หลังจากฝันเป็นจริง…เสร็จสิ้นภารกิจ COD โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี กำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว…บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ก็สานฝันต่อด้วยการซุ่มศึกษาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจากเขื่อนใหม่ ๆ ซึ่งมีอยู่หลายโครงการ…

แต่ที่มีความชัดเจน เมื่อช่วงต้นเดือนเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เข้าซื้อหุ้น 42% ในบริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด (LPCL) จาก บริษัท พีที จำกัดผู้เดียว (PTS) มูลค่าราว 0.42 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 13.23 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ในสปป.ลาว

ตอกย้ำความชัดเจนมากขึ้น ล่าสุดทุ่ม 2,170 ล้านบาท ซื้อหุ้นหลวงพระบาง พาวเวอร์ เพิ่มอีกจำนวน 217 ล้านหุ้น เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางดังกล่าว

นั่นหมายความว่า สิ่งที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิค การเงิน และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงสัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาสัมปทาน สัญญาสินเชื่อ และสัญญาก่อสร้าง มีความคืบหน้าไปมากแล้ว…ไม่งั้น CKP คงไม่เสี่ยงใส่เงินใส่ทองเพิ่มแน่ ๆ…

ความน่าสนใจของหลวงพระบาง พาวเวอร์ เป็นผู้ศึกษาเพื่อพัฒนา ก่อสร้าง ดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโครงการ LPHPP ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำประเภทฝายทดน้ำขนาดใหญ่บนแม่น้ำโขง สปป.ลาว ด้วยการยกระดับน้ำให้สูงขึ้น

โดยไม่มีการผันน้ำออกจากแม่น้ำโขงและไม่มีการกักเก็บน้ำเหมือนเขื่อนที่มีอ่างเก็บน้ำทั่วไป มีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 1,460 เมกะวัตต์ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยประมาณปีละ 6,854 ล้านหน่วย มีระยะเวลาสัมปทานประมาณ 32 ปี นับจากวันจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์

นี่จึงกลายเป็นพิมพ์เขียวเขื่อนใหม่ของ CKP..!!

หากเดินเครื่องผลิตเมื่อไหร่..? ก็น่าจะช่วยปั๊มรายได้และกำไรได้เป็นกอบเป็นกำทีเดียว…

แน่นอนว่า CKP คงไม่ไปคนเดียวหรอก น่าจะควงแขนพันธมิตรไปด้วย…

จะเป็นกลุ่มเดิม อย่างบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ซึ่งร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรีมาก่อนหน้านี้ หรือจะเป็นกลุ่มใหม่แทรกเข้ามาในโครงการนี้..?

เป็นอีกช็อตที่น่าติดตาม…

ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ที่แน่ ๆ เมื่อลูกเข้าไปลงทุนอย่างนี้ ก็จะส่งผลบุญไปถึงแม่อย่างบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ด้วย…ในส่วนของการสร้างโรงไฟฟ้าคงไม่ใช่ใครที่ไหน ถ้าไม่ใช่ CK ที่งานนี้รับเละไปเต็ม ๆ เพราะนอกจากกินค่าก่อสร้างพุงกางแล้ว ยังรับรู้รายได้และกำไรจาก CKP ตามสัดส่วนการถือหุ้นอีกด้วย

ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะฉายา CK เป็นแม่ที่หากินกับลูกอยู่แล้วนี่…

ใช่มั้ยคะ “เฮียปลิว ตรีวิศวเวทย์” ขาาา…

…อิ อิ อิ…