ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 ม.ค. 51 ปิดที่ 796.47 จุด ลดลง 3.71 จุด หลังระหว่างวันขึ้นไปสูงสุดที่ 807.86 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 15,760 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 1,184.24 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด นำโดย PTT ปิดที่ 326 บาท ลบ 6 บาท, BANPU ปิด 394 บาท บวก 12 บาท, PTTAR ปิด 40.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง, PTTEP ปิด 151 บาท ลบ 1 บาท และ TOP ปิด 79.50 บาท ลบ 0.50 บาท

ตลาดหุ้นช่วงเช้าของวันที่ 11 ม.ค. ดัชนีรีบาวน์ขึ้น หลัง ?เบนเบอร์นันกี? ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาระบุว่า เฟดมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้มาก เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ

แต่ภาคบ่ายดัชนีไม่สามารถยืนเหนือแดนบวกได้ หลังตลาดกลับมากังวลกับข่าวเมอร์ริล ลินช์ ที่รายงานการขาดทุนกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ถึง 2 เท่า ขณะที่เรื่องการเมืองภายในยังวุ่นวายไม่จบ

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน มองแนวโน้มตลาดสัปดาห์หน้า ให้ติดตามเรื่องการเมืองที่น่าจะมีความชัดเจนออกมาบ้าง นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ ที่จะทยอยประกาศออกมา ทั้งธนาคารพาณิชย์ไทยและต่างประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารต่างประเทศ ที่ต้องจับตาว่าจะโชว์ความเสียหายจากปัญหาซับไพรม์สหรัฐฯมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเจพีมอร์แกน เชส และซิตี้กรุ๊ป ซึ่งหากผลประกอบการออกมามีขาดทุนสูง แสดงว่าปัญหาซับไพรม์ยังไม่จบ

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน มองแนวโน้มตลาดสัปดาห์ มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อได้อีก โดยยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองที่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะกรณีศาลจะพิจารณาคดีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเมือง รวมทั้งการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของแบงก์ชาติเพื่อพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 16 ม.ค.นี้

ด้านเทคนิค ให้แนวรับที่ 780 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 810 จุด.

อินเด็กซ์ 51


:lol: