ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 พ.ย.63 ปิดที่ 1,415.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 117,120.20 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,744.68 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศรับข่าวบวกความคืบหน้าวัคซีนและท่าที โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเปิดทางยอมถ่ายโอนอำนาจให้ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ “โจ ไบเดน” ที่จะเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการเดือน ม.ค.64 แต่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังกดดันบรรยากาศการลงทุน

บล.เอเซียพลัสชี้ว่า ความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหนุนให้เห็นการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากสินทรัพย์ปลอดภัยสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สังเกตได้จาก ราคาทองคำ (Gold Spot) ปรับตัวลงกว่า 3.7% (mtd) และ Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯปรับขึ้นกว่า 18 Bps. (ในช่วง 2 สัปดาห์) ขณะที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับเกิน 30,000 จุด โดยหุ้นที่ขับเคลื่อนเป็นหุ้นกลุ่มวัฏจักรเป็นหลัก (Cyclical)

ซึ่งตลาดหุ้นไทยน่าจะได้อานิสงส์ด้วย เนื่องจากสัดส่วนหุ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้น Cyclical เป็นหลัก โดยมีน้ำหนักอยู่ในกลุ่มพลังงานและปิโตรฯถึง 1 ใน 4 รวมถึงยังมีน้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นลำดับต้นๆ จึงเป็นที่จับจ้องของนักลงทุนต่างชาติมากเป็นพิเศษในช่วงนี้

ส่วนภาพรวม Fund Flow ต่างชาติยังซื้อสุทธิหุ้นภูมิภาคเดือน พ.ย. ด้วยปริมาณเงินที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 1.44 หมื่นล้านเหรียญฯ (mtd) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยถูกต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1.13 พันล้านเหรียญฯ หรือ 3.43 หมื่นล้านบาท (mtd) สูงสุดในรอบ 10 ปี 2 เดือน หนุนให้ SET Index ปรับขึ้น 17.3% mtd

สรุปภาพรวมเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินย้ายจากสินทรัพย์ปลอดภัยสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะเอเชียปรับตัวขึ้นแรง หลังได้แรงหนุนจาก Fund flow ต่างชาติ ดังนั้นตราบที่ยังมี Fund flow ต่างชาติคอยหนุน คาดทำให้ดัชนียังมีโอกาสขยับตัวขึ้นต่อได้ ให้น้ำหนักหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการเลือก AAV-OSP-STEC

ยามที่ Fund flow ยังคงไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง และต่างชาติกลับมาให้น้ำหนักหุ้นที่ได้ประโยชน์จากความคืบหน้าของวัคซีนป้องกัน COVID-19 มากขึ้น บวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ทั้งจากการกล้าจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น และยังหนุนด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทยอยออกมาได้ถูกจังหวะ

กลยุทธ์จึงเลือกหุ้น Vaccine Play เสริมเกราะด้วยมาตรการภาครัฐ อย่าง AAV, OSP และ STEC!!

อินเด็กซ์ 51