thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 09/06/2021 @ 09:25:27 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต เห็นได้ชัดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กำลังไดเวอร์ซิฟายธุรกิจ พยายามแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ แต่ก็ยังอยู่ในขอบของพลังงาน
โดยช่วงที่ผ่านมา จะเห็นการขยับไปสู่ธุรกิจพลังงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตั้งบริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด (BPIN) ขึ้นมา เพื่อรุกสู่ปลายน้ำอย่างธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนต้นน้ำก็เป็นธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งดำเนินการผ่านบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP และบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด
ไม่เพียงเท่านี้ BANPU ยังเข้าสู่ธุรกิจแหล่งก๊าซธรรมชาติ โดยไปลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ณ บริเวณฟอร์ต เวิร์ธ เบซิน มลรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ซึ่งน่าจะเป็นสารตั้งต้น นำไปสู่โรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในอนาคต
ก็เห็นถึงความเพียรพยายามของ BANPU ในการปลดแอกจากถ่านหิน ซึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นพลังงานสกปรก ทำลายสิ่งแวดล้อม
ทำให้จากเดิมธุรกิจถ่านหินซึ่งเป็นคอร์บิสซิเนส เริ่มสั่นคลอน ค่อย ๆ เจือจางไป
ขณะที่การลงทุนของ BPP และบ้านปู เน็กซ์ เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจไฟฟ้า
ซึ่งล่าสุดก็ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่ง ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เบอริล (Beryl หรือ BSF) กำลังการผลิต 110.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มานิลดรา (Manildra หรือ MSF) กำลังการผลิต 55.9 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่าการลงทุน 97.5 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือเทียบเท่า 2,332 ล้านบาท
โอเค
การจะขยับในประเทศคงยาก เนื่องจาก PDP มีข้อจำกัด ก็คงไม่เห็น BANPU รุกในประเทศแล้ว แต่จะเน้นไปโตในต่างประเทศแทน ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น เวียดนาม หรือออสเตรเลีย ผ่านการทำดีล M&A..!!
ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ไม่ต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที (แต่ต้องแลกกับเงินลงทุนก้อนโต) อย่างกรณีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่ง ที่ออสเตรเลีย ก็รับรู้ได้เลย เพราะเป็นโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว ส่วน IRR จะเท่าไหร่ ก็ว่ากันไป
จึงน่าจับตา การ หนีถ่าน (หิน) ไปพึ่งไฟ (ฟ้า) ของ BANPU
จะซัคเซสแค่ไหน..?
จะทำให้ BANPU เทิร์นอะราวด์ได้หรือไม่..? หลังจากพลาดท่าขาดทุน 2 ปีซ้อน โดยปี 2562 ขาดทุน 552 ล้านบาท จากรายได้รวม 90,048 ล้านบาท และปี 2563 ขาดทุนเพิ่มเป็น 1,786 ล้านบาท จากรายได้รวม 72,929 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้ ตุนกำไรไว้แล้ว 1,535 ล้านบาท จากรายได้รวม 22,591 ล้านบาท
แต่จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ BANPU ตอนนี้ ก็เป็นไปได้ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถ่านหินอาจไม่ใช่คอร์บิสซิเนสอีกแล้ว อาจมีธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น
ทำให้จากเดิมภาพจำของ BANPU คือถ่านหิน ก็จะไม่ใช่อีกต่อไป
นั่นเท่ากับว่า BANPU กำลังเปลี๊ยนไป๋น่ะสิ..!!
หันไปดูราคาหุ้นช่วงนี้ ก็ดูร้อนแรงเป็นพิเศษ โดยวานนี้ราคาปรับขึ้นไป 4.29% ส่วนรอบ 1 สัปดาห์ปรับขึ้นไปแล้ว 11.45% รอบ 1 เดือน ปรับขึ้น 15.87% และรอบ 3 เดือนปรับขึ้น 28.07%
ก็หวังว่าจะแรงต่อเนื่อง
ไม่ดีแตกเสียก่อนนะเจ้าคะ
อิ อิ อิ
|