บล.เกียรตินาคินระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ จากนโยบายพรรคเพื่อไทย เรามองกลุ่มที่ได้รับประโยชน์หลักเป็นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่แนะนำ ITD CK และ STEC ให้ ”น้ำหนักของกลุ่มมากกว่าตลาด” ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ทำให้มีความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ภายหลังการก่อสร้างที่เติบโตตามเม็ดเงินลงทุนเพื่อคาดหวังการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงรายได้ขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อกลุ่มที่มีปริมาณการผลิตที่ดีขึ้น แนะนำ SCC SCCC SSI และ DCC ให้”น้ำหนักของกลุ่มมากกว่าตลาด
บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ทยอยกันลดคาดการณ์ GDP โลก หลังจาก Goldman Sachs เพิ่งปรับลดคาดการณ์ GDP โลกไป ล่าสุด Morgan Stanley ปรับลด GDP โลกปีนี้เหลือ 3.9% จาก 4.2% และปีหน้าเหลือ 3.8% จาก 4.5% โดยปรับลดในส่วนของสหรัฐและยุโรป ทั้ง Goldman Sachs และ Morgan Stanley มองประเทศ EM (รวมเอเชีย) ดี และคง GDP ของจีนปีนี้ไว้ที่ 9% เรายังมีมุมมองเป็นบวกกับตลาดหุ้นไทย และเชื่อว่า flow จะกลับมาในที่สุดเพราะเงินไม่เหลือทางเลือกของการลงทุนมากนัก เน้นหุ้น Domestic เหมือนเดิม เลี่ยง Cyclicals ไปก่อนหรือถ้าต้องการซื้อหุ้นพลังงานเพราะถูก ก็ต้องทนถือยาวได้
ทั้งนี้ ข่าวร้ายสลับไปมาระหว่างสหรัฐ-ยุโรป ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน สหรัฐรายงานดัชนีกิจกรรมภาคโรงงาน Philadelphia Fed เดือน ส.ค. ดิ่งลงเหลือ -30.7 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2009 เงินเฟ้อสูงเกินคาด ยอดขายบ้านมือสองลดลงมเกินคาด ผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่ม ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปร่วงหนักหลังถูกสงสัยในฐานะการเงิน Risk aversion (กลัวสินทรัพย์เสี่ยง) ยังอยู่ส่งผลให้ Yield ของพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐลดลงต่ำสุดเหลือเพียง 1.97% ส่วน Yield ของพันธบัตร 2 ปีของสวิสเหลือ -0.062%
รอยเตอร์รายงานว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐปรับตัวลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2009 สร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุน ประกอบกับการลดลงเกินคาดของยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.ค. และการเพิ่มขึ้นมากเกินคาดของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วได้เพิ่มความวิตกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจหยุดชะงัก และเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ความวิตกที่ว่าวิกฤติหนี้ของยูโรโซนอาจลุกลามไปถึงระบบการเงินนั้นได้กดดันตลาดเงินระยะสั้น ทำให้ธนาคารยุโรปบางแห่งต้องกู้เงินดอลลาร์ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งย้ำเตือนถึงเหตุการณ์ในช่วงปลายปี 2009 หลังการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส ขณะที่ปริมาณเงินทุนลดลง
ที่มา-ข่าวหุ้น | เข้าชม: 3,225 |
|