Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 11/02/2008 @ 09:50:25 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต เรายังจะขอให้นักลงทุนระมัดระวังความเสี่ยงจากตลาดหุ้นสหรัฐฯให้จงดีต่อไป และ นักลงทุนก็
ควรจะทยอยขายหุ้นหากดัชนีปรับขึ้นไปอักในวันนี้ (แม้ว่าตลาดจะสามารถทะลุ 800 จุดไปได้ในวันศุกร์ที่ผ่าน
มา) โดยเราเห็นว่าตลาดจะมีแนวต้านทางจิตวิทยาที่แข็งแกร่ง ณ 815-820 จุด
ส่วนตัวแปรที่มีความเสี่ยงอีกประการหนึ่งก็คือ ความพยายามของรัฐที่จะไปแก้ไขมาตรการกัน
สำรอง 30% ซึ่งจะมีผลหลายด้าน เช่น ค่าเงินบาทอาจะแข็งขึ้นไปอีก เป็นต้น
ตลาดหุ้นดาวน์โจนส์และเอสแอนด์พี ปรับตัวลดลง แต่ตลาดแนสแด็กซ์ปรับเพิ่มขึ้นเพราะแผนการ
ซื้อหุ้นคืนจากตลาดของหุ้นอะเมซอน จะเห็นได้ว่าภาวะกังวลต่อโอกาสเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยยังสูง แม้
รัฐบาลอเมริกันได้วางแผนอัดฉีดงบประมาณ 150 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ ตลาดได้คาดว่าจะมีการลด
อัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ในวันที่ 13 มีนาคมนี้แล้วด้วยก็ตาม
ราคาน้ำมันในตลาดนิวยอร์คปรับเพิ่มขึ้น 4.2% เป็น 91.77 เหรียญต่อบาร์เรล เพราะวิตก
เรื่องการขนถ่ายน้ำมันในไนจีเรีย และทะเลเหนือของอังกฤษ ซึ่งน่าจะทำให้หุ้นพลังงานขนาดใหญ่ได้รับผล
บวกในระยะสั้น อย่างไรก็ดีเห็นจะเป็นโอกาสขายหุ้น PTTEP ออกไปก่อนในระยะสั้นๆ เพราะจะเห็นว่า
ราคาพลังงานผันผวนมากตั้งแต่เปิดปี 2551 เป็นต้นมา
สำหรับหุ้นที่จะอยู่ในขาขึ้นเพราะสมรรถภาพกำไรดี และเป็นที่นิยมในการซื้อขาย ได้แก่ PTTAR,
TTA, BBL, BAY และ TOP ส่วนหุ้น PTT, SCB, KBANK และ PTTEP จะกลับมาเป็นหุ้นตามดัชนีซึ่งก็จะ
ปรับขึ้น-ลงตามตลาด โดยกลยุทธ์หุ้นเหล่านี้ก็อยากจะให้ขายให้ได้จังหวะตอนดัชนีขึ้น (เช่นเดียวกับเหตุผลที่
เราเสนอให้ขายหุ้น PTTEP ออกไปตอนน้ำมันขึ้น และดัชนีปรับตัวขึ้นอีก จะได้ราคาดี)
ในส่วนหุ้นที่ให้ขายจะยังคงเป็น ผู้รับเหมาขนาดใหญ่ คือ ITD และ STEC เพราะราคาสูงเกิน
ไปแล้ว แม้จะมีข่าวดีบนความหวังของการริเริ่มโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐ
กลยุทธ์หุ้น
*เก็งกำไร TTA จากการปรับตัวขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ
ราคาหุ้นมีโอกาสดีดตัวขึ้นจากการที่ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามนักลงทุนควร
ระมัดระวังการปรับฐานในระยะสั้นที่ระดับราคา 45 บาท (ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาเกือบ 40% ในช่วง 2 สัปดาห์
ที่ผ่านมา) เนื่องจาก TTA มีค่าเบต้าสูง
* ขาย PTTEP ในระยะสั้นในช่วงที่ราคาน้ำมัน NYMEX ฟื้นตัว
นักลงทุนควรอาศัยจังหวะที่ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้น 3.66 เหรียญสหรัฐฯเพื่อขาย
PTTEP ออกไปในช่วงที่ราคาหุ้นพุ่งขึ้น แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจะแข็งแกร่ง แต่ความผันผวนในการซื้อ
ขายและราคาพลังงานอาจจะทำให้ราคาหุ้นร่วงลงได้อีกครั้ง
สัดส่วนการลงทุนเรายังคงสัดส่วนการถือครองหุ้นที่ 30%
สัดส่วน (%) หุ้นหลัก
เงินสด 70%
หุ้นขนาดใหญ่ 16% PTT, BBL, KBANK, BANPU และ PTTEP
หุ้นไวต่อดัชนี 5% TTA, BAY, PTTAR, BEC, PTTCH และ TOP
หุ้นมีประเด็น 5% MCOT, CPF, BJC, AP, CPN, PS และ UMS
หุ้นขนาดเล็ก 4% TRC, MFEC, TPC, MCS, OISHI, SIS และ PTL
หุ้นน่าจับตา
เราแนะนำให้นักลงทุนขาย CPN ซึ่งราคาหุ้นปิดใกล้ระดับราคาเหมาะสมของเราที่ 29 บาท/หุ้น
โดยบริษัทจะได้รับผลประโยชน์จากการที่รัฐบาลอาจจะยกเลิกกฎการควบคุมเงินทุนต่างชาติในด้านของกอง
ทุนอสังหาริมทรัพย์ แต่ข่าวนี้ได้ตอบรับไปในราคาหุ้นปัจจุบันแล้ว
บทวิเคราะห์วันนี้
* BANPU <452 บาท : ซื้อเมื่ออ่อนตัว> คาดไตรมาส 4/50 กำไรโต 40% yoy ส่วนใหญ่มา
จากรายการพิเศษ
* SCCC <240 บาท : ถือ> กำไรไตรมาส 4/50 ตกต่ำจากการตั้งสำรอง, ค่าใช้จ่ายในการ
ลดพนักงาน และ ต้นทุนพุ่ง แต่ราคาปูนที่ปรับขึ้นจะหนุนกำไรปีนี้
* TSC <7.65 บาท : ซื้อ> คาดกำไรไตรมาส 4/50 ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว แนวโน้มปี
2551 จะได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ต่อเนื่อง และอุตสาหกรรมรถยนต์
* TRUE <5.70 บาท : ซื้อเก็งกำไร> คาดผลประกอบการไตรมาส 4/50 ดีขึ้นเป็นขาดทุน
ปกติ 315 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 173 ล้านบาท
* SATTEL <9.20 บาท : ทยอยสะสม> ธุรกิจไอพีสตาร์ค่อยๆ ขยายตัว / คาดสร้างกำไรใน
ปีหน้า
11 ก.พ.--บล.กิมเอ็ง[/size:b94d5113fc">
|
