[b:4bad089c05">การเข้า และออกจากหุ้น [/color:4bad089c05">[/size:4bad089c05">[/b:4bad089c05">

เป็นประสบการณ์เหมือนกับการเรียนขับรถยนต์ หรือ ว่ายน้ำนั่นแหละครับ
คือ คุณต้องมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง อย่าเรียนทางไปรษณีย์เป็นอันขาดครับเพราะขืนทำอย่างนั้นก็มีแต่ภาคทฤษฎี
การออกจากหุ้นหรือ ระบายหุ้น เป็นศาสตร์และศิลปะอย่างหนึ่งครับ
เหมือนกับการเข้าซื้อนั่นแหละ ต้องอาศัยประสบการณ์ ผสมกับการศึกษาทางด้านจิตวิทยาผ่านสัญญาณทางเทคนิกหรืออื่นๆ

ในวอลล์สตรีท มีคนพยายามตั้งกฎใหม่สั้นๆว่าหมูต้องเข้าโรงฆ่า [/color:4bad089c05">
พร้อมกับสูตรเบื้องต้น 5 ประการที่คุณต้องฝึกสังเกตว่าถึงเวลาที่ต้องเทขายหุ้นทิ้ง
ดังนี้ครับ

1) แนวโน้มขาขึ้นต้องมีจุดสิ้นสุด เป็นไปไม่ได้ที่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
2) โมเมนตัมของตลาดที่กลับทิศกะทันหัน
3) สังเกตสัญญาณทางเทคนิกซึ่งมักจะถูกเทขายทิ้งจากยอดสูงสุดของราคาล่าสุด
4) แนวต้านทางเทคนิกของราคาที่เกิดจากการศึกษาในทุกแนวทาง
5) ข่าวร้ายที่โถมเข้ามาในตลาดอย่างรุนแรง (เรียกว่า tank-o-mara) ส่งผลให้อารมณ์ของตลาดเสียหาย
จนกระทั่งไม่มีแรงขับเคลื่อนราคาหุ้นให้ไปต่อ [/color:4bad089c05">

ทั้ง 5 ข้อข้างต้นนี้ นักเล่นหุ้นทางเทคนิกเขาบอกว่า เป็นเครื่องการันตีความล้มเหลวได้
แต่ก็มีข้อแม้ เพราะเขาบอกต่ออีกว่า อย่าได้พยายามทำกำไรสูงสุดในทุกๆออร์เดอร์ซื้อขายของคุณเลยครับ
สูตรของความสำเร็จ เขาตั้งเอาไว้ที่กำไร 40% เมื่อสิ้นปีที่ซื้อขายหุ้นครับ
คุณลองทบทวนดูเอาเองว่า ของคุณนั้น เป็นตามนี้หรือไม่
สำหรับผมเอง เรื่องนี้ ผมอ่านผ่านๆครับ จะบอกว่าน่าเชื่อถือ ก็คงไม่ได้ แต่จะบอกว่าเหลวไหล มันก็ไม่สมควรครับ
การซื้อขายหุ้น คือการเก็งกำไรชนิดหนึ่ง สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ความเสี่ยง กับ การหากำไร เป็นของคู่กัน
[b:4bad089c05">หุ้นไม่ใช่แฟนนะครับ [/color:4bad089c05">[/size:4bad089c05">[/b:4bad089c05">จะได้รักกันจนวันตาย
ตัวไหนไม่ได้กำไร หรือกำไรต่ำ อย่าไปสนใจมันเลยครับ

ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3

ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3
ฟฟฟฟ3

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3

.0008 .0008 .0008 .0008 .0008 .0008 .0008

[b:9a6dd2e52f">[/color:9a6dd2e52f">[/size:9a6dd2e52f">ขอบคุณค่ะอาฟง[/b:9a6dd2e52f">

[b:0887f98769">เห็นด้วยอย่างยิ่ง .0005 .0005 .0005 [/b:0887f98769">