May 4, 2024   6:36:16 AM ICT
PE กับภาวะตลาดหุ้น
นักลงทุนมักจะชอบถามเสมอว่า ? ภาวะตลาดช่วงนี้น่าลงทุนไหม ?? นักวิเคราะห์หรือ ? เซียนหุ้น ? ก็มักจะยกเหตุผลต่าง ๆ นานา และการคาดการณ์อนาคตอีกแปดข้อมาอธิบายว่าภาวะตลาดช่วงนี้น่าจะดีหรือ ? ต้องระวัง ? แต่จริง ๆ แล้วตลาดจะดีหรือ ? ต้องระวัง ? จริงอย่างที่คาดหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะไม่มีใครติดตามต่อว่าที่พูดไปนั้นถูกต้องหรือไม่

ผมเองไม่สนใจ ? ภาวะตลาด ? เวลาจะลงทุนผมเลือกเฉพาะหุ้นที่ผมคิดว่าเป็นหุ้นของกิจการที่มีคุณภาพดีเยี่ยมและราคาหุ้นถูกหรือมีราคาที่เหมาะสม ตลาดจะเป็นอย่างไรผมไม่สนใจเพราะผมไม่ได้ซื้อดัชนีตลาด แต่ถ้าจะถามว่าผมคิดว่า ภาวะตลาดที่เหมาะสมหรือภาวะตลาดที่ไม่ดีสำหรับการลงทุนนั้นมีไหม และถ้ามีจะดูอย่างไร คำตอบของผมก็คือ น่าจะมี และสิ่งที่ผมจะดูว่าลงทุนในช่วงไหนดีหรือไม่ดีผมจะดูที่การปรับตัวของดัชนีและค่า PE ของตลาด

ในปี 2536 ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีตลาดวิ่งขึ้นไปสูงมากและดัชนีปรับตัวขึ้นไปถึง 88% เป็น 1683 จุด ค่า PE ของตลาดปรับขึ้นไปเป็นประมาณ 30 เท่าเห็นจะได้ นั่นเป็นเวลาที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังมีความมั่นใจในการลงทุนสูงมากและคิดว่าตลาดจะสดใสต่อไป แต่ถ้าใครไปซื้อหุ้นลงทุนในวันสุดท้ายของปีและหวังถือหุ้นลงทุนระยะยาวก็จะพบว่าเมื่อถือหุ้นครบปีเขาจะขาดทุนไป 7% ดัชนีตลาดตกลงมาเป็น 1560 จุด และถ้าเขาคิดว่านั่นเป็นเพียงการปรับตัวเล็กน้อยหลังจากที่ตลาดขึ้นไปมากในปีก่อนเขาก็คิดผิด เพราะตลาดยังตกต่ำต่อไปอีกทุกปีจนถึงปี 2540 ซึ่งเป็นปีวิกฤติเศรษฐกิจ โดยปี 2538 ตลาดตกไป 18% ปี 39 ตกไป 33% และปี 2540 ตกไปถึง 56%

บทเรียนสั้น ๆ จากปี 2536 ถึงปี 2540 ก็คือ ถ้าคุณซื้อหุ้นในภาวะที่ดัชนีตลาดขึ้นไปสูงมากและรวดเร็วและตลาดมีค่า PE ที่สูงมากและคนส่วนใหญ่คิดว่าภาวะตลาดหุ้นดีมาก นั่นคือภาวะตลาดหุ้นที่น่ากลัวที่สุด เป็นภาวะที่ไม่ดีในการลงทุนระยะยาว โอกาสที่คุณจะขาดทุนมหาศาลมีมาก

ในตอนสิ้นปี 2540 หลังจากที่ดัชนีตลาดตกลงมา 4 ปีติดต่อกันจาก 1683 จุดเหลือเพียง 373 จุด โดยค่า PE ตลาดเหลือเพียง 6.6 เท่า และนักลงทุนต่างก็ถอดใจจากการลงทุนกันไปเกือบหมด ปริมาณการซื้อขายหุ้นเหลือเพียงวันละ 3-4000 ล้านบาทนั้น ถ้าคุณกล้าที่จะซื้อหุ้นลงทุนและถือเก็บยาวก็จะพบว่าอีก 1 ปีต่อมาคุณก็ยังขาดทุน 5% โดยที่ดัชนีหุ้นลดลงเหลือ 356 จุด แต่ถ้าคุณไม่วิตกเพราะค่า PE ตลาดเท่ากับเพียง 10 เท่า และถือหุ้นต่ออีก 1 ปีคุณก็จะได้กำไรถึง 35% ในปี 2542 เพราะดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นมาเป็น 482 จุดและค่า PE ตลาดปรับขึ้นมาเป็นประมาณ 15 เท่า

บทเรียนจากสิ้นปี 2540 ถึง 2542 สอนให้รู้ว่า ซื้อหุ้นลงทุนในช่วงที่ตลาดตกลงมามากและค่า PE ตลาดตกต่ำมาก โอกาสได้กำไรจะสูงมากถ้าคุณพร้อมที่จะถือหุ้นยาว

ช่วงสิ้นปี 2542 เป็นช่วงอันตรายอีกครั้งหนึ่ง เพราะดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นไป 35% และค่า PE สูงถึง 15 เท่า เพราะฉะนั้นปี 2543 ที่ตามมาเราจึงเห็นตลาดตกลงมาถึง 44% ดัชนีหุ้นเหลือเพียง 269 จุด และค่า PE ตกลงมาเหลือเพียง 5.5 เท่า เข้าข่ายเป็นภาวะตลาดหุ้นที่น่าซื้อมากอีกครั้งหนึ่ง และถ้าคุณกล้าที่จะซื้อ ผลตอบแทนที่ตามมาก็น่ามหัศจรรย์ เพราะคุณจะได้กำไรติดต่อกัน 3 ปี คือ ปี 2544 กำไร 13% ปี 2545 กำไร 17% และปี 2546 กำไรถึง 117% โดยที่ค่า PE ของตลาดในปี 2544 เท่ากับ 4.9 เท่า ปี 45 เท่ากับ 7 เท่า ซึ่งเป็นภาวะตลาดที่ดีต่อเนื่อง แต่พอถึงสิ้นปี 2546 PE ขึ้นไปถึงเกือบ 14 เท่าและกลายเป็นภาวะตลาดที่น่ากลัว คือดัชนีขึ้นไปมากและค่า PE ตลาดสูงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทำให้ปี 2547 เป็นปีที่ดัชนีตลาดตกลงมา 13% ? อย่างไม่คาดคิด ? และค่า PE ลดลงมาเหลือประมาณ 10 เท่า

ปี 2548 ถ้าหากจะมองจากการวิเคราะห์ภาวะตลาดโดยค่า PE ก็ยังบอกไม่ได้ชัดว่าเป็นภาวะตลาดที่น่าซื้อหรือไม่ เพราะยังไม่เข้าข่ายว่าตลาดตกลงมามากและค่า PE ต่ำ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าภาวะตลาดไม่ดี เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดัชนีขึ้นไปสูงและค่า PE สูง เพราะค่า PE ปัจจุบันที่ 10 เท่านั้นเป็นค่า PE ระดับกลาง ๆ ที่ไม่สูงและไม่ต่ำ และดัชนีในปี 2547 ก็ตกลงมาไม่มากมายนัก ดังนั้นผมคิดว่าในปีนี้นักลงทุนไม่ควรจะกลัวหรือหวังอะไรจากภาวะตลาดหุ้น แต่ควรพิจารณาเลือกหุ้นเป็นรายตัวมากกว่า

ที่มา บทความของ ท่าน ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

เข้าชม: 3,564

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com