การลงทุนในงานศิลป์และภาพเขียน เป็นการลงทุนทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ที่มีฐานะ และผู้มีชื่อเสียง เนื่องจากงานศิลป์หรือภาพเขียนเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ประดับบารมีได้ อีกทั้งยังใช้ตกแต่งบ้าน ทำให้ดูเด่น สง่างามและมีสไตล์ นอกจากนั้นแล้ว ยังจัดเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีไม่แพ้การลงทุนอย่างอื่น แถมยังป้องกันจากค่าเงินเฟ้อได้อีกด้วยครับ
ด้วยเหตุที่งานศิลป์สามารถให้ผลตอบแทนสูงและเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดี ในหลายๆประเทศจึงมีการตั้งกองทุนเพื่อเข้าไปซื้องานศิลป์โดยเฉพาะเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะซื้อไปทั่วนะครับ เขาก็มีหลักเกณฑ์ที่จะซื้อภาพเขียนหรืองานศิลป์สักชิ้นเหมือนกัน โดยมีทั้งหมด 4 ข้อตามนี้ครับ
1. ต้องเป็นงานศิลป์ของทางยุโรปเท่านั้น
2. เป็นงานศิลป์ที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ
3. เป็นงานศิลป์ที่ถูกกล่าวอ้างในหนังสืออ้างอิงทางศิลปะ
4. ต้องมีการซื้อขายกันในตลาดงานศิลป์ระหว่างประเทศ
จุดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในงานศิลป์ที่สำคัญก็คือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ( High rate of return ) มูลค่าของภาพเขียนในตลาดระหว่างประเทศมีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ เพิ่มขึ้นกว่า 800 % ทีเดียว ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดหุ้นมาก อีกอย่างหนึ่ง งานศิลป์หรือภาพเขียนนับเป็นสินทรัพย์ที่ทำให้ผู้มีไว้เป็นเจ้าของดูดีดูมีรสนิยม สามารถนำมาตกแต่งบ้านเพื่อแสดงฐานะและรสนิยมได้ด้วย
แต่จุดอ่อนที่พึงระวังหากสนใจจะลงทุนในงานศิลป์ก็คือ ค่าใช้จ่ายในการถือครองที่ค่อนข้างสูงครับ โดยมีต้นทุนที่เกิดในขั้นตอนการซื้อเช่น ภาษีการขาย ค่าธรรมเนียมการประเมินต้นทุนค่าหีบห่อ ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมซื้อขาย นอกจากนี้ยังมีค่าประกัน ค่าซ่อมแซมและทำความสะอาด ค่าวิจัย ค่าจัดเก็บรักษาซึ่งถ้าเป็นการลงทุนในตราสารทางการเงินจะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เลยและจุดอ่อนอีกอย่างหนึ่งก็คือเป็นการลงทุนที่มีสภาพคล่องต่ำ ถ้าคิดจะแปรเป็นเงินสดทันทีทำได้ยาก ดังนั้นผู้ที่จะลงทุนในภาพเขียนหรืองานศิลป์นั้นจะต้องใช้เงินเย็นเท่านั้น