May 4, 2024   10:46:34 AM ICT
งานประจำ กับ เล่นหุ้น
เมื่อปีที่แล้ว 2546 ผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มากกว่า 100 % ในเวลาเพียงหนึ่งปี การลงทุนในตลาดหุ้น กลายเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ซื้อหุ้นวันนี้ พรุ่งนี้ก็ได้กำไรแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ทำเงินจากตลาดหุ้นได้เป็นจำนวนมาก และมีอยู่กลุ่มหนึ่ง คือ พนักงานเงินเดือนประจำ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทเอกชน พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ แม้แต่ข้าราชการ คนกลุ่มนี้ที่ เล่นหุ้น และทำการซื้อขายในตลาดหุ้นเมื่อปีที่แล้ว ต่างก็รู้สึกว่าตัวเองเป็น เซียนหุ้น? ขึ้นมาในทันทีทันใด

บางคนทำเงินจากตลาดหุ้นได้มากกว่าเงินเดือนที่ได้รับเสียอีก จนแทบอยากจะลาออกมา ?เล่นหุ้น? เป็นอาชีพหลักเลยทีเดียว บางคนทนไม่ไหวขอลาออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียวก็มี ในที่ทำงานทุกคนต่างก็พูดถึงแต่กำไรที่ได้จากตลาดหุ้น คนที่ไม่ได้เล่นหุ้นก็อยากจะเปิดพอร์ตซื้อขายหุ้นกับเขาบ้าง เพราะเห็นเพื่อนๆ ทำเงินจากตลาดหุ้นกันได้อย่างง่ายดาย

ถ้าสังเกตมักจะพบว่าตามออฟฟิศต่างๆ จะมีเซียนหุ้นเดินกันเต็มไปหมด

แต่ในปีนี้กลับกลายเป็นว่าตลาดหุ้นตกต่ำลง นักลงทุนต่างขาดทุนกันถ้วนหน้า ผลตอบแทนที่ได้จากตลาดหุ้นลดลงอย่างมาก ทำให้หลายคนที่ลาออกไปเล่นหุ้นต้องบ่นถึงงานประจำและเงินเดือนที่ได้รับอย่างเสียดาย อีกหลายคนที่เคยคิดอยากจะลาออกไปเล่นหุ้นเป็นอาชีพ ต้องเปลี่ยนใจกะทันหันและกลับมาก้มหน้าก้มตาทำงานของตนต่อไป คนที่เพิ่งเปิดพอร์ตและเข้าตลาดหุ้นโดยที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ ต้องประสบกับการขาดทุนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับตนเองมาก่อน

ปกติคนส่วนใหญ่จะเก็บเงินอยู่ในแบงก์ถึงแม้จะได้ดอกเบี้ยน้อยแต่เงินต้นก็ไม่เคยลดลง แต่เมื่อนำเงินเก็บมาซื้อหุ้นแล้วต้องประสบกับภาวะการขาดทุนเลยเสียใจรวมทั้งตกใจ บางคนขอเลิกเล่นหุ้นไปตลอดชีวิตก็มี ซึ่งไม่น่าแปลกเพราะแม้แต่เซียนหุ้นนักลงทุนมืออาชีพตัวจริงยังบอกว่า ปีนี้หุ้นเล่นยากต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวและความเก๋าจึงจะเอาตัวรอดได้

ดังนั้น มือใหม่หัดขับในตลาดหุ้นทั้งหลายจึงถูกภาวะหมีตลาดหุ้นตะปบขาดทุนกันถ้วนหน้า

ในปีนี้จะพบว่า การพูดถึงเรื่องหุ้นตามสำนักงานต่างๆ ลดน้อยลงไปเป็นอันมาก โดยเฉพาะเมื่อตลาดหุ้นตกต่ำและผันผวนอย่างรุนแรง เซียนหุ้นตามออฟฟิศต่างหลบหน้าและไม่อยากพูดถึงเรื่องหุ้นอีก เพราะกำไรที่ได้รับมาเมื่อปีที่แล้ว ต้องคืนกลับไปให้ตลาดหุ้นแทบทั้งหมด บางคนต้องควักทุนแถมไปให้ตลาดหุ้นอีกด้วย

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอีกหลายคนยังคงเดินหน้าทำงานประจำไปด้วยและเล่นหุ้นไปด้วย

พนักงานที่ทำงานประจำและเล่นหุ้นไปด้วยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงานสักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นเปิดทำการ ยิ่งถ้ามีกลยุทธ์การลงทุนเป็นแบบเก็งกำไรระยะสั้น จำเป็นต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอย่างใกล้ชิด ถ้าลงทุนผิดจังหวะแม้เพียงเล็กน้อยกำไรที่ได้มาก็จะกลับกลายเป็นขาดทุนได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องติดตามหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอทีวีอย่างไม่ให้คลาดสายตา รวมทั้งต้องติดต่อกับโบรกเกอร์อยู่บ่อยๆ ทำให้เวลาที่จะให้ความสำคัญกับงานประจำที่ทำอยู่ลดลง ผลงานที่ได้จึงแย่ลง

ขณะเดียวกันการทำงานประจำไปด้วยและเก็งกำไรไปด้วยก็อาจจะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนไม่ดีนัก เพราะห่วงหน้าพะวงหลัง ติดตามสถานการณ์ได้ไม่ทันท่วงที ทำให้จังหวะการซื้อขายไม่ได้อย่างที่ตนเองต้องการ เรียกว่า เสียหายทั้งขึ้นทั้งล่อง งานที่ทำก็ทำได้ไม่ดี ผลตอบแทนของพอร์ตก็แย่ จะลาออกไปเล่นหุ้นอย่างเดียวก็เสียดายเงินเดือนที่ได้รับ จะเลิกเล่นหุ้นก็ทำใจไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าการเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรทำให้ท่านต้องวิตกกังวลในเวลาทำงานหรือทำให้มีเวลาให้กับงานประจำไม่เต็มที่ การเปลี่ยนความคิดในการลงทุนโดยหันมาใช้หลักการลงทุนแบบ Value Investing จะช่วยให้ท่านพบกับทางออกของปัญหานี้ได้ พนักงานกินเงินเดือนประจำก็สามารถทำงานไปด้วยและเล่นหุ้นไปด้วยได้ โดยไม่เสียงานด้วยการเปลี่ยนทัศนคติจากความคิดที่จะ เล่นหุ้น? มาเป็น การลงทุนหุ้น? แทน

มีเหตุผลอยู่ 2-3 ข้อที่สามารถทำให้ท่านแบ่งเวลาให้กับการทำงานและการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

หนึ่ง ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ การเก็งกำไรระยะสั้นจะต้องติดตามหุ้นอย่างใกล้ชิด เพราะสิ่งสำคัญในการลงทุนคือการขึ้นลงของ ราคาหุ้น? ทำให้นักเก็งกำไรต้องสนใจในราคาหุ้นของบริษัทที่ตนซื้อขายแทบจะตลอดเวลา บางคนจำเป็นจะต้องนั่งเฝ้าหน้าจอมอนิเตอร์ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันพนักงานออฟฟิศทุกคนมักจะมีคอมพิวเตอร์เป็นของตนเอง จึงสามารถดูราคาหุ้นได้จากอินเทอร์เน็ตบนโต๊ะทำงานเลยทีเดียว ทำให้ต้องจดจ่อกับราคาหุ้นมากกว่างานที่ทำในเวลาทำงาน

แต่ในขณะเดียวกัน การลงทุนแบบ Value Investing จะให้ความสำคัญกับ?ปัจจัยพื้นฐาน? ของบริษัทที่ลงทุนมากกว่าราคาหุ้น รวมทั้งพื้นฐานของบริษัทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเหมือนราคาหุ้น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะติดตามราคาอย่างใกล้ชิดเท่ากับการเก็งกำไร ลดเวลาการเฝ้าหน้าจอเพื่อดูราคาหุ้นไปได้มากทีเดียว

สอง ไม่ต้องซื้อขายบ่อย การเก็งกำไรต้องทำการซื้อขายหุ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องมีการเทรดหุ้นบ่อยๆ เพราะต้องเข้าออกเร็ว ถ้าชักช้ากำไรที่ได้มาอาจจะกลายเป็นขาดทุน ทำให้ต้องสนใจกับการสั่งซื้อขายหุ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลง เกิดอาการตกใจต้องรีบขายหุ้นด่วน

ถ้าเป็นในสำนักงานอาจจะใช้การเทรดหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือไม่ก็ต้องโทรศัพท์สั่งซื้อขายกับมาร์เก็ตติ้งอยู่เสมอ ทำให้ไม่มีสมาธิในงานที่ทำ เลยเป็นเหตุให้ทำงานประจำได้ไม่ดี นอกเหนือจากนั้น อาจจะถูกเจ้านายในที่ทำงานเพ่งเล็งเอาได้

สำหรับการลงทุนแบบ Value Investing นั้นจะมีระยะเวลาในการถือครองหุ้นนานขึ้น แล้วแต่ระยะเวลาการลงทุนของแต่ละคน รวมทั้งไม่มีความจำเป็นต้องเทรดหุ้นบ่อยๆ เพราะพื้นฐานหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงทุกวัน ทำให้มีเวลาให้ความสำคัญกับงานประจำมากยิ่งขึ้น

ข้อสุดท้าย ไม่ต้องวิตกกังวล ถ้าท่านเก็งกำไรระยะสั้น เมื่อหุ้นราคาตกหรือตลาดกำลังปรับตัวลดลง แต่ท่านไม่สามารถส่งซื้อขายได้ เพราะอาจจะเข้าประชุมอยู่ หรือกำลังติตด่อกับลูกค้า ทำให้ท่านต้องวิตกกังวลกับการลงทุนของท่านเพราะท่านจำเป็นต้องรีบขายหุ้นโดยด่วน ไม่เช่นนั้นจะขาดทุน แต่ก็่ไม่สามารถทำได้ทันท่วงทีเพราะกำลังมีธุระติดพัน

สำหรับการลงทุนแบบ Value Investing แล้วในกรณีเช่นที่กล่าวมาแล้วนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะราคาหุ้นระยะสั้นไม่ได้มีผลทำให้ต้องตัดสินใจขายหุ้นออกไปอย่างรวดเร็ว หรือในทางกลับกัน การที่หุ้นมีราคาลดลงอาจจะเป็นโอกาสดีที่จะได้ซื้อหุ้นพื้นฐานดีในราคาที่ถูกลงก็เป็นไปได้ ดังนั้นนักลงทุนจึงไม่มีความวิตกกังวลกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าใดนัก ทำให้การทำงานประจำมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำงานประจำไปด้วยและลงทุนหุ้นแบบ Value Investing ในเวลาเดียวกัน นอกเหนือจากเงินเดือนประจำที่ได้รับแล้ว ยังสามารถได้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ว่าจะเป็นเงินปันผล หรือเงินกำไรจากส่วนต่างราคาโดยที่ไม่ได้ทำให้งานที่ทำอยู่เกิดผลเสียหายแต่อย่างใด นอกเหนือจากนั้นการลงทุนเพื่อมุ่งหวังผลในระยะยาวแทนที่จะเก็งกำไรระยะสั้น จะช่วยให้ท่านพบกับอิสรภาพทางการเงินได้โดยมีความสมดุลทั้งหน้าที่การงานและการลงทุนเพื่ออนาคต

สิ่งที่ท่านจะต้องทำก็เพียงแต่เปลี่ยนทัศนคติในการลงทุน และศึกษาทำความเข้าใจในการลงทุนแบบเน้นคุณค่าให้ถ่องแท้เท่านั้นเอง

ที่มา บทความของ คุณวิบูลย์ พึงประเสริฐ bangkokbizweek.com

เข้าชม: 3,696

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com