November 1, 2024   7:32:01 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องนั่งเล่น > เหตุผลทีคนซื้อทองคำ
 

Popcorn
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,443
วันที่: 25/01/2012 @ 08:52:24
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ช่วงนี้ใครๆ ก็ซื้อทองคำกัน แต่ด้วยคำอธิบายที่แตกต่างกันออกไป


บางคนบอกว่า ทองคำน่าซื้อเพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยปกป้องเราจากเงินเฟ้อได้ อันนี้ว่ากันตามตำรา



แต่ถ้าลองใช้เหตุผลนี้อธิบายสถานการณ์ปัจจุบันก็ดูไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไร เพราะเวลานี้เงินเฟ้อทั่วโลกไม่ใช่เรื่องที่ตลาดกังวลเท่าไรนัก ตรงกันข้าม เศรษฐกิจโลกที่ดูอ่อนแอ เพราะปัญหาการว่างงานในสหรัฐ และปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรป ทำให้ราคาสินค้า ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนัก เงินเฟ้อของประเทศพัฒนาแล้ว น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เงินเฟ้อจึงไม่น่าเป็นเหตุผลที่ใช้อธิบายการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในเวลานี้ได้



ยิ่งถ้าดูอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวในสหรัฐ ในเวลานี้ประกอบก็ยิ่งตอกย้ำว่า ตลาดไม่ได้กังวลเรื่องเงินเฟ้อ เพราะพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปีให้ผลตอบแทนราว 2% เท่านั้น ปกติแล้วตัวเลขนี้ย่อมสะท้อนเงินเฟ้อในอนาคตที่ตลาดคาดการณ์ เพราะเจ้าหนี้ย่อมต้องการดอกเบี้ยอย่างน้อยเท่ากับเงินเฟ้อ เพื่อไม่ให้ปล่อยกู้ไปแล้วขาดทุน การที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวต่ำมากขนาดนี้ จึงแสดงว่าตลาดไม่เชื่อว่าเงินเฟ้อจะเป็นเรื่องน่ากังวลไปอีกนาน




เหตุผลอย่างอื่นที่ได้ยินบ่อยรองลงมา คือ ทองคำแพงเนื่องจากคนจีนและอินเดียรวยขึ้น เพราะเศรษฐกิจเขาโตไว ความต้องการซื้อทองคำมาเป็นเครื่องประดับของสองประเทศนี้จึงสูงขึ้นทุกปีตามระดับรายได้ ส่งผลให้ความต้องการทองคำทั่วโลกสูงขึ้น



คำอธิบายนี้อาจมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ถ้าดูจากตัวเลขอุปสงค์อุปทานของทองคำโลกในเวลานี้แล้ว ไม่น่าจะมีผลมากนัก เพราะ ที่จริงแล้ว การซื้อทองคำเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับทั่วโลกกลับกำลังอยู่ในช่วงขาลงตั้งแต่ปี 2007 ที่ 2,405 ตัน ลงมาเหลือแค่ 2,060 ตันในปี 2010 เท่านั้น ในขณะที่อุปทานของทองคำทั่วโลกกลับอยู่ในช่วงขาขึ้นจาก 3,471 ตันในปี 2,007 กลายเป็น 4,108 ตันในปี 2010 อีกต่างหาก ทำให้ในปี 2010 อุปทานของทองคำมีมากกว่าอุปสงค์ที่ 3,812 ตันเสียอีก (ข้อมูลจาก goldratefortoday.org)



แปลว่า โลกของเรากำลังผลิตทองคำได้เกินความต้องการซื้อเสียด้วยซ้ำ



ที่ความต้องการซื้อทองคำเพื่อเป็นเครื่องประดับไม่ได้เพิ่มขึ้นในเวลานี้น่าจะเป็นเพราะราคาที่สูงขึ้นอย่างมากของมันทำให้คนซื้อทองคำใส่น้อยลง (ทั้งที่อยากได้มากขึ้น) เพราะว่ามันแพง ในเวลาเดียวกัน ราคาที่แพงขึ้นก็จูงใจให้มีคนนำทองคำเก่ามารีไซเคิล เพื่อขายในตลาดกันมากขึ้นด้วย สรุปแล้ว การอ้างว่าทองคำแพงขึ้นความต้องการซื้อทองเป็นเครื่องประดับสูงขึ้นนั้น ก็ยังเป็นคำตอบที่ยิงไม่โดนอีกเหมือนกัน



คำอธิบายที่ฟังแล้วเข้าท่ามากที่สุดเท่าที่ได้ยินมา น่าจะเป็นแนวคิดที่บอกว่า ทองคำมีราคาสูงเพราะปัญหาวิกฤติเงินกระดาษเป็นหลัก




แนวคิดนี้บอกว่า ความน่าเชื่อถือที่ลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และยูโร เนื่องมาจากการก่อหนี้ที่สูงมากของทั้งสองภูมิภาค ทำให้ผู้คนมั่นใจในเงินสองสกุลนี้ลดลง ทำให้บรรดาเศรษฐีทั้งหลาย สถาบันการเงิน กองทุน หรือประเทศอาหรับที่ค้าน้ำมัน รวมไปถึงธนาคารกลางของประเทศทั้งหลาย ต้องมองหาที่เก็บเงินใหม่ ซึ่งทองคำก็เป็นหนึ่งในทางเลือกนั้น ทองคำจึงต้องมีราคาสูงขึ้น เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และยูโร



เหตุผลนี้ฟังดูเข้าท่าที่สุด เพราะหลายปีที่ผ่านมา เมื่อสหรัฐเริ่มมีปัญหาขาดดุลการค้าในระดับที่รุนแรงมากขึ้น สินทรัพย์อื่นทุกชนิดที่ใช้เก็บความมั่งคั่งได้ต่างก็มีราคาสูงขึ้นกันทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลอื่นๆ ไม่ใช่เฉพาะทองคำอย่างเดียวเท่านั้น




ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือว่า เมื่อคนจำนวนมากต้องการออกจากเงินสกุลใหญ่ๆ อย่างดอลลาร์ และยูโร แต่สินทรัพย์ทางเลือกอย่างอื่นไม่ดีมีปริมาณมากพอที่จะรองรับความต้องการนี้ได้ทั้งหมด โอกาสที่ราคาสินทรัพย์เหล่านี้จะพุ่งขึ้นมากเกินไป เพราะความขาดแคลนนั้น ย่อมเป็นไปได้มาก ดังนั้น หากเหตุผลหลักที่ทำให้ทองคำแพงมาจากวิกฤติเงินกระดาษ แทนที่จะมาจากเหตุผลในตัวของทองคำเองที่มีค่ามากขึ้น สักวันหนึ่งราคาทองคำก็อาจกลับสู่ระดับปกติที่เป็นพื้นฐานของตัวมันเองจริงๆ เมื่อปัญหาวิกฤติเงินกระดาษคลี่คลายลง



คำพูดหนึ่งที่ผมได้ยินบ่อยสำหรับคนที่ชอบซื้อทองคำ คือ ทองคำน่าซื้อ เพราะซื้อแล้วไม่ขาดทุน เพราะราคามีแต่ขึ้น ถ้าซื้อแล้วตกลงมาก็ให้ทนถือไว้ สุดท้ายแล้วก็จะกลับมาแพงขึ้นได้อีก ผมว่าแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่อันตราย เพราะในยุคหนึ่งทองคำก็เคยแพงขึ้นจากร้อยกว่าดอลลาร์ไปเป็นหกร้อยกว่าดอลลาร์ในเวลาแค่ปีเดียว ด้วยเหตุผลเรื่องวิกฤติสงครามอิรัก-อิหร่าน แต่พอวิกฤตการณ์คลี่คลาย ราคาทองคำก็ร่วงกลับลงไปเหลือแค่สองร้อยกว่าดอลลาร์อย่างรวดเร็ว ถ้าใครซื้อไว้ที่หกร้อยกว่าดอลลาร์ในตอนนั้น แล้วคิดว่าถือไว้เรื่อยๆ ก็จะกลับขึ้นไปใหม่ได้เอง เขาเหล่านั้นต้องรอคอยนานถึง 25 ปีเลยทีเดียว กว่าทองคำจะกลับมาที่หกร้อยกว่าดอลลาร์ได้อีกครั้ง (ปี 1974-2004)



ที่จริงการคิดว่าราคาทองคำในเวลานี้จะเพิ่มขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆ นั้น เป็นความคิดที่สมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อย เพราะปัญหาหนี้ในประเทศที่พัฒนาแล้วในเวลานี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลงได้อย่างไร แต่ก็อย่าถึงขั้นปักใจเชื่อเลยครับว่า ทองคำซื้อแล้วไม่มีทางขาดทุน วันหนึ่งหากเกิดเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายทำให้วิกฤติเงินกระดาษคลี่คลายลงได้ ราคาทองคำก็สามารถกลับสู่ระดับที่เป็นพื้นฐานที่แท้จริงของตัวมันเองได้แบบค้านสายตากรรมการ



Tags : นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ "มนุษย์เศรษฐกิจ 2.0"

 กลับขึ้นบน
bma2552
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 2
#1 วันที่: 23/04/2012 @ 11:23:16 :
ช่วงนี้คนรอบๆข้างหันมาเล่นทองกันเยอะเหมือนกันค่ะ ทำให้มีหลากหลายกิจกรรมทางธุรกกิจดี
 กลับขึ้นบน
mildkoid
สมาชิก

จังหวัด: ตาก
โพสต์: 16
#2 วันที่: 12/10/2012 @ 11:35:26 :
ประวัติบาคาร่าในฝรั่งเศส

แม้ว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของบาคาร่าจะยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่แต่เป็นที่ แน่ชัดแล้วว่ารูปแบบและลักษณะของเกมบาคาร่าที่ใช้เล่นในปัจจุบันมีต้นกำเนิด มาจากประเทศฝรั่งเศส บาคาร่านั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชนชั้นสูงของฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 16 – 17 จากนั้นก็เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมีการเล่น บาคาร่าทั้งในบ้านและราชวัง ในช่วงการปกครองของพระเจ้านโปเลียน (Napoleon) มีการเล่นบาคาร่าในคลับการพนันนอกกฎหมายหลายแห่ง แต่ในปัจจุบันการเล่นบาคาร่าในบ่อน คาสิโนกลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายไปแล้วที่ประเทศกัมพูชา มีเกมต่างๆที่ได้รับความนิยมแนะนำให้ผู้เล่นได้เลือกเล่นมากมายและด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยผู้เล่นสามารถเล่นผ่านออนไลน์หรือผ่านทาง GclubIphoneได้ที่ Gclubiphoneมีเกม คาสิโนออนไลน์ที่พร้อมให้เล่นได้ตลอด 24 ชม. มีทั้งเกม บาคาร่าออนไลน์แบ่งเป็น Baccaratและ Baccarat Onlineที่มีกติกาการเล่นคล้ายกับเกม ป๊อกเด้งออนไลน์เกม Gclub Onlineแม้ว่าผู้เล่นจะพิมพ์คำว่า Gclub ,G club, Gclub Onlineก็สามารถเล่นGclubได้เพราะเป็นเกมเดียวกัน แต่อาจจะมีเป็นบางครั้งที่ เล่นสล็อตไม่ได้ผู้เล่นก็สามารถเปลี่ยนมาเล่น เกม คาสิโนออนไลน์แบบอื่นๆแทนได้ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 บาคาร่าเป็นเกม G clubที่ได้รับความนิยมสูงสุดในคาสิโนเมืองริเวียร่า (Riviera) ของฝรั่งเศส ในตอนนั้นมีเกมบาคาร่าด้วยกันสองรูปแบบ คือ เชอแมงเดอเฟร์ (ChemindeFer) และ บาคาร่าอันบาค (En-Banque) ข้อแตกต่างของบาคาร่าทั้งสองรูปแบบอยู่ที่ผู้แจกไพ่และจำนวนผู้เล่นในเกม ในบาคาร่าแบบ เชอแมงเดอเฟร์ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดจะเป็นผู้แจกไพ่และเป็นเจ้ามือ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดรองลงมาจะเป็นตัวแทนของผู้เล่นที่เหลือในการเล่น แข่งขันกับเจ้ามือ ส่วนในบาคาร่าอันบาค บ่อนจะเป็นเจ้ามือเองและมีดีลเลอร์ทำหน้าที่แจกไพ่ให้ผู้เล่น ลักษณะของโต๊ะเล่นบาคาร่าจะเป็นโต๊ะคู่ที่ออกแบบให้มีที่นั่งสำหรับผู้เล่น ด้านซ้ายและด้านขวาของเจ้ามือฝั่งละห้าคน ผู้เล่นหนึ่งคนจากฝั่งซ้ายและอีกหนึ่งคนจากฝั่งขวาจะเป็นตัวแทนผู้เล่นแต่ละ ฝั่งที่จะเล่นแข่งกับเจ้ามือ กฎการเรียกไพ่และการอยู่ แต้มทั้งฝ่ายเจ้ามือและผู้เล่นจะเหมือนกันในเกมบาคาร่าทั้งสองแบบ

ขอขอบคุณ http://www.thaihoon.com ที่ให้ความกรุณาในการเผยแพร่
 กลับขึ้นบน
mildkoid
สมาชิก

จังหวัด: ตาก
โพสต์: 16
#3 วันที่: 12/10/2012 @ 11:35:50 : เกร็ดความรู้
ประวัติบาคาร่าในฝรั่งเศส

แม้ว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของบาคาร่าจะยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่แต่เป็นที่ แน่ชัดแล้วว่ารูปแบบและลักษณะของเกมบาคาร่าที่ใช้เล่นในปัจจุบันมีต้นกำเนิด มาจากประเทศฝรั่งเศส บาคาร่านั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชนชั้นสูงของฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 16 – 17 จากนั้นก็เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมีการเล่น บาคาร่า ทั้งในบ้านและราชวัง ในช่วงการปกครองของพระเจ้านโปเลียน (Napoleon) มีการเล่นบาคาร่าในคลับการพนันนอกกฎหมายหลายแห่ง แต่ในปัจจุบันการเล่นบาคาร่าในบ่อน คาสิโน กลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายไปแล้วที่ประเทศกัมพูชา มีเกมต่างๆที่ได้รับความนิยมแนะนำให้ผู้เล่นได้เลือกเล่นมากมายและด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยผู้เล่นสามารถเล่นผ่านออนไลน์หรือผ่านทาง GclubIphone ได้ที่ Gclub iphone มีเกม คาสิโนออนไลน์ ที่พร้อมให้เล่นได้ตลอด 24 ชม. มีทั้งเกม บาคาร่าออนไลน์แบ่งเป็น Baccarat และ Baccarat Online ที่มีกติกาการเล่นคล้ายกับเกม ป๊อกเด้งออนไลน์ เกม Gclub Online แม้ว่าผู้เล่นจะพิมพ์คำว่า Gclub ,G club, G club Online ก็สามารถเล่นGclub ได้เพราะเป็นเกมเดียวกัน แต่อาจจะมีเป็นบางครั้งที่ เล่นสล็อตไม่ได้ผู้เล่นก็สามารถเปลี่ยนมาเล่น เกม คาสิโนออนไลน์ แบบอื่นๆแทนได้ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 บาคาร่าเป็นเกม G club ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในคาสิโนเมืองริเวียร่า (Riviera) ของฝรั่งเศส ในตอนนั้นมีเกมบาคาร่าด้วยกันสองรูปแบบ คือ เชอแมงเดอเฟร์ (ChemindeFer) และ บาคาร่าอันบาค (En-Banque) ข้อแตกต่างของบาคาร่าทั้งสองรูปแบบอยู่ที่ผู้แจกไพ่และจำนวนผู้เล่นในเกม ในบาคาร่าแบบ เชอแมงเดอเฟร์ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดจะเป็นผู้แจกไพ่และเป็นเจ้ามือ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดรองลงมาจะเป็นตัวแทนของผู้เล่นที่เหลือในการเล่น แข่งขันกับเจ้ามือ ส่วนในบาคาร่าอันบาค บ่อนจะเป็นเจ้ามือเองและมีดีลเลอร์ทำหน้าที่แจกไพ่ให้ผู้เล่น ลักษณะของโต๊ะเล่นบาคาร่าจะเป็นโต๊ะคู่ที่ออกแบบให้มีที่นั่งสำหรับผู้เล่น ด้านซ้ายและด้านขวาของเจ้ามือฝั่งละห้าคน ผู้เล่นหนึ่งคนจากฝั่งซ้ายและอีกหนึ่งคนจากฝั่งขวาจะเป็นตัวแทนผู้เล่นแต่ละ ฝั่งที่จะเล่นแข่งกับเจ้ามือ กฎการเรียกไพ่และการอยู่ แต้มทั้งฝ่ายเจ้ามือและผู้เล่นจะเหมือนกันในเกมบาคาร่าทั้งสองแบบ

ขอขอบคุณ http://www.thaihoon.com ที่ให้ความกรุณาในการเผยแพร่
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com