สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมากมายหลายเรื่อง ทำให้นักลงทุนกลุ่มต่างๆ เทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก จนดัชนีอ่อนตัวลงไปถึงระดับ 665.04จุด ในช่วงกลางสัปดาห์
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ยังอยู่ที่แรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศและสถานการณ์ทางการเมืองที่นับวันจะอึมครึมเรื่อยๆ หลังจากหม่อมอุ๋ยลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
โดยอิทธิพลจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในการลงทุน และหันมาลงทุนในลักษณะเก็งกำไรสั้นๆ กันเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ไปอีกนานเลยทีเดียว
เนื่องจากปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นการลงทุนแทบมองไม่เห็นเลย และถึงจะมีการพูดและย้ำกันเสมอว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดหุ้นที่ถูกสุดในโลก และให้ผลตอบแทนมากเป็นอันดับสองของโลก แต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่ช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนเพิ่มขึ้น
สังเกตได้จากพฤติกรรมการลงทุนยังคงเน้นหนักไปที่เรื่องการเล่นเก็งกำไรสั้นๆ วันต่อวันเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่บางแห่งก็ออกมายอมรับว่า การลงทุนในปัจจุบันเน้นเรื่อง day trade มากขึ้น เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาผลตอบแทนให้คงเส้นคงวากับช่วงที่ผ่านมา
แม้ประเด็นดังกล่าวที่พูดถึงทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องเก่า แต่หากสังเกตให้ดีๆ จะรู้ว่าสภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นเช่นนั้นจริงๆ และอาจทำให้การเคลื่อนไหวของดัชนีในสัปดาห์นี้ยังเป็นลักษณะ side way เหมือนเช่นเดิม
สัปดาห์นี้ดัชนีมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 690-700 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 680-670 จุด