ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 เม.ย.61 ปิดที่ 1,779.52 จุด ลบ 8.68 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 65,018.58 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,312.71 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 57.50 บาท ลบ 0.50 บาท, KBANK ปิด 190 บาท ลบ 4.50 บาท, SCC ปิด 474 บาท ลบ 4 บาท, IVL ปิด 60.50 บาท บวก 0.50 บาท และ PTTEP ปิด 134 บาท ลบ 4 บาท

ตลาดปรับลงตาม Sentiment หุ้นโลก และแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน และงบฯ SCC ที่ออกมาต่ำ

บล.เอเซียพลัส สรุปมาตรการช่วยทีวีดิจิทัล ว่า เป็นเพียงการผ่อนลมหายใจเท่านั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดทุน เพราะการตัดจ่ายใบอนุญาตยังตัดจ่ายที่ 15 ปี ขณะที่รายได้ยังเพิ่มไม่ทันกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นช่องที่พัฒนา Contents และสามารถยึดฐานตลาดไว้ได้อย่างมั่นคง เช่น BEC, RS, WORK, MONO

ส่วนการลดค่า MUX จะช่วยลดค่าใช้จ่ายใน 2 ปีข้างหน้า ช่วยเพิ่มกำไรให้ผู้ประกอบการที่ประมูลหลายช่องอย่าง BEC

และระยะยาว ผู้ที่จะอยู่รอดได้ต้องมี contents ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับกระแส รวมถึงการหาช่องทางในการทำธุรกิจเพิ่มเติม over the top (OTT) เนื่องจากคนรุ่นใหม่นิยมชมทางออนไลน์เพิ่มขึ้น (ผ่านมือถือ, แท็บเล็ต) วันละ 4 ชม. เช่น ผ่าน Facebook, Youtube, Onling vedio เช่น BEC พัฒนาช่องทางของตนเองผ่าน Mello เป็นต้น

ความนิยม OTT ทำให้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 13% จากที่อยู่ในระดับ 5% ในปี 55 โดยไหลจากโฆษณาแบบเดิมๆ

ในภาวะนี้จึงแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรหุ้นบันเทิงที่มีกำไรที่ดีจากมาตรการนี้คือ WORK, BEC, MONO!!