December 26, 2024   9:28:26 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องนั่งเล่น > เรื่องดีๆๆ ที่คุณควรอ่าน ( เตรียมทิชชูด้วยนะ )
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 31/10/2006 @ 12:55:54
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

>เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของลุกผู้ชายคนหนึ่งที่ตระเวนทั้งเรียนทั้งทำงานไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแม้เขาจะเติบกล้าเก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ


>>>> >ความรู้เพิ่มมากขึ้น
>>>> >โลกใบนี้เริ่มเล็กลงแต่พ่อแม่ที่อยู่บ้านเดิม(ในเมืองจีน)ก็เริ่มแก่ตัวลง
>>>> >
>>>> >ลูกคนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศ
>>>> >ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ได้แต่ติดต่อกันทางจดหมาย
>>>> >โชคดีต่อมามีไอพีการ์ด เลยได้คุยสดกันบ้าง
>>>> >ทุกครั้งแม่ก็จะคอยเตือนให้ระวังสุขภาพของตัวเอง ตั้งใจทำงาน
>>>> >ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ไม่ต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ
>>>> >เพราะจะสิ้นเปลืองเงินทอง...ยิ่งพูดก็ยิ่งซ้ำๆซากๆ
>>>> >เขารู้ดีว่าแม่เริ่มคิดถึงเขามากจนกระทั่งปีนี้ แม่อายุ 75
>>>> >เขาจึงตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมแม่โดยตั้งใจว่าจะอยู่สัก 1 เดือน
>>>> >จะไม่ทำอะไรเป็นพิเศษ แต่ขอเป็นเพื่อนแม่เพียงอย่างเดียว
>>>> >พอบอกข่าวนี้ให้แม่ทราบ แม้จะมีเวลาอีกตั้ง 2
>>>>
>เดือนเศษแม่ก็เริ่มเตรียมตัวในการต้อนรับการกลับมาเยี่ยมบ้านของลูกแม่ดึงเอาสมุดบันทึกมาจดสิ่งที่ต้องตระเตรียม


>>>> >แม่เตรียมรายการอาหารที่ลูกชอบ
>>>> >ดึงเอาผ้าห่มที่ลูกเคยชอบห่มมาปะชุนใหม่... สำหรับคนอายุ
>>>> >75เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
>>>> >
>>>> >พอกลับถึงบ้าน ตอนอยู่บนเครื่องบิน
>>>> >เคยตั้งใจว่าจะขอกอดแม่ให้ชื่นใจสักครั้ง แต่พอมาเห็นแม่
>>>> >แม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผอมแห้ง
>>>> >หน้าตาเ***่ยวย่นช่างไม่เหมือนแม่คนก่อนหน้านี้เลย..
>>>> >
>>>> >แม่ใช้เวลาทั้งชั่วโมงเตรียมอาหารที่ลูกเคยชอบ
>>>> >โดยที่หาทราบไม่ว่าเดี๋ยวนี้ลูกไม่ได้ชอบอาหารแบบนั้นแล้ว
>>>> >และเพราะแม่ตาไม่ค่อยดี รสชาติอาหารจึงแย่มากๆ บางจานก็เค็มจัด
>>>> >บางจานก็จืดสนิท ผ้าห่มที่แม่อุตส่าห์เตรียมให้ ทั้งหนาทั้งหยาบ
>>>> >ไม่สบายกายเลย
>>>> >แม่หารู้ไม่ว่าเดี๋ยวนี้ลูกนอนห้องแอร์และใช้ผ้าห่มขนแกะแล้ว
>>>> >แต่เขาก็ไม่บ่นอะไร เพราะเขาตั้งใจจะกลับมาเป็นเพื่อนแม่จริงๆ
>>>> >
>>>> >สองสามวันแรก แม่ยุ่งอยู่กับเรื่องจิปาถะ จนไม่มีเวลาพักผ่อน
>>>> >พอเริ่มได้พัก แม่ก็เริ่มพูดมาก สอนโน่นสอนนี่ พูดแต่ปรัชญาเก่าๆ
>>>> >ซึ่งปรัชญาเหล่านั้น 10 กว่าปีก่อนก็เคยพูดแล้ว พอลูกบอกให้ฟังว่า
>>>> >ปรัชญาเหล่านั้นไม่ทันสมัยแล้วแม่ก็เริ่มนิ่งเงียบและเศร้าซึม
>>>> >
>>>> >?เหตุการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ผมพบว่าสุขภาพแม่แย่ลง โดยเฉพาะสายตา
>>>> >อาหารบางจานมีแมลงวันด้วย บางทีอาหารหกบนเตา แม่ก็เก็บใส่จานตามเดิม
>>>> >ครั้นผมพยายามชวนแม่ไปกินนอกบ้าน แม่ก็บอกอาหารข้างนอกไม่สะอาด
>>>> >ของแปลกปลอมเยอะ เมื่อผมบอกแม่ว่าจะหาคนรับใช้มาช่วยแม่สักคน
>>>> >แม่ก็โวยวายว่าแม่เองยังสามารถทำงานเลี้ยงดูเด็กให้ผู้อื่นได้เลย
>>>> >ผมเลยพูดไม่ออกพอผมจะออกไปช้อปปิ้ง แม่ก็จะตามไปด้วย
>>>> >ทำเอาวันนั้นทั้งวัน พวกเราไม่ได้ไปช้อปปิ้งเลย..?
>>>> >
>>>> >?พอพวกเราเริ่มคุยกันในเรื่องทันสมัย แม่ก็จะหาว่าพวกเราเพี้ยน
>>>> >ผมก็เริ่มบอกแม่อย่างไม่ค่อยเกรงใจว่า แม่ นี่มันสมัยใหม่แล้ว
>>>> >แม่ต้องหัดมองโลกในแง่ใหม่ๆบ้าง... ช่วงครึ่งเดือนหลังที่อยู่กับแม่
>>>> >ผมเริ่มขัดแม่มากขึ้นเรื่อยๆ
>>>> >และรู้สึกรำคาญเพิ่มมากขึ้นแต่เราไม่เคยทะเลาะกันนะ พอผมขัดแม่
>>>> >แม่ก็หยุดกึกลง ไม่พูดไม่จา ในตามีแววเหม่อลอย ?
>>>> >โลกซึมเศร้าแบบคนแก่ของแม่ชักหนักขึ้นเรื่อยๆ?
>>>> >
>>>> >?ได้เวลาที่ผมจะต้องเดินทางกลับ
>>>>
>แม่ดึงกล่องกระดาษกล่องหนึ่งออกมาในนั้นเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ที่แม่ตัดเก็บไว้ในช่วงที่ผมไปอยู่เมืองนอก
>>>> >แม่เริ่มสนใจข่าวต่างประเทศเมื่อผมเดินทางไปนอก
>>>> >ทุกครั้งที่มีข่าวตึงเครียดในประเทศนั้นๆ แม่จะตัดข่าวเก็บไว้
>>>> >ตั้งใจจะมอบให้ผมตอนที่ผมกลับมา แม่พูดอยู่เสมอว่า
>>>> >อยู่นอกบ้านนอกเมืองต้องระวังตัวให้มากๆ
>>>> >ครั้งหนึ่งมีเรื่องคนญี่ปุ่นต่อต้านและข่มเหงคนจีน มีการปะทะกันด้วย
>>>> >แม่เป็นห่วงมาก
>>>> >ถามเพื่อนบ้านว่าจะส่งข่าวไปเตือนผมที่ญี่ปุ่นได้อย่างไรตอนนั้นผมสอนอยู่ที่ญี่ปุ่น?
>>>> >
>>>> >แม่ดึงเอาปึกกระดาษข่าวนั้นออกมาอย่างยากลำบากวางใส่ในมือผมเหมือนของวิเศษชิ้นหนึ่ง
>>>> >มันหนักมาก ผมเริ่มรู้สึกลำบากใจเพราะผมไม่อยากนำกลับไป
>>>> >มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วผมรู้ว่าแม่เก็บมันด้วยความยากลำบาก
>>>> >แม่สายตาไม่ค่อยดี ต้องใช้แว่นขยาย อ่านได้วันละ 2 หน้าก็เก่งแล้ว
>>>> >นี่ยังตัดเก็บได้ขนาดนี้ ทันใดนั้นมีข่าวแผ่นหนึ่งปลิวหลุดลงมา
>>>> >แม่รีบเอื้อมไปหยิบแต่แทนที่แม่จะเก็บเข้ากองเดิม
>>>> >แม่กลับพับเก็บไว้ในกระเป๋าของตัวเอง
>>>> >
>>>> >ผมรู้สึกเอะใจ เลยถามว่า ?แม่ นั่นกระดาษอะไร
>>>> >ขอผมดูหน่อยนะ?แม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
>>>> >จึงล้วงออกมาวางบนข่าวปึกนั้นแล้วหุนหันเข้าครัวไปทำกับข้าวทันที
>>>> >
>>>> >ผมหยิบแผ่นข่าวนั้นขึ้นมาดู มันเป็นบทความบทหนึ่ง ชื่อว่า
>>>> >?เมื่อฉันแก่ตัวลง? ตัดจากหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2004
>>>> >เป็นช่วงที่ผมเริ่มเถียงกับแม่ถี่มากขึ้นทุกทีบทความนั้นคัดมาจากนิตยสารฉบับหนึ่งของเม็กซิโก
>>>> >ฉบับเดือนพฤศจิกายน ผมอ่านบทความนั้นทันที ...
>>>> >
>>>> >เมื่อฉันแก่ตัวลง.....ไม่ใช่ฉันที่เคยเป็น ขอโปรดเข้าใจฉัน
>>>> >มีความอดทนต่อฉันเพิ่มขึ้นอีกสักนิด
>>>> >
>>>> >ถ้าฉันทำน้ำแกงหกใส่เสื้อตัวเอง....ถ้าฉันลืมวิธีผูกเชือกรองเท้า
>>>> >ขอให้คิดถึงตอนเธอเด็กๆ...ที่ฉันสอนเธอหัดทำทุกอย่าง
>>>> >
>>>> >ถ้าฉันเริ่มพร่ำบ่นแต่เรื่องเดิมๆที่เธอรู้สึกเบื่อ?.ขอให้อดทนสักนิด
>>>> >อย่าเพิ่งขัดฉัน ตอนเธอยังเล็กๆ ฉันยังเคยเล่านิทานซ้ำๆซากๆ
>>>> >จนเธอหลับเลย
>>>> >
>>>> >ถ้าฉันต้องการให้เธอช่วยอาบน้ำให้ อย่าตำหนิฉันเลยนะ
>>>> >ยังจำตอนที่เธอยังเล็กๆได้ไหม
>>>> >ฉันต้องทั้งกอดทั้งปลอบเพื่อให้....เธอยอมอาบน้ำ
>>>> >
>>>> >ถ้าฉันงงกับวิทยาการใหม่ๆโปรดอย่าหัวเราะเยาะฉัน?.
>>>> >จำตอนที่ฉันเฝ้าอดทนตอบคำถาม ?ทำไม ทำไม?ทุกครั้งที่เธอถามได้ไหม
>>>> >
>>>> >ถ้าฉันเหนื่อยล้าจนเดินต่อไม่ไหว
>>>> >ขอ....จงยื่นมือที่แข็งแรงของเธอออกมาช่วยพยุงฉัน
>>>> >เหมือนตอนที่ฉันพยุงเธอให้หัดเดินในตอนที่เธอยังเล็กๆ
>>>> >
>>>> >หากฉันเผอิญลืมหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่โปรดให้เวลาฉันคิดสักนิด
>>>> >ที่จริงสำหรับฉันแล้ว....กำลังพูดเรื่องอะไรไม่สำคัญหรอก
>>>> >ขอเพียงมีเธออยู่ฟังฉัน......ฉันก็พอใจแล้ว
>>>> >
>>>> >ตอนนี้ถ้าเธอเห็นฉันแก่ตัวลง...ไม่ต้องเสียใจ...ขอให้เข้าใจฉัน....สนับสนุนฉัน
>>>> >ให้เหมือนตอนที่ฉันสนับสนุนเธอตอนเธอเพิ่งเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
>>>> >
>>>> >ในตอนนั้น....ฉันนำพาเธอเข้าสู่เส้นทางชีวิต
>>>> >ตอนนี้....ขอให้เธอเป็นเพื่อนฉันเดินไปให้สุดเส้นทางของชีวิต??
>>>> >โปรด....ให้ความรักและความอดทนต่อ....ฉัน
>>>> >
>>>> >ฉันจะยิ้มด้วยความขอบใจ....
>>>> >ในแววตาอันฝ้าฟางของฉัน....มีแต่ความรักอันหาที่สิ้นสุดมิได้
>>>> >ของฉันที่มีให้กับ..........เธอ
>>>> >
>>>> >ผมอ่านบทความนั้นรวดเดียวจบทันที.... เกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
>>>> >ตอนนั้นแม่เดินออกมา
>>>>
>ผมแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนแรกแม่คงอยากให้ผมได้อ่านบทความนี้หลังจากผมกลับไปแล้วจึงคะยั้นคะยอให้ผมนำข่าวปึกนั้นกลับไป


>>>> >ตอนผมจัดกระเป๋าเดินทาง ผมต้องสละไม่เอาสูทกลับไป 1 ตัว
>>>>
>จึงยัดเก็บปึกข่าวเหล่านั้นเข้าไปได้รู้สึกแม่จะดีใจมากเหมือนกับว่าหนังสือพิมพ์เหล่านั้นเป็นยันต์โชคลาภสำหรับผมและเหมือนกับว่าการที่ผมยอมรับหนังสือพิมพ์เหล่านั้นผมได้กลับมาเป็นเด็กดีของแม่อีกครั้งหนึ่งแม่ตามมาส่งผมจนถึงรถแท็กซี่เลยที่เดียว


>>>> >
>>>> >หนังสือพิมพ์ที่ผมนำกลับมาเหล่านั้น ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อะไรเลย
>>>> >แต่บทความ ?เมื่อฉันแก่ตัวลง? บทนั้น ผมได้ตัดเก็บไว้ในกรอบ
>>>> >เอาไว้ข้างตัวฉันตลอดไป
>>>> >
>>>> >ตอนนี้ ผมขออุทิศบทความนี้
>>>> >ให้กับลูกๆทั้งที่พเนจรและไม่ได้พเนจรทั้งหลาย...ถ้ามีเวลาว่างก็แวะไปหาท่าน
>>>> >หรือไม่ก็โทรไปหาท่านบ้าง บอกท่านว่าคุณอยากกินอาหารที่ท่านทำเสมอ....
>>>> >ท่านไม่ได้ต้องการอะไรจากเรามากไปกว่า...แค่ได้รับรู้ว่า
>>>> >เราสุขสบายดี..ถ้าหากเราไม่สามารถไปเยี่ยมท่านได้...ตอนคุยโทรศัพท์กับท่าน...โปรดยิ้มให้
กว้างๆและยิ้มบ่อยๆ...แม้ท่านจะมองไม่เห็น..แต่ท่านจะรู้สึกได้......[/color:a54a1161f8">

.0002 .0002

 กลับขึ้นบน
กวนอู
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 46
#1 วันที่: 25/11/2006 @ 18:26:42 :
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com