นายอรัญ อภิจารี ประธานกรรมการ บริษัททรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF เปิดเผยว่าบริษัทมีเงินทุนเพียงพอที่จะรองรับการขยายธุรกิจ แม้จะยกเลิกแผนการเพิ่มทุน โดยบริษัทเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแนวทางเดิม คือ ธุรกิจสื่อ โฆษณา การอบรม และการพัฒนาเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ แม้จะยกเลิกแผนการเข้าซื้อหุ้น PICNI บริษัทก็ยังมั่นใจว่า ทั้งปีนี้จะมีกำไรสุทธิและดีกว่าปีก่อน ขณะที่คาดรายได้จะเติบโต 25% เนื่องจากมีงานใหม่เข้ามามากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา มีการรับรู้รายได้ของงานอบรมด้านคอมพิวเตอร์ ซีเคียวริตี้ของกรมอาชีวะ ซึ่งมีรายได้เข้ามาแล้วราว 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้งานพื้นที่ป้ายโฆษณาของสนามบินสุวรรณภูมิ และไทยแอร์เอเชีย นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอข้อสรุป หลังจากยื่นประมูลงานการบริหารเชิงพาณิชย์ และโครงการพื้นที่โฆษณาของแอร์พอร์ตลิงค์ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 600 ล้านบาท มีสัญญาสัมปทาน 10 ปี รวมถึงยังมีแผนที่จะยื่นประมูลงานอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติม
เช้านี้ TSF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้ยกเลิกการเข้าซื้อหุ้นบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI จากกลุ่มนายพิมล ศรีวิกรม์ หลังไม่ได้รับความมือในการตรวจสอบสถานะกิจการ (Due Diligence) นอกจากนี้ TSF ยังได้มีการยกเลิกการประชุม ผู้ถือหุ้น และกำหนดการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุน ซึ่งก่อนหน้านี้มีแผนจะนำเงินจากเพิ่มทุนดังกล่าวไปซื้อหุ้นPICNI ด้วย
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ TSF อนุมัติการเพิ่มทุนเพื่อเข้าซื้อหุ้น PICNI โดยจะเพิ่มทุน ออกหุ้นใหม่ราว 4.91 พันล้านหุ้น โดยจัดสรร 3.53 พันล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา ส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.55 บาท, ขายให้บุคคลในวงจำกัด (PP)จำนวน 200 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.90 บาท ส่วนที่เหลืออีกราว 1.18 พันล้านหุ้น ใช้รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนท์) ที่จะออกให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์ ต่อมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้บริษัทชี้แจงเหตุผลของการจะซื้อหุ้น PICNIในหลายประเด็น | เข้าชม: 3,497 |
|