* ก่อนหน้านี้เดี๊ยนพยายามหลบเลี่ยงที่จะพูดถึงบรรยากาศการลงทุนรายวัน เพราะพูดบ่อย ๆ เหมือนเดี๊ยนทำตัวเป็นหมอเดา จึงไม่อยากแสดงความเห็นในเรื่องที่เคยพูดไปแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาพูดเรื่องเดิม ๆ อีกครั้ง หลังแฟนคลับร้อยท่อต่อสายตรงให้ช่วยประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นวันละ 1-2 ย่อหน้าก็ได้ เพราะเป็นไกด์ไลน์ที่บอกให้นักลงทุนรายย่อย ควรปรับตัวอย่างไรนะซี

* “โมนิก้า” จึงขอเริ่มต้นวิเคราะห์ตลาดหุ้นด้วยเรื่องค่าเงินบาทที่ยังอยู่ในทิศทางแข็งโป๊ก เพราะเป็นสัญญาณที่บอกให้กับเซียนหุ้นทั่วไปรู้ว่า นักลงทุนต่างชาติยังขนเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้หุ้นบลูชิพพยายามเดินหน้าขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม และครั้งนี้ก็มีสิทธิ์ลุ้นให้ดัชนียืนเหนือแนวรับ 1,500 จุดเสียด้วย..เดี๊ยนเลยอยากให้แฟนคลับใช้วิธี “ลงช้อน ขึ้นขาย” พะยะค่ะ

* เนื่องจากข้อมูลที่พรั่งพรูเข้ามาในสมอง “โมนิก้า” มีทั้ง “เรื่องดี เรื่องไม่ดี” จึงมีความรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ได้แรงหนุนจากแนวความคิดที่ว่า หุ้นไทยเป็นตลาดเกิดใหม่ที่น่าลงทุน ! จึงเชื่อว่า เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศน่าจะพุ่งเป้ามาที่ไทยในปีหน้า ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า ดัชนียังมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปอีก และมีลุ้นวิ่งฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,480 จุดแบบนี้..จึงต้องใส่เต็ม ๆ ทุกช็อต (ทุกครั้งที่หุ้นขึ้นแรง อีกวันมักตกลงแรง) และการเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,461.95 จุด บวกไป 9.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.77 หมื่นล้านบาท ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องตื่นเต้นเจ้าค่ะ

* ส่วนที่โดนเต็ม ๆ คงหนีไม่พ้น DELTA ข่าวล่ามาแรงบอกให้ผู้ถือหุ้น “เตรียมตัว ตัวใจ” รับสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ เพราะเหตุการณ์ขายทิ้งทุกราคาในช่วง 2 วันที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า “วงแตก” ยิ่งมองในมุมของปัจจัย “พื้นฐาน” กับ “ราคา” ไม่สัมพันธ์ จนโบรกเกอร์ทุกแห่งกระทืบซ้ำด้วยการแนะนำให้สาดทิ้ง เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 438 บาท ลบไป 122 บาท หรือลงไป 21.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.43 พันล้านบาทนะจะบอกให้

* สำหรับรายที่ “มาเร็ว เคลมเร็ว” อย่างหุ้น AEONTS กลายเป็นอีกหนึ่งช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ตกอยู่ในภาวะตะลึงไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะหุ้นทำท่าเหมือนจะยืนในระดับ 240 บาทบวกลบ (ภายใต้สมมุติฐานกำไรต่อหุ้น 10 บาท เมื่อเทียบกับพี/อี 25 เท่า ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรง) พอเอาเข้าจริงดันรูดมหาราชไม่ทันตั้งตัว แต่ล่าสุดเด้งกลับมาปิดที่ 199 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.22 พันล้านบาท จบเกมแล้วใช่ไหมเจ้านาย !

* หุ้นอีกรายที่ถูกกล่าวถึงมากไม่แพ้กัน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นดาวเทียม THCOM ถูกมือที่มองไม่เห็นถล่มขายอย่างหนักหน่วง พร้อมกับมีข่าวเม้าท์เรื่องไอ้โม่งดันหุ้นเมื่อวันก่อน เดี๊ยนมองเป็นเกมหุ้นที่โหดเกินไปหน่อยสำหรับหุ้นที่มีเรื่องเทิร์นอะราวด์ และมีประเด็นต่ำบุ๊กเป็นตัวค้ำยัน จึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันว่า การทรุดตัวลงมาปิดที่ 8.85 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 5.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 198 ล้านบาท น่าสนใจจริงอะป่าว ?

* เม้าท์ถึงหุ้นที่น่าสนใจขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นกล่องกระดาษ SCGP เพื่อย้ำหัวหมุดการเติบโตของธุรกิจยังเปิดกว้างมาก ๆ บวกกับมุมมอง P/E 28 เท่าสำหรับหุ้นที่มีพัฒนาการอีกหลายอย่างคอยซัพพอร์ต เดี๊ยนเลยเชื่อเสมอมาว่า การยืนปิดที่ระดับ 41.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 752 ล้านบาท น่าจะเป็นการเปิดช่องให้กับคนที่ยังไม่มีของ..ได้เก็บของนะจ๊ะ

* เหมือนกับในรายของ KEX ถูกไม้แรก ๆ เขย่าหนักจนลงมายืนในระดับที่ “กองทุนเล่นได้ แมงเม่าเล่นดี” ก็กลายเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจเล่นยาว ๆ เพราะของมันเห็นกันเต็มลูกตาว่า ธุรกิจโลจิสติกส์มาดีทุกเจ้า ! “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 51 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.45 พันล้านบาท น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับนักเล่นประเภท “ใจถึง พึ่งได้”..อิอิอิ

* เม้าท์ถึงประเด็นที่ต้องติดตามกันยาว ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้นแท้ทรู TRUE สักนิดหนึ่ง เพราะในโลกของแมงลือเม้าท์ถึงเกมการเงินบางอย่างเยอะเหลือเกิน แต่จนบัดนี้ก็ไม่มีใครยืนยันเรื่องดังกล่าวมีความคืบหน้าไปถึงไหน ? เดี๊ยนเลยอยากให้แฟนคลับประเมินการไต่ระดับจาก 3.30 บาท จนล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 3.74 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.18 พันล้านบาท น่าสนใจไหมล่ะค่ะ