กล้าพูดอะไร? พูดแบบไหนกันที่พูดแล้วจะรวย? พูดเรื่องอะไร? พูดกับใคร? พูดเมื่อไร? แล้วผู้ฟังคือใคร? เอ...พูดแล้วจะรวยได้จริงหรือ???

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :

คำตอบง่ายๆ ตรงไปตรงมา ก็คือ จริงค่ะ ยิ่งพูด ยิ่งรวย ใครอยากรวยต้องกล้าพูดค่ะ ถ้าให้เวลาสักหนึ่งนาทีให้ทุกท่านลองนึกดูว่า กล้าพูดแบบไหนจึงจะรวย "กล้าพูด" ของท่านจะเป็นอย่างไรค่ะ?

กล้าพูดในที่นี้หมายถึง กล้าพูดเรื่องเงินๆ ทองๆ กล้าพูดเรื่องถึงสถานะทางการเงินที่แท้จริง กล้าปฏิเสธว่ายังไม่ซื้อเพราะยังมีเงินไม่พอ กล้าพูดและยอมรับความจริงว่า เงินเดือนไม่เคยพอใช้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง กล้าพูดว่าต้องซื้อรถยนต์คันเล็กๆ เพราะผ่อนคันใหญ่ๆ ไม่ไหว กล้ายอมรับความจริงว่า เงินเดือนไม่พอเติมน้ำมันรถคันใหญ่

การกล้าพูดความจริงจะทำให้เราและบุคคลรอบๆ ตัวเรา เข้าใจและยอมรับสภาพที่แท้จริงของเรา ซึ่งเมื่อใครต่อใครเข้าใจเราแล้ว การใช้ชีวิตก็จะง่ายขึ้น อย่างเช่น เพื่อนในที่ทำงานก็จะเข้าใจว่าทำไมเราไม่ร่วมก๊วนไปชอปปิงที่ฮ่องกงกับเค้า ทำไมเราจึงไปดินเนอร์อร่อยๆ หรูๆ หรือร่วมเฮฮาปาร์ตี้ไม่ได้ทุกวันศุกร์ ทำไมเราจึงยังไม่ซื้อรถยนต์ ไม่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ หรือยังไม่ซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คกับเค้าบ้าง

ลองคิดดูนะค่ะว่า ชีวิตจะง่ายขึ้นแค่ไหนที่เพื่อนๆ เข้าใจเรา ยิ่งเพื่อนร่วมงาน ที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันวันละไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง อาทิตย์ละไม่น้อยกว่า 5 วัน โดยทั่วไป เพื่อนร่วมงานมักไม่ค่อยรู้จักเราจริงๆ พอเราปฏิเสธก็หาว่าหยิ่งบ้าง ไม่รักกันจริงบ้าง แต่พอเค้าเข้าใจเรา อะไรต่ออะไรก็น่าจะง่ายขึ้น เราก็ไม่ต้องอึดอัดที่ต้องไปกินอาหารหรือท่องเที่ยวราคาแพงเกินกำลัง

แต่คนที่สำคัญกว่าเพื่อนร่วมงาน สำคัญยิ่งกว่าหัวหน้าและลูกน้อง ก็คือ คนในครอบครัว ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง สามี ภรรยา และลูกหลานของเราเอง ยิ่งใกล้ตัวเราเท่าไร ยิ่งต้องเข้าใจเรามากที่สุด หลายๆ ครอบครัว ไม่ค่อยจะพูดคุยเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างจริงจัง หลายๆ ครอบครัว สมาชิกในครอบครัวไม่รู้สถานะทางการเงินที่แท้จริงของครอบครัวตนเองว่าเป็นอย่างไร

อย่างเช่น ลูกสาววัยรุ่นอยากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ ถ่ายรูปได้ มาขอให้คุณพ่อซื้อให้ คุณพ่อก็สัญญาว่าจะซื้อให้ ทั้งที่จริงๆ แล้ว คุณพ่อยังมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะแยะที่ต้องจัดการ และคุณพ่อก็ยังไม่มีเงินพอสำหรับซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ลูกสาว แต่ก็ไม่อยากปฏิเสธลูกสาว หรือภรรยาที่ไม่เข้าใจว่า ทำไมสามีไม่ยอมเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ ลูกชายก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณพ่อไม่ยอมซื้อโน้ตบุ๊คให้ คุณพ่อก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณแม่ชอบซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอางราคาแพงๆ ต่างคนต่างไม่เข้าใจกัน พอไม่เข้าใจกันและกัน เรื่องเล็กๆ ก็มักจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ที่ไม่เข้าใจกัน ก็เพราะความไม่รู้ ไม่รู้สถานะที่แท้จริงของครอบครัว หรือของหัวหน้าครอบครัว

สมาชิกของหลายๆ ครอบครัวอาจจะไม่รู้ว่า ภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวตนเองที่ตกอยู่กับหัวหน้าครอบครัวเป็นเท่าไร... ก็เห็นคุณพ่อมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต มีลูกน้องมากมาย หรือมีธุรกิจที่ไปได้ดี มีลูกค้าเยอะแยะ บ้านก็หลังใหญ่ รถก็มีหลายคัน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน โดยรวมๆ ก็คือมองเห็นแต่สินทรัพย์ที่คุณพ่อมี เห็นข้าวของ ทรัพย์สมบัติที่จับต้องได้ แต่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นภาระหนี้สินที่มี ไม่เคยรับรู้ ภาระค่าใช้จ่าย หรือต้นทุนในการค้าขายเลย พอเห็นแต่สินทรัพย์ ไม่รู้ไม่เห็นหนี้สินที่มี ก็เลยไม่คิดว่าทางบ้านจะมีภาระทางการเงิน พอจะใช้จ่ายแล้วไม่ได้ตามใจ ก็เลยไม่เข้าใจ

ปัญหาแบบนี้แก้ได้ไม่ยากนัก ก็แค่ "กล้าพูด" ทุกคนต้องพูดคุยกัน โดยเฉพาะหัวหน้าครอบครัวที่มีภาระและหน้าที่ในการดูแลเรื่องเงินๆ ทองๆ ของครอบครัว ต้องเปิดอกพูดกับสมาชิกในครอบครัวในรับรู้สถานะทางการเงินที่แท้จริง ให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ขณะนี้ ครอบครัวเรามีปัญหาทางการเงินหรือไม่

ถ้าทุกอย่างยังเป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาใดๆ ก็จะได้ร่วมกันวางแผนทางการเงิน สำหรับอนาคตของครอบครัว ช่วยกันวางแผนการเก็บเงินไปเที่ยว วางแผนการออมเงิน วางแผนการทำประกันภัย ประกันชีวิต วางแผนการศึกษาของลูกๆ หรือแผนการซ่อมแซมบ้าน ร่วมกันออกแบบตกแต่งบ้าน จัดสวน เปลี่ยนรถ

ในทางตรงกันข้าม หากครอบครัวเริ่มมีปัญหาทางการเงิน การรู้สภาพปัญหาหรือฐานะทางการเงินที่แท้จริง จะช่วยให้สมาชิกเข้าใจกัน เห็นใจกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยกันประหยัด ช่วยกันอดออม ช่วยกันขยันทำมาหากิน คุณพ่อ คุณแม่อาจจะได้เห็นลูกๆ เริ่มช่วยเหลือทางบ้านหางานพิเศษทำ หรือรู้จักประหยัดมัธยัสถ์มากขึ้น และคุณพ่อ คุณแม่ยังสอนลูกได้อีกหลายเรื่อง

สำคัญคือ ต้องไม่เบื่อที่จะพูดกับลูก ที่จะสอนลูก รวมทั้งไม่เบื่อที่จะฟังลูกๆ พูด เพราะว่า การสื่อสารจะทำให้หมดทุกข์ รวมไปถึงการพูดจากับผู้อาวุโส ผู้หลักผู้ใหญ่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายในครอบครัวด้วย เพราะผู้อาวุโสที่ผ่านโลกมายาวนาน สั่งสมประสบการณ์มาอย่างโชกโชน อาจจะมีคำตอบสุดท้ายที่จะฟันธงได้ตรงทางออกอย่างดียิ่ง แต่หลายคนมักจะมองข้ามความสำคัญ ไม่เห็นคุณค่า เลยมักจะเห็นคุณตาคุณยายขี้น้อยใจ นั่งงอนที่อยู่บ้านเป็นประจำในหลายๆ กรณี

ขอย้ำค่ะว่า การสื่อสารทำให้หมดทุกข์ค่ะ มีอะไรต้องพูดจากันให้เข้าใจ สำคัญที่สุดค่ะ คือต้องกล้าพูดความจริงกับตนเองด้วย ต้องกล้าที่บอกตัวเองให้ยอมรับความจริงในสถานภาพที่เป็นอยู่

สจฺจํ เว อมตา วาจา คำจริงเป็นสิ่งไม่ตาย