samjin สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 352 | วันที่: 24/01/2007 @ 21:18:22 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หม่อมอุ๋ยไฟเขียว TMB เพิ่มทุนกลางปีแต่ปิดประตูตายห้ามลดพาร์ วงการแนะจับตาราคาหุ้น ระบุมีโอกาสวิ่งฉิวแน่ หากต้องการขายหุ้นเพิ่มทุนให้ได้ราคาดี แต่ฟันธงมั่นใจเพิ่มทุนที่ราคา 2 บาท ดังนั้นต้องแบกส่วนต่ำมูลค่าหุ้น-ขาดทุนสะสมหลังแอ่น กว่าจะได้ปันผลต้อง 10 ปีไปแล้ว
วานนี้ (24 ม.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาผลการดำเนินงานของธนาคารทหารไทย (TMB) หลังจากปีบัญชี 2549 ที่ธนาคารมีผลขาดทุนถึง 1.2 หมื่นล้านบาทว่า เห็นด้วยกับการที่ธนาคารจะเพิ่มทุน ในส่วนของของผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ กระทรวงการคลัง และดีบีเอส สิงคโปร์ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่รีบร้อน และเห็นว่าขณะนี้ธนาคารทหารไทยยังดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยคาดว่าการเพิ่มทุนอาจจะดำเนินการในช่วงกลางปีนี้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลดพาร์
ซึ่งสอดคล้องกับช่วงก่อนหน้านี้ ที่นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารทหารไทย ได้ทำแผนขอเพิ่มทุนจำนวน 35,000 ล้านบาท ให้กับกระทรวงการคลัง และมีกระแสออกมาว่าธนาคารทหารไทยอาจจะขอลดมูลค่าหุ้นตามบัญชี (พาร์) จาก 10 บาท ต่อหุ้น เหลือเพียง 1 บาทต่อหุ้น เพื่อล้างขาดทุนสะสม ว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นของนายสุภัค ศิวะรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย ไม่ใช่แนวคิดของกระทรวงการคลัง
?เรื่องบอกจะให้ลดทุนทหารไทยเลิกคิดไปได้เลย ทุกอย่างเป็นไอเดียของนายสุภัค ไม่ใช่ของผมหรือของกระทรวงการคลัง ซึ่งหากลดทุนยังไงแบงก์ก็ไปไม่ได้อยู่ดี อย่าให้พูดกันตอนนี้เลยส่วนความคืบหน้าเรื่องเพิ่มทุนตอนนี้ยังไม่มี?
ด้านนายธเนศ ภู่ตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารกำลังทำแผนการเพิ่มทุน ซึ่งถ้าเสร็จธนาคารจะแจ้งให้ทราบว่าธนาคารมีแนวทางและวิธีการอย่างไรในการเพิ่มทุน โดยคาดว่าจะเสร็จภายในไตรมาสแรกนี้ หลังจากที่ธนาคารได้ทำแผนเสร็จจะเสนอให้คณะกรรมการและผู้ถือหุ้นได้รับทราบ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะเพิ่มทุนเป็นจำนวนเงินเท่าใดนั้น ธนาคารไม่สามารถให้ความคิดเป็นเรื่องดังกล่าวได้ เพราะกำลังการจัดทำแผน
ขณะที่แหล่งข่าว กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารทหารไทยได้ทำแผนเพิ่มทุน 35,000 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติ เพราะมีผลการดำเนินงานปี 49 ขาดทุนถึง 12,200 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองตามเกณฑ์มาตรฐานบัญชีระหว่างประเทศ (ไอเอเอส 39) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมการไว้ เพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดจากการสำรองหนี้ที่เกิดการใช้บาเซลทูต้นปี 51 และมาตรฐานไอเอเอส 39 ซึ่งธนาคารจะต้องตั้งสำรองอีกประมาณ 9 พันล้านบาทในปี 2550 จึงทำให้ต้องมีการเพิ่มทุนดังกล่าว
- วงการคาดTMB ขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 2 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.แห่งหนึ่ง กล่าวว่า หากธนาคารทหารไทย ทำการเพิ่มทุนในปีนี้ ราคาหุ้นที่ขายน่าจะไม่เกิน 2 บาท เพราะราคาหุ้น TMBในตลาดหลักทรัพย์ช่วงนี้ไม่ถึง 2 บาทและเวลากำหนดราคาขายหุ้นจะต้องใช้ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง
ดังนั้น ในกรณีที่ TMBขายหุ้นเพิ่มทุนในราคา 2 บาท ส่วนราคาพาร์อยู่ที่ 10 บาท จึงเท่ากับว่าจะมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 8 บาท/หุ้น ทำให้เพิ่มส่วนต่ำมูลค่าหุ้นขึ้นมาอีกตามจำนวนหุ้นที่เพิ่มทุน ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรีอยุธยา (มหาชน)กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้แนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้น TMB มาตลอด เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงมีมาก การเพิ่มทุนจะทำให้เกิดการไดลูท นอกจากนั้น TMB ยังมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอยู่ 53,000 ล้านบาท และขาดทุนสะสมอยู่อีกประมาณ 50,000 กว่าล้านบาท ทำให้ไม่สามารถจ่ายปันผลได้ ซึ่งกว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ต้องใช้เวลาอีกยาวนาน
- เซียนหุ้นฟันธง คลังไม่ไฟเขียวลดพาร์ ผถห.ต้องรอจนแก่กว่าจะได้ปันผล
ขณะที่นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารทหารไทย เห็นด้วยกับการเพิ่มทุนของธนาคาร เนื่องจากจะส่งผลดีต่อธนาคารในแง่ของเงินกองทุนที่จะแข็งแกร่งมากขึ้นว่า การเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำให้ธนาคารมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอีกจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท และหากขายหุ้นเพิ่มทุนในราคา 2 บาทต่อหุ้น จะทำให้มีส่วนต่ำมูลค่าหุ้น 8 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อนำไปคูณกับจำนวนหุ้นเพิ่มทุนก็จะได้ส่วนต่ำมูลคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารยังคงมีขาดทุนสะสมอยู่ประมาณ 5หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ธนาคารไม่สามารถจ่ายปันผลได้หากยังมีขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอยู่ ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วที่สุดคือวิธีการลดพาร์
อย่างไรก็ตาม จากการที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นชอบกับการเพิ่มทุนของธนาคารแต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการลดพาร์ของธนาคารนั้น วิธีเดียวที่ธนาคารจะสามารถแก้ไขปัญหาได้คือการนำกำไรที่ได้ในแต่ละปีมาชดเชยส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและขาดทุนสะสมซึ่งหากคิดเฉพาะขาดทุนสะสมที่ 5 หมื่นล้านบาท ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าธนาคารมีกำไรปีละ 1 หมื่นล้านบาท จึงเท่ากับว่าธนาคารต้องใช้เวลา 5 ปีในการล้างขาดทุนสะสม ซึ่งยังไม่นับรวมส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท(ยังไม่รวมส่วนต่ำมูลค่าหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นอีกหลังการเพิ่มทุนรอบใหม่) ซึ่งต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 5 ปีในการล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้น
คาดว่าธนาคารจะต้องใช้เวลา 10 ปีในการล้างขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นโดยการใช้กำไรแต่ละปีมาล้าง ดังนั้นปี 11 จึงจะสามารถจ่ายปันผลได้ แต่ถ้าใช้วิธีลดพาร์ก็จะสามารถเครียปัญหาได้เสร็จสิ้นแต่ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ากระทรวงการคลังไม่เห็นด้วยกับวิธีลดพาร์ นักวิเคราะห์ กล่าว
|
WhyNot สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 16 | #2 วันที่: 25/01/2007 @ 07:38:13 : re: จับตาหุ้น TMB วิ่งทะลุฟ้า- วงการฟันธงรอบนี้ได้ไม่เกิน 2 ก๊อปจากเวปเพื่อนบ้าน เขาพูดน่าฟังดี
^^^^^^^^^^^^^^^^^
tmb มาช่วยกันแกะงบการเงินว่ามีอะไรในก่อใผ่
งบการเงินส่วนผู้ถือหุ้น
สิ้นสุด 30/9/49
1. ทุนจดทะเบียน:
- หุ้นบุริมสิทธิ : 1,991.997 ล้านหุ้น @ 10.00 บาท(พาร์)
- หุ้นสามัญ : 16,536.741 ล้านหุ้น @ 10.00 บาท(พาร์)
2. ขายหุ้นในอดีต:
2.1. ส่วนเกินกว่าพาร์ : ไม่มี
2.2. ส่วนต่ำ(ขายหุ้นต่ำ)กว่าพาร์ : -90,317.79 ล้านบาท
3. กำไรสะสมยังไม่จัดสรร : ไม่มี
4. ขาดทุนสะสมยังไม่จัดสรร : -43,157.37 ล้านบาท
สัดส่วนผู้ถือหุ้น : 64,706.48 ล้านบาท
มูลค่าหุ้น (Book value):
4.1 สิ้นสุด 30/9/49: หุ้นบุริมสิทธิ์ : 10.00 บาทต่อหุ้น;
หุ้นสามัญ : 2.71 บาทต่อหุ้น
4.2 สิ้นสุด 30/9/49: หุ้นบุริมสิทธิ์ : 10.00 บาทต่อหุ้น;
หุ้นสามัญ 1.66 บาทต่อหุ้น (ลดลงเนื่องมาจากขาดทุน -16,896.72 ล้านบาทในไตรมาส 4 2549)
5. ในรอบ 9 เดือน (1 มกราคม 2549 ถึง 30 กันยายน 2549) มีกำไร 4,613.96 ล้านบาท หรือ 0.34 บาทต่อหุ้น
6. ผลประกอบการรอบ 12 เดือน (1 มกราคม 2549 ถึง 31 ธันวาคม 2549) พลิกเป็นขาดทุน -12,282.76 ล้านบาท หรือ -0.86 บาทต่อหุ้น นั้นหมายถึงขาดทุนในไตรมาส 4 เป็นจำนวนเงิน -16,896..72 ล้านบาท จากการตั้งสำรองหนี้สูญตามกฏเกรณ์ใหม่ของแบงค์ชาติ ส่งผลทำให้ขาดทุนสะสม -43,157.37 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเป็น -60,054.09 ล้านบาท
7. ตามข่าว(จาก Money Channel บ่ายนี้)ว่าการเพิ่มทุนที่กำลังขออนุมติจากกระทรวงการคลังเพื่อมาล้างขาดทุนสะสม เรามาช่วยกันวิเคราะห์ว่าเขาจะทำอย่างไร
8. ในการล้างขาดทุนสะสมสามารถทำได้:
8.1. สามารถนำส่วนเกิน(ขายหุ้นเกิน)พาร์ในข้อ 2.1 มาล้างหรือลด ซึ่งไม่มี ในการเพิ่มทุนครั้งใหม่คงขายต่ำกว่าราคาพาร์ 10.00 บาทแน่นอน ฉะนั้นจะไม่มีส่วนเกินนำไปลดขาดทุนสะสม
8.2 tmb ไม่มีของดี(บุญเก่า)เหมือนธนาคารอื่นๆ กลับมีส่วนต่ำ(ขายต่ำกว่า)พาร์ -90,317.79 ล้านบาท (ข้อ 2.2) จะเพิ่มขึ้นอีกเท่ากับจำนวนเงินหุ้นขายต่ำกว่า 10.00 บาทต่อหุ้น คูณ จำนวนหุ้นใหม่ สมมติว่าหุ้นใหม่เพิ่มทุน 10,000 ล้านหุ้น ขายหุ้นละ 3.00 บาทต่อหุ้น จะเกิดส่วนต่ำ(ขายต่ำกว่า)พาร์เพิ่มขึ้นอีก -70,000.00 ล้านบาท เป็น -160,317.79 ล้านบาท
8.3. ส่วนต่ำกว่าพาร์ -160,317.79 ล้านบาท จะลดได้ต่อเมื่อ
8.3(ก) มีการขายหุ้นใหม่เพิ่มทุนได้เกินราคาพาร 10.00 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
8.3(ข) ลดทุนลดพารไม่ลดจำนวนหุ้น สมมติว่าลดลงเหลือ 1.00 บาทจากจำนวนหุ้นทั้งหมด 26,536.741 ล้านหุ้น (รวม 10,000 ล้านหุ้นที่สมมติในข้อ 8.2) จะได้ส่วนเกิน 238,830.67 ล้านบาท (26,536.741 ล้านหุ้น X 9.00) เพียงพอล้างส่วนต่ำ -160,317.79 ล้านบาท เหลือ 75,612.88 ล้านบาท นำไปล้างขาดทุนสะสม -60,054.09 ล้านบาท (ข้อ 6) หมดทันที ในกรณีนี้จะทำให้ tmb สามารถจ่ายปันผลเร็วขึ้น แต่ก็คงไม่ปีสองปีนี้
8.4. ถ้าไม่เลือกทำในข้อ 8.3(ข) tmb ต้องทำกำไรมาล้างขาดทุนสะสม -60,054.09 ล้านบาท (ข้อ 6) ให้หมดสิ้นถึงจ่ายปันผลได้ บนพื้นฐานศักยภาพทำกำไร เราจะให้กำไรแบบสุดๆปีละ 15,0000 ล้านบาท จะต้องใช้เวลา 5 ปีถึงล้างขาดทุนได้หมด ถ้าจะหวังปันผลก็ต้องสามารถทำกำไรได้ติดต่อกัน 7 ปีขึ้นไป
8.5. ได้ฟังข่าวจากวิทยุว่า กระทรวงการคลังไม่เห็นด้วยกับการลดพาร์ลงมาเหลือ 1.00 บาท เพราะว่าไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะรับประกันว่าผลประกอบการจะกลับมามีกำไรจากการลดพาร์ ถ้าข่าวนี้เป็นจริงราคาหุ้น tmb จะยังอยู่ในแดนสนธยาอีกหลายๆปี
8.6. นอกเหนือทางออกที่กล่าวในข้อ 8.3(ข) & 8.4 ทางเลือกสุดท้ายไม่พ้นลดทุนลดจำนวนหุ้นลงมาไม่ต่ำกว่า 70% ของทุนจดทะเบียน วิธีนี้จะสร้างความเจ็บปวดแก่ผู้ถือหุ้นเพราะจำนวนหุ้นในมือ 100 หุ้น จะถูกลดลงเหลือ 30 หุ้นหรือน้อยกว่า
8.7. ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า ธปท จะจับ tmb ไปรวมกับธนาคารอื่น เช่น scib ธนาคารทหารไทยคงหนี้ไม่พ้นต้องลดทุนลดจำนวนหุ้นเพื่อล้างสิ่งเน่าๆก่อนเข้าร่วมกิจการ แน่นอนผู้ถือหุ้นย่อมหนี้ไม่พ้นกับความเจ็บปวดกล่าวไว้ในข้อ 8.6
8.8. เพื่อความอยู่รอดเป็นธนาคารชั้นนำเหมือนธนาคารอื่นๆ tmb คงหนีไม่พ้นต้องทำการผ่าตัดขนานใหญ่มากๆ ขั้นแรกจะต้องเพิ่มทุนตามที่เป็นข่าว หลังจากนั้นผลประกอบการต้องดีขึ้นๆสองปีอย่างต่ำ หลังจากนั้นหาจังวะลดทุนลดจำนวนหุ้นล้างส่วนต่ำ(ขายหุ้นต่ำ)กว่าราคาพาร์ และ ขาดทุนสะสมหมดสิ้นซาก ทำให้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านไม่มีที่ติตั้งใข่กันใหม่ พร้อมที่จะเพิ่มทุนขายในไม่ต่ำกว่าราคาพาร์ ความฝันนี้จะเป็นจริงได้คงไม่หนีสามสีปีข้างหน้า ปัญหามีอยู่ว่าผู้บริหารกล้าเหรอปล่าว
ผมขอเป็ดเวทีนี้เชิญเพื่อนๆมาช่วยให้ความเห็นมุมมองถึงความเป็นไปได้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้
ด้วยความปรารถนาดี
จากคุณ : luck me |