ตกอกตกใจกันยกใหญ่ อยู่ ๆ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ก็ประกาศเพิ่มทุนจำนวน 769 ล้านหุ้น ขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม หวังระดมทุน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อไปซื้อโรงไฟฟ้าถ่านหิน “Paiton” ขนาดกำลังผลิต 2,045 เมกะวัตต์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย…

โอเค…ระยะสั้นจะเกิดไดลูชั่นเอฟเฟกต์ราว 35% จากมูลค่าระดมทุน เมื่อเทียบกับราคาหุ้นเพิ่มทุนที่คาดว่าอยู่ที่ 39 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคากระดาน และจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ EPS ลดลง…

จึงไม่น่าแปลกใจที่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อนเห็นราคา RATCH รูดหนัก เนื่องจากนักลงทุนพร้อมใจกันเทขาย เพื่อลดความเสี่ยง

แต่จุดที่น่าสนใจ…การเพิ่มทุนของ RATCH ครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหาชีวิต หรือหนีตาย เหมือนหลายบริษัทที่เพิ่มทุนก่อนหน้านี้ แต่เป็นการเพิ่มทุนเพื่อโอกาสการลงทุน ด้วยการไปซื้อหุ้น 45.51% ในโรงไฟฟ้าถ่านหิน Paiton ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เปิด COD มาแล้ว มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย หรือ PT Perusahaan Negara (PLN) เหลืออีก 21 ปี ก็เป็นการสร้างพอร์ตของ RATCH ให้ใหญ่ขึ้น

นั่นเท่ากับว่า พอร์ตเดิมของ RATCH ที่มีกำลังการผลิต 8,174 เมกะวัตต์ ก็จะมีมาเติมอีกราว 930.8 เมกะวัตต์ (คิดตามสัดส่วนการถือหุ้น 45.51%) รวมเป็น 9,104.8 เมกะวัตต์

ขณะที่ในแง่รายได้จะบันทึกเข้ามาทันที…โดยคาดจะรับรู้กำไรได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป ประเมินเบื้องต้นโรงไฟฟ้า Paiton จะสร้างกำไรปีละประมาณ 3,723 ล้านบาท

อีกประเด็นที่น่าสนใจของการเพิ่มทุนครั้งนี้ RATCH แทบไม่มีต้นทุนเลย อาจมีค่าบริหารจัดการบ้าง แต่ไม่ต้องเจอภาระผูกพันของดอกเบี้ย (ไม่ได้ไปกู้แบงก์หรือออกหุ้นกู้) เท่ากับว่า RATCH ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยน่ะสิ…

เคสนี้จึงเป็นการเพิ่มทุน…เพิ่มมูลค่า มากกว่าการหนีตาย..!?

จะว่าไปก็คล้ายกับกรณี บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ที่เพิ่มทุนสูงถึง 7.4 หมื่นล้านบาท เพื่อไปซื้อบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ก็เป็นการเพิ่มทุนที่ได้กำลังผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ต่างจากปลาเล็กกินรวบปลาใหญ่…เนื่องจากทำให้พอร์ตไฟฟ้าของ GPSC ใหญ่ขึ้นทันตา มีรายได้และกำไรโตก้าวกระโดดทันที..!!

กลับมาที่ RATCH สุดท้ายขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นว่าจะไฟเขียวหรือไฟแดงกับการเพิ่มทุนครั้งนี้..?

แต่ล่าสุดผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง อย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ส่งสัญญาณพร้อมใส่เงินเข้ามาราว 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท (คิดตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 45%) อย่างน้อยก็ได้แล้วเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าการเพิ่มทุนที่ 3 หมื่นล้านบาท

ก็น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นรายอื่นได้ไม่มากก็น้อย…

แหม๊… RATCH ในยุค “เฮียกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ” นี่มีสีสันฉูดฉาดไม่เบานะเนี่ย…

ส่วนประเด็นช่วงระหว่างนี้ราคาหุ้นในกระดานจะวิ่งมาหาราคาเพิ่มทุนนั้น…อันนั้นคงต้องทำใจ

คิดเสียว่าเป็นจังหวะเก็บของดีราคาถูก ก็พอกล้อมแกล้มอยู่นะ…อย่าลืม RATCH มีดีตรงที่เป็นหุ้นปันผลงาม ยีลด์ตั้ง 5% เชียวนะ

…อิ อิ อิ…

Cr.https://www.kaohoon.com/column/456944