ตัดเอาคอลัมส์ที่น่าอ่านมาให้อ่านครับ

:lol:

ไอเดียกับคำแนะนำหลากหลายอีกส่วนหนึ่ง ช่วยคนทำงานเกิดความกระตือรือร้น อยากพัฒนาตัวเองแบบ DIY หรือคิดเองทำเอง ได้ลองเลือกไปปรับใช้กันบ้าง ซึ่งจะส่งผลดีโดยตรงต่อบุคคลนั้น ได้สามารถทำผลงานหรือผลผลิตให้ได้ดียิ่งขึ้น และดีต่อเนื่องจนได้เนื้องานเพิ่มหรือทำกำไรให้กับองค์กรได้มากขึ้น

@"กำหนดเวลาทำงานแต่ละชิ้น"

คือไอเดียแรกของสมาชิกเวบไซต์ที่สเตรนนำเสนอ สมาชิกรายนี้เล่าว่า เขาใช้วิธีกำหนดเวลาว่า เมื่อใดบ้างต้องทำสิ่งต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องทำในแต่ละวัน พร้อมยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ทุกวันเขาได้รับอีเมลมากมาย ทำให้ต้องกำหนดเวลา 3 ครั้งต่อวัน เพื่อเข้าไปตรวจสอบ หลังจากเคยเสียเวลาทั้งวันกับการเข้าไปดูอีเมลเหล่านั้น

การกำหนดเวลาทำงานที่มีอยู่มากมาย อย่างเช่นการจำกัดเวลาอ่านและตอบเมลของสมาชิกเวบไซต์รายนี้ในแต่ละวัน ช่วยให้เขาเร่งทำและรีบทำเร็วขึ้น ได้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเขารู้ว่าต้องใช้เวลาเพียงใดในการทำงานส่วนนั้นให้เสร็จในแต่ละวัน

@"ยืดเส้นยืดสายบ้าง"

การนั่งอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ทำให้สมาชิกเวบไซต์ให้ไอเดียนี้เหนื่อยล้า ปัญหานี้ทำให้เขาคิดหาทางลดความเหนื่อยล้า ด้วยการเตือนตนเองบ่อยครั้ง และให้บังคับร่างกายค่อยๆ ปรับตัว ด้วยการเดินยืดเส้นยืดสายระหว่างชั่วโมงทำงาน

ช่วงแรกอาจเริ่มจาก 1-2 นาที จนในที่สุดเขาทำได้นานขึ้น ให้การยืดเส้นยืดสายกินเวลานานประมาณ 5 นาที ในแต่ละครั้ง หลังจากทำงานไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง ขอให้การยืดเส้นยืดสายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการทำงาน เพื่อทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้น และช่วยให้เขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

@"ดื่มน้ำรับประทานผักผลไม้"

สมาชิกเวบไซต์รายนี้ทำงานเขียนเป็นหลัก งานเขียนจำเป็นต้องใช้พลังงานมากในการคิด และยิ่งใช้ความคิดกับการค้นคว้ามาก เพื่อไม่ให้เกิดสะดุดหรือมีปัญหากับการเขียน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าจะไม่อาศัยหรือพึ่งของหวาน ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เธออ้วน จึงต้องหาวิธีเลี่ยงไม่ให้รู้สึกแย่หรือมีศักยภาพกับผลิตภาพด้านการเขียนลดน้อยลง

ดังนั้นเพื่อเพิ่มผลิตภาพ เธอต้องรับประทานผลไม้กับผักแทนของหวาน การได้พลังงานจากอาหารว่างมีใยอาหารหรือไฟเบอร์มาก ช่วยให้ร่างกายได้พลังงาน สามารถทำงานได้นานขึ้น และที่สำคัญทำให้ร่างกายของสมาชิกผู้นี้รู้สึกแข็งแรงมากขึ้น สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการเขียนได้ตลอดทั้งวัน

@"ทำงานบ้านหยุดพักสายตา"

ไอเดียบรรเจิดนี้เป็นของชายท่านหนึ่ง ที่โพสต์เข้ามาเป็นสมาชิกแลกเปลี่ยนความเห็น เขาเป็นคนทำงานอยู่กับบ้านที่ไม่ต้องกลัวภรรยาบ่น เพราะเขาใช้เวลาหยุดพักจากการเหนื่อยล้าผละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ตามรายการที่กำหนดไว้ในแต่ละวันให้ภรรยา

งานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาหมายถึง คือการหยิบผ้าใส่เครื่องซักอัตโนมัติ, ตากเสื้อผ้า และล้างจาน เป็นต้น แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกิจกรรมเบาๆ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งและสมองตึงเครียดเวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ดี และที่สำคัญเขายังทำเพื่อครอบครัวได้งานบ้านไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งเป็นงานต้องเคลื่อนไหวแต่ไม่ต้องใช้สมอง และแตกต่างไปจากงานเขียนงานพิมพ์ ที่ต้องทำอยู่ทุกชั่วโมงและต้องทำทุกวัน

@"พัก 10 นาที ทำความสะอาด"

การทำความสะอาดของสมาชิกเวบไซต์รายนี้ หมายถึงการปัดกวาดเช็ดถูโต๊ะทำงาน ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดถึงวิธีนี้มาก่อน เพราะมัวแต่คิดว่าไม่มีเวลาพอที่จะทำ ปล่อยให้บนโต๊ะมีแต่กองเอกสารทับถมกันอยู่ ภาพไร้ระเบียบเช่นนี้ ทำให้เขาฉุกคิดที่จะจัดระเบียบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ตนเอง

ดังนั้นเขาจึงยอมแบ่งเวลาไม่น้อยกว่า 10 นาที ทุกวัน เป็นการพักงานที่มีอยู่ทั้งหมด ค่อยๆ ทำความสะอาดห้องทำงาน และโต๊ะทำงานของเขา แม้จะไม่สะอาดเรียบร้อยสมบูรณ์แบบไปเสียทุกจุด แต่อย่างน้อยสิ่งที่ได้จากการลงมือจัดระเบียบสถานที่ทำงานของเขา คือสามารถรู้ว่าสิ่งของหรือเอกสารใดอยู่ตรงไหน

@"ออกกำลังกาย"

เจ้าของไอเดียที่โพสต์เข้ามาในเซฟวิ่ง แอดไวซ์ ดอท คอม รายนี้ เล่าว่า เมื่อเขาเริ่มต้นทำงานด้านคอมพิวเตอร์เต็มเวลา เวลาส่วนใหญ่จึงหมดไปกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ และส่งผลให้น้ำหนักตัวของเขาเพิ่มขึ้นประมาณ 20 ปอนด์ หรือประมาณ 10 กิโลกรัม ในระยะเวลาไม่นาน

น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้สมาชิกรายนี้รู้สึกไม่สบายตัว ร่างกายอ่อนแอและส่งผลกระทบต่อผลิตภาพ เขาจึงตัดสินใจปรับตัว หันมาออกกำลังกายเป็นประจำทุกสัปดาห์ และออกกำลังจนติดเป็นนิสัย ซึ่งเป็นหนทางช่วยเขาได้มากในเรื่องสุขภาพดีขึ้น ความรู้สึกคล่องตัว และที่สำคัญช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานหรือผลิตภาพดีขึ้นด้วย

@"เต้นรำคลายเครียด"

วิธีนี้บางคนอาจอายที่จะทำ แต่สำหรับสมาชิกของเวบไซต์รายนี้ ซึ่งมีหน้าที่การงาน ที่สามารถทำอยู่กับบ้านได้ ให้ความเห็นว่าการเต้นรำเป็นกิจกรรมคลายเครียดที่เขาอยากทำ เพราะบางครั้งเมื่อได้ยินเพลงชื่นชอบ ก้นจะนั่งไม่ติดและอยากหยุดพักงาน เพื่อจะได้เต้นรำเคลื่อนไหวร่างกายให้หายเมื่อย

ขณะที่ภรรยาของเขาระยะแรกรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรม แต่เมื่ออธิบายถึงประโยชน์ให้ฟัง เธอกลับให้การสนับสนุนและความเข้าใจ เพราะรู้ว่าการได้หยุดพักทำงานสักครู่ โดยลุกขึ้นมาเต้นรำคลายเครียดช่วยสามีได้มาก ดังนั้นการเต้นรำอย่างน้อยวันละครั้ง แน่นอนว่าช่วยสมาชิกรายนี้สดชื่น และเพิ่มพลังช่วยให้ทำงานต่อเนื่องจนเสร็จ

@"เลิกกินอาหารหน้าคอมพ์"

คำแนะนำของสมาชิกเวบไซต์ข้อนี้ อาจขัดกับพฤติกรรมคนไทยวัยทำงานทั่วไป สมาชิกรายนี้เคยคิดและเคยทำ ในการนำอาหารมาวางไว้ข้างคอมพิวเตอร์ แบบทำงานไปด้วยกินไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลาทำงานและยังช่วยเพิ่มผลิตภาพ แต่แท้จริงแล้วเขากลับพบว่าส่งผลกระทบต่อศักยภาพการทำงาน

เพราะเขายอมรับว่าระหว่างกิน ไม่สามารถเพ่งความสนใจไปที่เนื้องานหรือรายละเอียดของงานได้ จนต้องหันเหไปสำรวจเวบไซต์ต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ตแทน และแม้รู้ว่าตนเองต้องเข้าไปหาข้อมูลจากหัวข้อใหม่น่าสนใจหลายเรื่อง เพื่อนำมาเขียน การกินอาหารไปด้วย ทำไปด้วย กลับกลายเป็นเรื่องยากไปเสียแล้ว

เจ้าของไอเดียนี้แนะนำว่า การกินอาหารระหว่างทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ยิ่งทำให้บุคคลนั้นๆรู้สึกเหนื่อยไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่าอย่างที่คิด แถมยังเสียเวลาเปล่าไปกับการท่องเน็ตอย่างไม่มีจุดหมาย ไม่ได้ช่วยให้งานเดินหน้าอย่างที่คิด

หลังจากลองกินอาหารหน้าจอคอมพิวเตอร์มาช่วงหนึ่ง เขาจึงปรับตัวใหม่โดยหยุดพักจริงจัง เมื่อกินอาหารก็อยู่ให้ห่างจากโต๊ะทำงานหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผลที่ได้เป็นบวกเมื่อเขารู้สึกว่าสดชื่นมีแรงมากขึ้น และพร้อมที่จะกลับไปนั่งทำงานต่อ

@"จำกัดเวลาใช้คอมพิวเตอร์"

เป็นอีกวิธีหนึ่งช่วยให้เกิดผลิตภาพได้ ซึ่งตอนแรกสมาชิกเวบไซต์เจ้าของความคิดนี้เอง ไม่เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพได้ แต่พออดทนตัดใจ ทำได้เขารู้สึกว่าผลงานทำได้มีมากขึ้น สำหรับความคิดนี้เป็นเหมือนกฎบังคับใจว่า จะใช้เวลาเพียง 7 ชั่วโมงต่อวันหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เวลาส่วนใหญ่ที่เหลือกับการทำงานหลัก

"เวลาที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์กลับมีมากขึ้น และทำให้ผมทำงานยากๆ หลายๆ อย่างให้เสร็จได้ทันในเวลาที่กำหนด แทนที่จะเสียเวลาเปล่าประโยชน์เกือบทั้งวันไปกับการเล่นคอมพิวเตอร์" สมาชิกเวบไซต์รายนี้ให้ความเห็น

@"งีบหลับช่วงสั้น-ไม่ดื่มกาแฟ"

ก่อนจะจบเรื่องนี้ ขอรวบรวมความเห็นของสมาชิกเวบไซต์แอดไวซ์ เซฟวิ่ง ดอท คอม 2 ราย ที่มีวิธีง่ายและธรรมดาจริงๆ เพราะวิธีแรกเป็นวัฒนธรรมที่คนทำงานในชาติยุโรปบางชาติเขาทำกันอยู่แล้ว คือการหาเวลางีบหลับช่วงสั้นๆ ซึ่งสามารถเพิ่มผลิตภาพกับศักยภาพให้กับเจ้าของไอเดียอย่างมาก แต่เขาเตือนว่าต้องแน่ใจก่อนว่าการงีบหลับต้องไม่นานเกิน 20 นาที เพราะนั่นอาจหมายถึงปัญหาทำให้ช่วงกลางคืนหลับยาก

ส่วนไอเดียสุดท้าย เจ้าของไอเดียแนะนำให้งดเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เช่น กาแฟ ทั้งที่เขาเองเคยเป็นคนติดกาแฟเอามากๆ เพราะคิดว่าเครื่องดื่มกาเฟอีนจะช่วยให้ทำกิจกรรมได้ตลอดวัน แต่ความคิดนี้ในระยะยาวกลับบั่นทอนศักยภาพกับผลิตภาพลดลง และด้วยความอดทน ในที่สุดเขาสามารถงดเครื่องดื่มประเภทนี้ได้ และสำคัญกว่านั้น การเลิกเครื่องดื่มมีกาเฟอีนหันมาดื่มโซดาแทน ช่วยให้เขาประหยัดเงินได้มากกว่า 1,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี