บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในรายงานพิเศษเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย หุ้นกลุ่มใดที่ควรระวัง
จากวิกฤต 2 ครั้งที่ผ่านมา เราพบว่ากลุ่มที่ควรระวังหากเกิดวิกฤตกับเศรษฐกิจสหรัฐในครั้งนี้ได้แก่กลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ขนส่ง อสังหาฯ วัสดุก่อสร้าง ปิโตรเคมี และพลังงาน ขณะที่กลุ่มที่ Outperform ส่วนใหญ่เป็น Domestic plays ได้แก่ กลุ่มอาหาร ค้าปลีก โรงพยาบาล ประกัน สื่อสาร ธนาคาร
ช่วง Dotcom crisis ส่งออกของไทยหดตัว 4.2%
-หากเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยอีกครั้งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยและตลาดหุ้นอย่างไรบ้าง เราย้อนกลับไปดูช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สหรัฐเคยวิกฤต 2 ครั้งคือ Dotcom crisis ในปี 2011 และ Subprime ปี 2008-2009 ในช่วง Dotcom crisis การเติบโตของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงเหลือเพียง 2.2% จากที่โตเฉลี่ยปีละ 4.6% เพราะยอดส่งออกหดตัว 4.2% โดยตลาดสหรัฐ (20% ของตลาดส่งออกทั้งหมด) ลดลงถึง 11% สินค้าส่งออกที่หดตัวมากได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ยาง เหล็ก และอาหารทะเลแช่แข็ง
ช่วง Subprime Crisis ส่งออกหดตัวถึง 13.9%
-วิกฤต Subprime ที่เกิดในช่วงปลายปี 2008 ส่งผลให้ GDP ของไทยในปี 2009 หดตัว 2.3% จากการส่งออกที่หดตัวถึง 13.9% หดตัวรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์
วิกฤตที่ผ่านมา SET Index ปรับฐาน 8%-14%
-ปี 2001 SET Index ปรับฐาน 14.5% เป็นเวลา 2 เดือนเศษ ปี 2009 SET ปรับลง 7.9% กินเวลา 2 เดือนครึ่ง หาก SET Index ปัจจุบันปรับลงในอัตรา 8%-14% จากจุดสูงสุดจะกินลงไปอยู่ที่ 1,056 และ 981 จุด ตามลำดับ แต่เราไม่คิดว่าตลาดจะปรับลงลึกต่ำกว่า 1,000 จุด เพราะตลาดส่งออกได้ถูกกระจายได้ดีขึ้น ปัจจุบันเราค้าขายในเอเชียด้วยกัน 60% นอกจากนี้ การจับจ่ายใช้สอยในประเทศขยายตัวต่อเนื่องและแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากรายได้เกษตรกรที่ดีขึ้น ความเชื่อมั่นของบริโภคดีขึ้น รวมถึงการลงทุนจากโครงการต่างๆของรัฐบาลใหม่
“เงิน” ต้องหาผลตอบแทนที่ดีกว่า....เลี่ยง cyclical ซื้อ domestic
-เราจึงยังมองบวกกับ SET Index ในระยะกลาง-ยาว การปรับฐานจึงเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานแกร่ง เช่น KBANK, BBL, LPN, AP , SIRI, DTAC , BIGC , MAKRO , HMPRO , CPALL , BLA , BGH , TUF , PTT และ TOP และหุ้นที่นักวิเคราะห์มีแนวโน้มปรับประมาณการขึ้น PHATRA , BLA , DRT , KSL , BEC , WORK , THCOM
ที่มา ข่าวหุ้น | เข้าชม: 4,741 |
|