*หากพูดถึงหุ้นที่อยู่ในกระแสความสนใจของนักลงทุนมากสุดในห้วงเวลานี้ ทุกคนคงลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า OR เป็นหุ้นที่ทุกคนอยากรู้ความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลมาจากรูปแบบการจัดสรรหุ้นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และยังให้สิทธิจองซื้อหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปอย่างทั่วถึง (ขาใหญ่ไม่มีสิทธิพิเศษ) ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในช่วง 1-2 วันแรกที่เข้าซื้อขาย ตลบอบอวลไปด้วยความชื่นมื่นไงหล่ะค่ะ

*ท่ามกลางความปลื้มปริ่มที่มีต่อหุ้นน้องใหม่ไซส์เบิ้มไม่ทันจะจางหาย ก็เกิดปรากฏหุ้นน้องใหม่ไซส์จิ๋วทำสังคมแมงเม่าฮือฮากันขนาดใหญ่ เพราะน้องเล็กอย่าง TQR ดันระเบิดฟอร์มขั้นเทพด้วยการทะยานขึ้น 200% ตั้งแต่ในช่วง pre open ของการเข้าเทรดวันแรก ด้วยการขึ้นไปยืนค้างที่ระดับ 15.30 บาทตั้งแต่วินาทีแรก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาพประวัติศาสตร์ที่ควรจัดเก็บไว้ในสารบบตลาดหุ้นพะยะค่ะ

*คำถามต่อมาคือ การพุ่งพรวดพราดจากราคาขาย IPO ที่ระดับ 5.10 บาทจนมาชนซิลลิ่งและค้างแบบนั้นตลอดทั้งวัน กลายเป็นภาพที่ทำให้เชื่อว่า วันนี้หุ้นจะชนซิลลิ่งอีกหรือเปล่า? เพราะดูจากแรงซื้อที่ยังรออยู่เป็นจำนวนมาก มันทำให้เชื่อเช่นนั้นจริง ๆ ผนวกกับไตรมาส 3 ปี 63 ก็มีหุ้นที่ชื่อว่า SICT เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำ 3 ซิลลิ่งให้เห็นมาแล้ว จึงน่าจะเป็นการตอบคำถามที่ดีสำหรับเคสนี้นะจ๊ะ

*เรื่องดังกล่าวยังไม่จบเพียงเท่านั้น! เพราะการมาของน้องเล็ก ยังทำให้หุ้นใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์อันดีระหว่างกันอย่าง TQM ได้รับอานิสงส์ไปด้วยเต็ม ๆ วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 136 บาท บวกไป 13.50 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.52 พันล้านบาท กลายเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นที่ทำให้ทุกคนต้องหันมามองแบบนี้ เดี๊ยนคงบอกได้แค่ว่า ดูกันยาวๆ ไปเลยเจ้าค่ะ

*ในเมื่อกระแสหุ้นเล็กมาแบบจัดเต็ม ไล่ราคากันอย่างเมามัน “โมนิก้า” จึงต้องกระโดดเข้าไปร่วมวงกับเขาด้วยคน เพราะการกระชากขึ้นรอบใหม่ของหุ้น TACC จนขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.35 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 271 ล้านบาท ถือเป็นช็อตที่กระตุ้นให้ขาลุยเดินหน้าใส่ไม่ยั้ง เพราะคาดหวังกันว่า งบปี 63 จะออกมาเลิศสะแมนแตน ราคาหุ้นก็ควรไปต่อชิลๆ นะนายจ๋า..

*เหมือนกับในราย ZIGA กระชากขึ้นเกินเป้าที่กูรูหลายสำนักให้ไว้ ย่อมเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกไม่สบายใจอย่างแรง เพราะวันนี้เล่นบนความคาดหวังมากเกินไปหน่อย แต่ถ้ามองบนสมมุติฐานกำไรต่อหุ้นปี 63 ขั้นต่ำอยู่แถว 0.30 บาท จากนั้นนำมาเทียบค่าพีอี 30 เท่า (เท่ากับพีอีตลาด) ราคาหุ้นก็มีสิทธิ์ไปถึง 9 บาท (คิดแบบโอเว่อร์สุด ๆ) เดี๊ยนถึงมองการปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 9.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 230 ล้านบาท ใช่จุดเล่นจริงป่าว!

*เช่นเดียวกับหุ้นขายอุปกรณ์การเกษตรอย่าง KWM กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.34 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 14.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 190 ล้านบาท ก็มาแบบเดียวกันกับรายข้างต้น “โมนิก้า” ถึงไม่ต้องสาธยายอะไรให้ฟังเยอะแยะ เนื่องจาก “วิธีคิด วิธีเล่น” ถอดแบบกันมา รวมทั้งประเด็น “งบสวย พีอีต่ำ” ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เสือปืนไวใส่กันอุตลุดไงหล่ะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่แปลกใจที่เห็นแมงเม่าไล่ราคา SPVI แบบสุดติ่งกระดิ่งแมว เพราะในช่วงที่โควิดระบาดหนัก ๆ ยังทำกำไรได้ใกล้เคียงกับปีก่อน จึงเชื่อกันว่า ปีนี้จะทำผลงานดีกว่าปีที่ผ่านมา หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 3.50 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145 ล้านบาทแบบสบาย ๆ และมีลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4 บาทอีกคำรบอีกด้วยแบบนี้..บอกได้คำเดียวว่า มันพะยะค่ะ

*อีกรายที่มีแววเคาะอุตลุด “โมนิก้า” ขอมองที่หุ้น KUMWEL เป็นรายต่อไป เพราะผลงานในปี 63 ถือว่า สุดยอดจริง! แถมเมื่อคิดจากสมการหุ้นที่มี growth แบบที่สังคมรับได้ บรรดาแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า 2 บาทคงไม่เหนือบ่ากว่าแรง เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับวิเคราะห์การขึ้นมายืนปิดที่ 1.58 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 11.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88 ล้านบาท ยังเป็นจุดที่เล่นต่อหรือเปล่า?..คุณเท่านั้นที่รู้..อิอิอิ