ช่วงปลายปี 2563 เห็นอาการร้อนรนอย่างชัดเจนของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S จากกรณีการขายหุ้น 51.56% ของบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD มูลค่า 1,793 ล้านบาท ให้กลุ่ม “สมวัฒนา” ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองของ NVD…หลังจากขั้นตอนการจ่ายเงินจ่ายทองยังไม่แล้วเสร็จ

เป็นเหตุให้สิงห์ต้องออกมาร้องแรกแหกกระเชอ…ระบุว่า กลุ่มสมวัฒนาเบี้ยวจ่ายเงินค่าหุ้นตามเงื่อนไข…

ร้อนถึงกลุ่มสมวัฒนาต้องรีบออกมาชี้แจงแถลงไข ว่าอยู่ในขั้นตอนจัดเตรียมเอกสารทางการเงินกับแบงก์ มิได้จงใจจะผิดเงื่อนไขแต่อย่างใด…อันนั้นก็ว่ากันไป

แหม๊…ไม่รู้ว่าที่กลุ่มสิงห์ร้อนรนเป็นเพราะร้อนเงินหรือเปล่าน้า..? จึงรีบออกตัวแรงซะขนาดนี้…

จะว่าไปก่อนหน้านี้ ก็เห็นอาการกลุ่มสิงห์บาดเจ็บอยู่นะ…อย่างสิงห์ตัวแม่ S โอเค..ในส่วนของธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารอาจได้รับผลกระทบจากโควิดไม่มาก แต่ธุรกิจอสังหาฯ เข้าขั้นเจ็บหนัก…

เห็นได้จากงบงวด 9 เดือนแรกปี 2563 โชว์ตัวเลขขาดทุนไปแล้ว 584 ล้านบาท โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 3,173 ล้านบาท ในขณะที่มีหนี้สินรวมอยู่ที่ 42,031 ล้านบาท เป็นส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 3,524 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้แบงก์…

ส่วนธุรกิจโรงแรมที่ดำเนินการผ่านบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ไม่ต้องพูดถึง โรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศทรุดกันถ้วนหน้า ส่งผลให้ 9 เดือนแรกปี 2563 ขาดทุนไปแล้ว 1,175 ล้านบาท

ขณะที่มีเงินสดและเทียบเท่าเงินสด 2,408 ล้านบาท แต่มีหนี้สินรวมสูงถึง 11,659 ล้านบาท เป็นส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 2,052 ล้านบาท

ดู ๆ ไปทั้งสิงห์ตัวแม่ (S) และสิงห์ตัวลูก (SHR) นี่เงินตึงมือด้วยกันทั้งคู่นะเนี่ย…

จะมีก็แต่กองทรัสต์ SPRIME เท่านั้นที่ประคองตัวได้ โดยงบ 9 เดือนแรกปี 2563 มีกำไรที่ 109 ล้านบาท

ว่าแต่นี่จะใช่สาเหตุที่ทำให้กลุ่มสิงห์ร้อนเงินจนร้อนรนหรือเปล่า..? อันนี้ก็น่าคิด…

กลับมาที่ดีลขายหุ้น NVD…พอผ่านข้ามปีมา ก็ปิดดีลได้สมใจสักที ทำให้สิงห์คลายกังวลไม่ต้องร้อนรน เอ๊ะ…หรือจะร้อนเงิน..? หลังจากกลุ่มสมวัฒนาจ่ายเงินค่าหุ้น 1,793 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว…สิงห์ก็คงสบายอกสบายใจมากขึ้น..!!

ถ้าย้อนไปดูความสัมพันธ์ของสิงห์กับกลุ่มสมวัฒนา ก็น่าสนใจ…โดยเมื่อปี 2548 “ศรศักดิ์ สมวัฒนา” ได้ก่อตั้งบริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจอสังหาฯ ภายใต้แบรนด์ “เนอวานา”…“ศรศักดิ์” ปั้นแบรนด์เนอวานาจนเติบใหญ่ไปเตะตากลุ่มสิงห์เข้า เลยเป็นที่มาของการร่วมทุนด้วยการแลกหุ้นกันในปี 2558…

โดยสิงห์กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เนอวานา 51% ส่วนผู้ถือหุ้นเดิมเนอวานาก็เข้ามาถือหุ้นสิงห์ 3.8%

จากนั้นในปี 2559 สิงห์ก็เข้าไปเทกโอเวอร์ บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ DAII …หวังให้เป็นหัวหอกในการบุกตลาดอสังหาฯ พักอาศัยที่ต่ำกว่าลักชัวรี่ โดยเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน DAII แต่ใช้วิธีนำหุ้นเนอวานาที่สิงห์ถืออยู่ทั้งหมด และที่ดิน 2 แปลง (ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง) ไปแลก ส่งผลให้สิงห์ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ DAII สัดส่วน 55.63% และมีกลุ่มสมวัฒนาร่วมถือหุ้น DAII ด้วย

จากนั้นก็มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD ในปัจจุบัน…

ที่ผ่านมาดูเหมือนทั้งสองกลุ่มก็ไปด้วยกันได้ดี…น่าแปลก อยู่ ๆ สิงห์กับกลุ่มสมวัฒนาก็มาตัดสัมพันธ์กันซะงั้น…มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…

เป็นเรื่องที่หลายคน (สายเผือก) อยากรู้…แต่สิงห์คงไม่อยากตอบ…

ใช่ปะคะ “เฮียนริศ เชยกลิ่น” ขาาา…

…อิ อิ อิ…