7) เตรียมตัวก่อนเล่นหุ้นจริง
ก่อนจะลงมือเล่นหุ้นจริงๆ ก็อยากจะให้นักลงทุนทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจ รับมือกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ไว้ด้วยครับ ^^
- เตรียมใจรับความกังวล
ขอบอกว่าความรู้สึกตอนที่เล่นเกมหุ้น กับเล่นหุ้นจริงนั้นแตกต่างกันอย่างมากครับ
ตอนเล่นเกมหุ้นเราไม่ค่อยมีความกดดันอะไร เพราะเราไม่เสียอะไร เล่นแบบชิวชิว
แต่พอมาเล่นหุ้นจริง เราต้องเอาเงินของเราไปลงทุนในตลาดจริงๆ คราวนี้หล่ะครับ รวยจริง เจ๊งจริง !
บางคนเป็นคนที่มีความเครียดสูง ถ้าหุ้นที่ซื้อไว้เกิดราคาร่วงลงมา ก็อาจถึงกับทำให้นอนไม่หลับเชียวนะครับ
ดังนั้นเราควรเผื่อใจรับความเสี่ยงต่างๆที่จะเกิดขึ้นด้วย
-เตรียมรับมือกับปัญหา
เวลาเล่นหุ้น สิ่งไม่คาดฝันและอยู่เหนือการคาดเดาของเรามักเกิดขึ้นมาเสมอๆ
บางครั้งเราเลือกหุ้นมาอย่างดีแล้ว ดูทั้งปัจจัยพื้นฐาน ทั้งกราฟเทคนิค ว่าตัวนี้ดีสุดๆ แต่พอเราซื้อหุ้นตัวนี้ไปสักพัก
บริษัทที่ว่านี้กลับเกิดปัญหาร้ายแรงจนราคาหุ้นร่วงดิ่งเหว และไม่สามารถทำกำไรได้เหมือนเดิม
ตรงจุดนี้ เราต้องแก้เกมส์ด้วยการ ตั้งจุดตัดขาดทุน Cut Loss เอาไว้ครับ
บางคนอาจจะตั้งว่า ถ้าขาดทุนไป 5 % จะขายทิ้งให้หมด ซึ่ง %ที่จะ Cut Loss นั้นก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน
และที่สำคัญคือ ต้องมีวินัยในการ Cut Loss ด้วยนะครับ
คนส่วนใหญ่จะ Cut Loss ไม่ได้เพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่า เดี๋ยวราคาหุ้นก็เด้งกลับขึ้นไป จนท้ายที่สุด
ราคาก็ลงมาต่ำจนตัดใจขายไม่ได้ซะแล้ว เฮ้อ
-เตรียมเลือกหุ้น
การเลือกหุ้นสักตัว จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ซึ่งก็แล้วแต่สไตล์การเล่นหุ้นของแต่ละคนด้วยครับ
บางคนเป็นประเภทชอบความเสี่ยงสูง แทงสูงแทงต่ำ แบบนั้นก็มักจะหาหุ้นที่มีข่าว หรือมีประวัติเป็นหุ้นปั่น
บางคนก็ชอบลงทุนที่ราคาปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ก็จะเลือกซื้อหุ้นเฉพาะหุ้นที่ราคาในตลาดอยู่ต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็นมากๆ
( ราคาที่ควรจะเป็น สามารถพิจารณาจากบทวิเคราะห์ของแต่ละโบรกเกอร์ที่พิมพ์แจกให้ลูกค้าอ่านได้ครับ )
และสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ผมก็อยากแนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 หรือ SET100 ครับ
หุ้นที่อยู่ในกลุ่มทั้งสองนี้ คือหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์คัดเลือกมาแล้วว่า
- มีมูลค่าตามราคาตลาดที่สูง
- มีการซื้อ-ขายสภาพคล่องสูงสม่ำเสมอ
- มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยผ่านตามเกณท์
หุ้นพวกนี้จะเป็นหุ้นที่สภาพคล่องสูง ( ซื้อขายง่ายเพราะมีหุ้นหมุนเวียนเยอะ) แม้ราคาหุ้นจะไม่หวือหวาเหมือนหุ้นตัวเล็กๆ
แต่ก็มีความเสี่ยงน้อยกว่าด้วยครับ
สำหรับรายชื่อหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SET50 , SET100 สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่เวบ www.set.or.th ครับ
เสพข่าวหุ้น ควรระวัง !
โดยปกติแล้ว คนเรามักจะสนใจข่าวลือจากวงในมาก (Insider) เพราะเชื่อว่ามันเป็นข่าวที่ผู้บริหารบริษัทหรือเจ้าของธุรกิจนั้นๆ
จะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจนั้นจริงๆ ซึ่งโดยหลักการแล้วเขาจะไม่แพร่งพรายข่าวลักษณะนี้ออกมาเพราะจะทำให้เกิดความสับสนได้
บางครั้งบางทีคนที่ปล่อยข่าวอาจจะไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยข่าวก็ได้ อย่างเช่น เวลาเขาไปงานเลี้ยงสังสรรค์ก็อาจจะมีหลุดปากเผลอพูดออกมา เช่น
ผู้ดูแลโครงการของบริษัท X พูดให้เพื่อนฟังว่า " บริษัทกำลังจะมีโปรเจคต์อันนี้ออกมา คาดว่าจะสร้างเซอร์ไพรซ์ครั้งใหญ่ให้วงการ "
เมื่อคนแรกได้ยินก็เอาไปเล่าให้คนที่สองฟัง คนที่สองก็เล่าให้คนอื่นๆฟัง ข้อมูลมันก็ย่อมจะมีการบิดเบือนจากคนหนึ่งไปสู่คนหนึ่ง
จนข่าวที่กระจายออกมาสู่สาธารณะชนภายนอกอาจจะไม่เหมือนที่ผู้ดูแลโครงการบริษัทX ได้พูดไว้ในครั้งแรกก้ได้
นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวปลอมด้วยนะครับ เช่น รายใหญ่ที่กำลังติดหุ้นตัวหนึ่งอยู่ ขายหุ้นก็ไม่ออกเพราะสภาพคล่องน้อยเกินไป
เขาก็เลยปล่อยข่าวปลอมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง รายย่อยได้ข่าวดี( ปลอม) นี้มาก็แห่กันเข้ามาซื้อหุ้นตัวนั้น
จนเจ้าของบริษัทตัวจริงต้องออกมาปฎิเสธข่าวในภายหลัง สร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่ตกเป็นเหยื่อเป็นอย่างมาก
ดังนั้น คนที่ปล่อยข่าว Insider ออกมา อาจจะไม่ใช่เจ้าของบริษัทตัวจริงก็ได้
ดังนั้นหลังจากที่เราได้บริโภคข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับหุ้นมาแล้ว เราควรจะกรองข่าวด้วยนะครับ
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการกรองข่าว
1. ดูว่าพื้นฐานของบริษัทนั้นจริงๆแล้วทำธุรกิจอะไร
2. ดูว่าบริษัทนั้นมีความสามารถในการทำกำไรได้มากน้อยยังไงบ้าง
อย่างเช่น ถ้าบริษัทออกข่าวว่ามีกำไรขึ้นมา เราก็ต้องดูว่าหุ้นนั้นเป็นหุ้นแบบ Turn Around หรือเปล่า
หุ้น Turn Around หมายถึง บริษัทนี้อาจจะทุ่มเงินลงทุนไปกับเครื่องจักรโรงงานอะไรสักอย่างเป็นเวลานานจนผลประกอบการติดลบ
แต่สักพัก พอติดตั้งเครื่องจักรอะไรเสร็จ ก็เร่งขายสินค้าจนขายได้เป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ผลประกอบการติดลบ ก็กลายเป็นมีกำไรอย่างรวดเร็ว
หุ้นแบบนี้จะเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจมากครับ
นอกจากนี้ เมื่อเราได้รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทมา เราควรจะพิจารณาว่า กำไรที่เห็นนั้นเป็นกำไรที่ได้มาจากการขายสินค้าหรือเปล่า
หรือว่าเป็นกำไรพิเศษ เช่น ระดมทุนเพิ่มเติม , ขายที่ดินได้ ฯลฯ เหล่านี้เป็นกำไรพิเศษที่ไม่ใช่กำรปกติของธุรกิจหลักที่ทำอยู่
3. วิเคราะห์เนื้อข่าวก่อน
ลักษณะปกติของการพาดหัวข่าว เขาก็มักจะพาดหัวให้เว่อร์ๆเพื่อดึงดูดความสนใจคนอ่านไว้ก่อน เช่น
" บริษัทเตรียมเจ๊ง กำไรพุ่งพรวด 800% !!" อ่านดูเผินๆก็อาจจะคิดว่าบริษัทนี้ทำกำไรได้มากมายมหาศาล
แต่ในความเป็นจริงก็คือ ปีที่แล้วบริษัทเตรียมเจ๊งขาดทุนขั้นมโหฬารแทบจะล้มละลาย แต่มาปีนี้พลิกล็อคทำกำไรขึ้นมาได้ในระดับปกติ
แบบนี้ก็ลวงตาทำให้ดูเหมือนกำไรพุ่งแรงได้เหมือนกันครับ
อีกกรณีก็เช่น มีการปล่อยข่าวว่า หุ้นตัวนี้ราคาถูกมาก มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นไปอีก แต่จริงๆแล้ว หุ้นตัวนี้อาจจะไต่ระดับขึ้นมานานแล้ว
และกำลังเตรียมตัวจะร่วง ถ้าเราเพิ่งรู้ข่าวแล้วเข้าไปรับหุ้น ก็อาจทำให้เราติดหุ้นได้ครับ
8) โปรแกรมหุ้นออนไลน์
ในตอนนี้จะอธิบายเกี่ยวกับโปรแกรมหุ้นออนไลน์อย่างคร่าวๆนะครับ ส่วนวิธีใช้งานจริงๆเกี่ยวกับการเทรดหุ้นออนไลน์โดยละเอียดนั้น
ผมขอข้ามนะครับเพราะโปรแกรมเทรดหุ้นของแต่ละโบรกเกอร์จะไม่เหมือนกัน
ดังนั้นถ้าเราไม่เข้าใจการใช้งานโปรแกรมตรงไหน เราต้องถามมาร์เกตติ้งนะครับ
หน้าตาโปรแกรมหุ้นออนไลน์
เมื่อเราเปิดบัญชีแบบออนไลน์กับโบรกเกอร์เรียบร้อยแล้ว เราจะได้รหัสผู้ใช้งานกับรหัสผ่าน มา
เพื่อเข้าไปใช้งานในส่วนต่างๆที่เกี่ยวกับหุ้น เช่น เทรดหุ้นออนไลน์ , ติดตามดูหุ้น ฯลฯ
ในที่นี่ผมขอยกตัวอย่างของ Asiaplus นะครับ
พอเราเข้าระบบเรียบร้อยแล้ว ให้เราเข้าในส่วนของการดูหุ้น ( ASP Liberty ) มันก็จะมีหน้าต่างสำหรับดูหุ้นโผล่มาครับ
ดูทางด้านซ้าย จะเห็นว่ามีแถบเมนูมากมายเรียงเป็นตับเลยครับ Quote , Warrants , Futures ฯลฯ
เดี๋ยวจะอธิบายเฉพาะอันที่สำคัญๆก็แล้วกันนะครับ
เมนู Quote
จะเป็นหน้าต่างที่แสดงรายละเอียดทั้งหมดของหุ้นที่เราเฝ้าดู ( อยากดูหุ้นตัวไหน ก็กรอกชื่อหุ้นลงในช่องเลยคับ)
มันจะบอกความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ว่าเปลี่ยนแปลงบวกหรือลบไปกี่สตางค์ , กี่บาท กี่เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับราคาปิดเมื่อวาน
มีช่องที่มีฝั่ง Bid และ Offer มีช่องที่แสดงว่า มีการซื้อขายในราคาหุ้นหนึ่งๆไปแล้วกี่หุ้น
มีกราฟคร่าวๆของหุ้น และดัชนีโดยรวมว่าตลอดทั้งวัน ราคาหุ้น , ดัชนี ปรับตัวขึ้นลงยังไงบ้าง
Bid และ Offer คืออะไร?
Bid คือ ราคาเสนอซื้อ Offer คือราคาเสนอขาย อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ
คนที่ไม่มีหุ้นแล้วอยากได้หุ้นตัวนี้ ก็จะไปตั้งซื้อหุ้นในช่องฝั่ง Bid เพื่อรอคนที่จะขายหุ้น ขายลงมาให้เรา
คนที่มีหุ้นแล้วอยากขายหุ้นออก ก็จะไปตั้งขายหุ้นที่ช่อง Offer เพื่อรอคนที่อยากซื้อหุ้น ซื้อหุ้นเรา
ดูรูปเพื่อความเข้าใจประกอบด้วยนะคับ ( ทำไมมันพิมพ์ไม้เอก ไม่ติดหว่า แฮะๆ )
สีจะบอกถึงราคาว่าเป็นบวกหรือลบ เมื่อเทียบกับราคาปิดเมื่อวานนะครับ
สีเหลือง - คือราคาหุ้นเท่ากับราคาปิดวันก่อน
สีเขียว - คือราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากวันก่อน
สีแดง - คือราคาหุ้นลดลงจากวันก่อน
ส่วนตัวเลขที่เห็นเยอะๆนั่นคือ จำนวนหุ้นในแต่ละช่วงราคาครับ ( Volume )
เมนู Multiple View
จะเป็นหน้าจอที่ จับตาดูความเคลื่อนไหวของหุ้น 2 ตัวพร้อมกันครับ โดยจะตัดลดรายละเอียดพวกกราฟระหว่างวันออก
เพื่อให้มีพื้นที่พอสำหรับหุ้นสองตัวครับ
เมนู 5Bid/5Offer
อันนี้จะแสดงราคาหุ้นพร้อมกันทีเดียว 6 ตัวเลยครับ เหมาะมากสำหรับคนที่ซื้อหุ้นไว้หลายๆตัว จะได้ติดตามดูราคาพร้อมๆกันเลย
เมนู Ranking
เป็นหน้าจอที่แสดงภาพโดยรวมในหลายๆแง่มุมของตลาดโดยวิธีเรียงตามลำดับครับ
มีทั้ง ดูว่าขณะนั้นหุ้นตัวไหนมีมูลค่าการเทรดสูงที่สุดในตลาด (Most Active) , หุ้นตัวไหนมีปริมาณหุ้นที่เทรดสูงสุดในตลาด (Volume)
ตลอดจนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในตลาด ( %Gain) หุ้นที่โดนเทกระจาดหนักที่สุดในตลาด (%Loss) และอีกสารพัดลองคลิ๊กๆดูเอาครับ
เมนู Chart
เป็นเมนูที่แสดงกราฟหุ้นครับ อยากดูกราฟหุ้นตัวไหนก็ใส่ชื่อเข้าไปเลย ปุ่มฟังค์ชั่นการใช้งานก็จะเรียงเป็นแถวอยู่ด้านบนครับ
เราสามารถเปลี่ยนกราฟเป็นแท่งเทียน หรือเป็นแบบChart ก็ได้ ดูกราฟในรอบ 1ปี 2ปี 5ปีก็ได้ ยืดกราฟ หดกราฟตามที่เราต้องการ
ใส่เทคนิคกราฟพวก MACD RSI ลงไปประกอบการดูหุ้นก็ได้ด้วยครับ
เมนูTicker
เป็นจอที่แสดงการซื้อขายหุ้นบนกระดานหลักครับ ตัวเลขจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเมื่อมีการซื้อขายหุ้น
เอาไว้สำหรับดูภาพโดยรวมของตลาดว่า ตอนนี้คนเขาเล่นหุ้นตัวไหนกันบ้าง ,ช่วงนี้หุ้นตัวไหนได้รับความนิยมมาก เป็นต้น
เมนูNews
จะแสดงข่าวสารที่เกี่ยวกับหุ้น บทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ ข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ครับ
เครื่องหมายที่ต้องรู้
ในบางครั้ง จะมีเครื่องหมายแปลกๆติดห้อยอยู่ที่หลังชื่อหุ้น มันเป็นเครื่องหมายที่แสดงข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆครับ มีความหมายดังนี้
XD ย่อมาจาก Excluding Dividend
หมายถึง การไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราซื้อหุ้น PTT ในวันที่มีเครื่องหมายนี้โชว์อยู่ เราจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล
ถ้าเราอยากได้รับเงินปันผล เราต้องซื้อหุ้น PTT ก่อนที่มันจะขึ้นเครื่องหมาย XD ครับ
XM ย่อมาจาก Excluding Meeting
หมายถึง การไม่มีสิทธิได้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ( ถึงเรามีหุ้นไม่กี่หุ้น แต่ถ้าเราซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมายนี้ เราก็มีสิทธิจะเข้าร่วมประชุม
ผู้ถือหุ้นได้เหมือนคนอื่นๆที่มีหุ้นเป็นล้านหุ้นเช่นกันครับ )
XR ย่อมาจาก Excluding Right
หมายถึง ไม่มีสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท
XW ย่อมาจาก Excluding Warrant
หมายถึง การไม่มีสิทธิได้รับ Warrant (ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้น)
XA ย่อมาจาก Excluding All
หมายถึง ไม่ได้สิทธิทุกข้อ
H ย่อมาจาก Trading Halt
หมายถึง หยุดการซื้อขายหุ้นชั่วคราว อาจเพราะมีข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ได้รับแจ้งจากทางบริษัทหุ้น
หรือบริษัทขอให้หยุดการซื้อขายเพื่อรอบริษัทแจ้งข่าวสารที่สำคัญก็ได้ครับ
SP ย่อมาจาก Trading Suspension
หมายถึง การห้ามซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว อาจมีสาเหตุจากการขึ้นเครื่องหมาย H แล้วทางบริษัทไม่สามารถชี้แจงตลาดได้
หรือบริษัทไม่สามารถส่งงบการเงินได้ทันตามที่กำหนด หรือ อาจมีเหตุร้ายแรงที่ส่งผลต่อการซื้อขายหลักทรัพย์
NP ย่อมาจาก Notice Pending
หมายถึง บริษัทมีข้อมูลที่ต้องรายงานตลาดหลักทรัพย์และอยู่ในช่วงรอข้อมูลจากบริษัท
NR ย่อมาจาก Notice Received
หมายถึง ตลาดหลักทรัพย์ได้รับการชี้แจงข้อมูลจากบริษัทนั้นแล้ว
NC ย่อมาจาก Non-Compliance
หมายถึง บริษัทหุ้นที่เข้าข่ายการถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์
หลังจากที่เปิดพอร์ตเป็นนักลงทุนแล้ว ควรจะ
- ให้ข้อมูลที่ตรงตามความเป็นจริงและปฎิบัติตามระบบกับโบรกเกอร์ เพื่อจะได้ให้คำแนะนำที่ดีและเหมาะสมจากโบรกเกอร์
- เก็บสำเนาเอกสารต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบความถูกต้องในเอกสารที่โบรกเกอร์จัดส่งให้อย่างละเอียด เช่น เอกสารสัญญา ใบยืนยันการซื้อขาย (ใบ Confirm) รายงานทรัพย์สินคงเหลือรายเดือน (Statement)
- วิเคราะห์การลงทุนอย่างรอบคอบ ไม่ลงทุนตามข่าวลือ ตามกระแส
- หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ลงทุน เศรษฐกิจ แนวโน้มและทิศทางการลงทุนในอนาคต
- ติดตามข้อมูลการดำเนินงานของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ในฐานะผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของบริษัท
เข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น ร่วมกิจกรรมการพบปะผู้ลงทุน (Opportunity Day)
สุดท้าย ผมได้รวบรวมเป็น 8 หัวข้อจากข้างบน หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนหน้าใหม่
ลงทุนอย่างพอดี มีวินัยในการซื้อขาย และมีความสุข สนุกกับการเรียนรู้
"อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsri.com"
แก้ไขโดย: kaisel
วันที่: 29 กันยายน 2558 @ 20:21:58