May 4, 2024   12:21:06 AM ICT
Enterprise Value

ความใฝ่ฝันของผู้ลงทุนร้อยทั้งร้อย คือ สามารถเลือกลงทุนหุ้นได้ถูกตัว กล่าวคือ เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีและราคา ไม่แพง Fun Fund สัปดาห์นี้จึงขอเสนอวิธีการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินอีกรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถนำไปใช้ในการคัดเลือกหุ้น แทนวิธีการพิจารณาราคาหุ้น วิธีที่ว่า ได้แก่ การคำนวณมูลค่ารวมของทั้งบริษัทตามราคาตลาด (Enterprise value: EV)

มูลค่ารวมของทั้งบริษัทตามราคาตลาด หรือ Enterprise value: EV เป็นการพิจารณามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ทั้งในส่วนของทุนและหนี้สิน ณ ช่วงเวลานั้นๆ โดยมูลค่าดังกล่าวสามารถคำนวณได้จาก ผลรวมของมูลค่าทุนตามราคาตลาด (Market capitalization) กับมูลค่าของหนี้สินรวม หักออกด้วยเงินสดและตราสารทัดเทียม เงินสด ดังนั้น จะสังเกตได้ว่า การนำ EV มาพิจารณา จึงเป็นการเพิ่มมิติทางด้านโครงสร้างทางการเงินของ บริษัท (Capital Structure) ในการวิเคราะห์อัตราส่วนราคา (Price Multiples)

สำหรับวิธีการวิเคราะห์นั้น จะนำ EV ไปเปรียบเทียบกับยอดขาย (Sales) หรือ รายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ และค่าเสื่อมราคา (Earning before interest, tax, depreciation, and amortization: EBITDA) ของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ สัดส่วนมูลค่ารวมของทั้งบริษัทตามราคาตลาดต่อรายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ และค่าเสื่อมราคา หรือที่เรียกว่า EV/EBITDA เป็นเครื่องมือที่ยอดรับกันอย่างแพร่หลาย โดยมีตรรกคล้ายคลึงกับ อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E ratio)

กล่าวคือ เป็นการเปรียบเทียบมูลค่าของบริษัทต่อความสามารถในการทำกำไร อย่างไรก็ดี อัตราส่วนดังกล่าวมีข้อได้เปรียบการวิเคราะห์ P/E ratio ตรงที่ EV/EBITDA มีการพิจารณาโครงสร้างทางการเงินของบริษัท นอกจากนี้เรายังสามารถนำ EV/EBITDA มาใช้ในการเปรียบเทียบหุ้นที่อยู่คนละประเทศได้ เนื่องจาก EV/EBITDA ได้ตัดตัวแปรทางด้านภาษีออกไปซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศ

ที่ขอกล่าวถึงต่อไป ได้แก่ อัตราส่วนของมูลค่ารวมของทั้งบริษัทตามราคาตลาดต่อยอดขาย (EV to Sales) ซึ่งมีแนวคิดไม่ต่างไปจากอัตราส่วนราคาต่อยอดขายต่อหุ้นเท่าไรนัก แต่ความโดดเด่นของอัตราส่วนนี้ มาจากความน่าเชื่อถือของการนำอัตราส่วนดังกล่าวมาประกอบการวิเคราะห์นั่นเอง ในปี 2546 Morgan Stanley ได้ทำการศึกษา 25 ปัจจัย ที่มีความสำคัญในการเลือกหุ้นในตลาดยุโรปในระยะเวลา 15 ปี พบว่า EV to Sales เป็นเครื่องมือชี้วัดราคาหุ้นในอนาคตที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด เนื่องจาก การเจริญเติบโตยอดขายเป็นตัวชี้ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของบริษัทได้อย่างดี

การนำอัตราส่วนในกลุ่ม EV ไปใช้นั้น อาจจะมีความยุ่งยากเล็กน้อย เนื่องจากต้องใช้ข้อมูลราคาหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ประกอบกับข้อมูลในงบการเงินของบริษัทในการคำนวณ และอัตราส่วนเหล่านี้ไม่ได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เหมือนอย่างอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรืออัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น อย่างไรก็ดี นักลงทุนที่สนใจสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราส่วนดังกล่าว ได้จากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ที่ใช้บริการอยู่

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

เข้าชม: 3,092

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com