของ ธนาคารกลางทุกแห่งโดยเป็นผลจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในญี่ปุ่น"
เมื่อวานนี้ เยนพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76.25 เทียบ ดอลลาร์ สูงกว่าสถิติเดิมที่ 79.75 ซึ่งทำไว้ในช่วงหลังจากเกิดเหตุการณ์ แผ่นดินไหวที่โกเบในปี 1995
การแข็งค่าของเยนจะเป็นการสร้างความยากลำบากต่อการฟื้นตัว ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการส่งออก ขณะที่ คาดกันว่าความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในปีนี้อาจคิดเป็นมูลค่าราว 2 แสนล้านดอลลาร์ และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย
ผู้นำทางการเงินของกลุ่มจี-7 กังวลว่า กระแสการโอนเงินเยน กลับญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้อาจสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายต่อตลาดโลก และอาจ ก่อให้เกิดวิกฤติความเชื่อมั่นที่ลุกลามออกจากเอเชียเข้าสู่ยุโรปและสหรัฐ | เข้าชม: 1,914 |
|