April 29, 2024   4:06:29 PM ICT
ซื้อหุ้นดี หรือ ซื้อพันธบัตรดี
ซื้อหุ้นดี หรือ ซื้อพันธบัตรดี

เลยเป็นที่มาถึงพันธบัตรรอบใหม่ที่จะออก ที่ให้อัตราผลตอบแทน 5-6% สำหรับอายุ 7-10 ปีตามลำดับ ว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับนักลงทุนหลายท่านที่มีการลงทุนในหุ้น เพราะลงทุนแล้วน่าที่จะนอนตาหลับมากกว่าการลงทุนในหุ้น

ดิฉันคาดว่ากว่าบทความนี้จะปรากฏ คงจะเป็นเวลาใกล้ๆ กับที่พันธบัตรรัฐบาลงวดใหม่ ได้ฤกษ์เสนอขายพอดี คำถามยอดฮิตก็คือ มีเงินวันนี้ จะซื้อหุ้นดีหรือซื้อพันธบัตรดี
ก็เลยขออนุญาตนำความเห็น ของมหาเศรษฐีโลกท่านหนึ่ง Mr.John D.Rocke Feller ที่กล่าวไว้คมคายมากว่า

If you want to sleep well buy bond.
If you want to eat well buy shares.

ดิฉันเองเมื่อยังเด็กๆ เวลามีของต้องเลือก 2 อย่าง แต่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกอันไหนดี ก็หยิบเหรียญมาโยนหัวโยนก้อย หรือสาวๆ บางท่านก็อาจเลยหยิบเอาดอกไม้มาสักดอกและเด็ดทีละกลีบ
รัก?
ไม่รัก..
เรื่องของรักไม่รักนี้ มันจะเกิดขึ้นในตอนที่มีเหตุการณ์ซึ่งเราตัดสินใจไม่ถูก จะว่าทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยเรื่องเหตุและผลก็ไม่ได้ ก็เลยต้องเอาเรื่องของโชคชะตามาอ้างอิงมากำหนดแทน
สถานการณ์แบบนี้เหมือนกับตลาดหุ้นตอนนี้นะคะ ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะ...
รัก?ไม่รัก
ขาย?ไม่ขาย
ทิ้ง?ไม่ทิ้ง

จะซื้อหุ้นเพิ่มก็กลัวราคาจะตกลงไปอีก
จะขายหุ้นทิ้งก็กลัวจะเป็นการ ขายหมู
(คำนี้เป็นศัพท์ทางเซียนหุ้นเขาเรียกกันตอนที่ขายหุ้นแล้วราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูงขึ้น คนขายเลยมีสภาพเป็นหมู เพราะดันไปตัดสินใจขายตอนหุ้นราคาถูก)
พอจะถือต่อไปก็กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นกบที่อยู่ในหม้อต้มน้ำ

ไม่ทราบคุณผู้อ่านเคยได้ยินเรื่องเล่าเรื่องนี้บ้างไหมคะว่า
ถ้าจับกบโยนลงในหม้อน้ำเดือด กบก็จะกระโดดออกมาจากหม้อนั้นได้ทัน แต่ถ้าจับกบนั้นลงไปนอนในหม้อน้ำเย็น และเอาหม้อน้ำนั้นไปตั้งไฟ น้ำในหม้อนั้นก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้ากบชะตาขาดก็ยังไม่รู้สึกตัวยังคงแหวกว่ายไปมา จนในที่สุด เจ้ากบนั้นทนไม่ไหว หมดแรงข้าวต้ม กลายเป็นกบตุ๋นน้ำแดง ไปโดยไม่รู้ตัว

สรุปก็คือ สถานการณ์หุ้นตอนนี้ คำถามยอดฮิต คือทำอย่างไรดี
ดิฉันก็มักจะพูดว่า มีหลายบริษัทราคาได้ลดลงมาในระดับที่น่าสนใจมาก ทำอย่างไรเราจะสามารถเลือกบริษัทที่น่าสนใจเหล่านั้น แต่ถึงแม้คำแนะนำคือให้ซื้อหุ้น ก็ต้องบอกว่าสถานการณ์ของเราแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ
เพราะถ้าใครที่ซื้อหุ้นไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว การลงทุนของท่านยังค่อยยังชั่ว ยังไม่เจ็บตัว แต่ใครที่ซื้อหุ้นเมื่อต้นปีแล้วแย่หน่อยปีนี้แย่หน่อย ผ่านไป 4 เดือนขาดทุนไปแล้ว 25-30 %
ฉะนั้น จะทำอย่างไรกับหุ้นดี ก็เลยลองเอาคำถาม รัก?ไม่รักมาถามหุ้นของเรากันดีไหมคะ โดยมาดูกันว่า เราเป็นคนแบบไหน
1. รักเล่นหุ้น แต่ไม่รักจะที่จะหาข้อมูลหุ้น
2. รักการลงทุนที่มีกำไรเยอะ แต่ไม่รักที่จะคิดติดตามผลการลงทุน
3. รักที่จะเสี่ยงน้อยกำไรเยอะ แต่ไม่รัก ที่จะจัดเงินให้เป็นเสี่ยงมาก กำไรเยอะ เลยกลายเป็นเสี่ยงน้อย ขาดทุนมาก
4. รักที่จะลงทุนสบายๆ ไม่ต้องใส่ใจ แต่ไม่รักที่จะยอมรับว่า ประเภทสบายๆ แล้วกำไรดี ถ้ามีจริงคนทั้งโลกก็คงไม่ต้องทำงานแล้ว
5. รักที่จะเดาถูก ชอบของฟลุ้ก แต่ไม่รัก ที่จะยอมรับว่า การเดา เป็นไปได้ หรือใกล้ความจริงได้ ต้องประกอบด้วยสัดส่วนของการเป็นไปได้นั้น จะถูกแทนที่ด้วยคำว่าคาดการณ์ การเดา หมายถึง ไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยสิ้นเชิงแล้วมันจะเป็นเรื่องที่ถูกได้อย่างไรละคะ
สรุปก็คือ เรารักการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ไม่มีความเสี่ยง รักลงทุนสบายๆ ซื้อครั้งเดียว อยู่ได้ตาปีตาชาติ
มีไหมคะการลงทุนแบบนี้ ?
ก็เลยเป็นที่มาถึงพันธบัตรรอบใหม่ที่จะออกที่ให้อัตราผลตอบแทน 5-6% สำหรับอายุ 7-10 ปี ตามลำดับ ว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับนักลงทุนหลายท่านที่มีการลงทุนในหุ้น เพราะลงทุนแล้วน่าที่จะนอนตาหลับมากกว่าการลงทุนในหุ้น
แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าคุณจะถูกกำหนดผลตอบแทนที่ตายตัวไปถึง 7-10 ปีทีเดียว
ดิฉันเลยขอเลือกเป็นคนที่ทั้งกินอิ่มและนอนหลับสบาย โดยลงทั้งหุ้นและซื้อพันธบัตรไงคะ

ที่มา http://www.karnngern.com ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ ครับ

เข้าชม: 2,319

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com