วงการ ประสานเสียง เม็ดเงินฝรั่งยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ระบุ ยังมีการจัดตั้งกองทุนมาลงทุนในหุ้นไทย หลังมองดอกเบี้ยปรับลดลงแน่ ขณะที่เล็งเห็นโอกาสในการทำกำไรสูง เพราะตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเติบโตได้มากกว่า แถม P/E ยังต่ำ เทียบกับหุ้นในภูมิภาคเดียวกันและเชื่อเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวได้ ส่วนสัปดาห์นี้คาดมีโอกาสแตะ 700 จุดได้ งานนี้ แบงก์-พลังงาน-อสังหาฯ ยังรับบทพระเอก
แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกตลาดหุ้นไทยจะยังคงย่ำอยู่กับที่ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ไตรมาส 2/50 สถานการณ์กลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยเฉพาะการเข้าเก็บหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ที่หนักมือขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่เปิดศักราชต้นไตรมาส 2 โดย 4 วันทำการต่างชาติมียอดซื้อสุทธิถึง 6,585.98 ล้านบาท (2-5 เม.ย.) ขณะที่ดัชนีกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 692.47 จุด มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อวัน
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงมีแนวโน้มที่จะเข้ามาซื้อต่อเนื่องอยู่ เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีการจัดตั้งกองทุนของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ รวมถึงการที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับลดลง ก็ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยด้วย
อีกทั้งสาเหตุที่ช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทยนั้น น่าจะมาจากการที่นักลงทุนต่างชาติเล็งเห็นโอกาสทำกำไร เพราะตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นภายในภูมิภาคเดียวกันแล้ว ดัชนีมีเปอร์เซนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สูงกว่าตลาดหุ้นอื่น รวมถึงการคาดการณ์ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะมีการปรับลดลง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางภาครัฐ ก็เป็นสิ่ง
จูงใจที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติ และมองว่าเศรษฐกิจไทยนั้นน่าจะฟื้นตัวได้
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์หน้าว่า ดัชนีฯยังน่าจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ และคาดว่าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะแนวต้านสำคัญที่ระดับ 700 จุด เพราะนักลงทุนต่างชาติน่าจะยังคงมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องโดยเฉพาะในหุ้นบิ๊กแคป ส่วนนักลงทุนภายในประเทศอาจจะยังไม่เข้าในช่วงสัปดาห์หน้าเนื่องจากจะมีวันหยุดติดต่อกันเนื่องในเทศกาล สงกรานต์ถึง 4 วัน ดังนั้นจึงทำให้มีการชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยให้กรอบแนวรับของสัปดาห์หน้าไว้ที่ 686 จุด ส่วนแนวต้านมองไว้ที่ 700 จุด
ตลอดทั้งเดือน เม.ย.50 นี้มองแนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ว่า หากนักลงทุนต่างชาติลงทุนครบเต็มรูมแล้ว ตลาดฯก็น่าจะนิ่ง คือไม่มีการปรับตัวอย่างหวือหวา เนื่องจากไม่มีปัจจัยที่เข้ามาช่วยกระตุ้น แต่ในช่วงปลายเดือนจะมีประเด็นเรื่องการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2550 ซึ่งอาจจะทำให้มีการเข้ามาลงทุนบ้างในหุ้น ที่มีการคาดหมายกันว่าผลประกอบการออกมาดี แต่เมื่อมองภาพโดยรวมในไตรมาส 1 แล้ว มองว่าภาวะตลาดฯโดยรวมยังไม่อยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าตลาดฯจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการซื้อขายที่ซื้อขายในไตรมาส 1 หายไป เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาทต่อวันเท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความมั่นใจของนักลงทุนยังไม่ดีเท่าที่ควร