May 4, 2024   6:29:14 AM ICT
สรรค์สร้างบรมทรัพย์... สั่งสมบรมสุข

อยากร่ำ อยากรวย มองซ้าย มองขวา ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่คนอยากร่ำ อยากรวย คนไม่รวยก็อยากรวย คนรวยก็ยังอยากรวยเพิ่มขึ้นอีก

หลายคนเล่นหวย หลายคนซื้อหุ้น หลายคนยอมทำงานที่เสี่ยงอันตราย หลายคนลงทุนเกินตัว รวมทั้งอีกหลายๆ คนยอมทำงานผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรม ไร้จรรยาบรรณในการประกอบอาชีพ ก็เพราะอยากรวย แถมยังมีหลายคนอยากรวยเร็วๆ อีกด้วย

เพราะอะไร? ทำไมใครๆ ก็อยากรวย? อยากรวยเร็วๆ อยากมั่งคั่งมั่งมี อยากมีทรัพย์สินเงินทองเหลือกินเหลือใช้... เพราะอะไร? เพราะกระแสสังคม? เพราะค่านิยมการยกย่อง นับถือคนมีสตางค์ คนร่ำรวย? เพราะต้องการความสุข ความสะดวกสบาย? เพราะต้องการจะมีหน้ามีตาในสังคม? เพราะเป็นคนรวยดูน่าจะดีว่าเป็นคนไม่รวย? เพราะคนรวยทำอะไรก็ดูดีไปหมด? หรืออยากรวยก็เพราะอยากรวย?

พอจะเป็นไปได้ไหมค่ะว่าปัญหาสังคมและปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ อาจมีสาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากความอยากรวย หรือรู้ไม่เท่าทันความรวยของคนจำนวนมากในสังคม อย่างเช่น หลายคนทำงานเพราะอยากรวย อยากได้เงิน ได้ทอง ไม่ได้ทำงานเพราะอยากทำงาน หรืออยากให้ผลงานออกมาดีมีคุณภาพ หากไม่ได้เงิน ก็ไม่อยากทำงาน งานที่ได้เงินน้อยๆ ก็ไม่อยากทำ หนักๆ เข้าก็อาจจะเปลี่ยนไปทำงานสบายๆ เงินดีๆ ที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม

ไล่ไปตั้งแต่ปัญหาการทำงานให้เสร็จไปวันๆ การโกงตาชั่ง การปรับลดคุณภาพวัสดุ ใช้ส่วนประกอบ ส่วนผสมราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน การคดโกงวิธีต่างๆ ทั้งขโมยใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต หลอกลวง ต้มตุ๋น ลักเล็กขโมยน้อย ฉกชิงวิ่งราว ค้าขายสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ

เพราะอะไร? เพราะอยากได้เงิน อยากมีเงิน แต่ไม่อยากทำงาน เพราะอยากรวยเร็วๆ เพราะอยากได้โน่น อยากได้นี่สารพัด แต่ก็ไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากรอ อยากมีมากๆ และอยากได้เร็วๆ

ความจริงในสังคมก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่เสมอๆ ว่ารวยแล้ว ก็ใช่ว่าจะ Happy มีความสุข รวยแล้วก็อยากรวยอีก แถมมีเงินมากมายแต่ก็ยังหาร้านขายความสุขไม่เจอ ไม่รู้ว่าโรงงานไหนหรือห้างสรรพสินค้าแห่งใด จะผลิตและจำหน่ายความสุขบ้าง รวยแบบไม่มีปัญญา ไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักแบ่งปัน ไม่รู้จักสร้างประโยชน์ ถึงรวยมหาศาลก็ยังอยากรวยอีก เพราะไม่เคยเห็นคุณค่าความรวยที่ตนมีอยู่ ร่ำรวยแบบเลื่อนลอย ไร้แก่นสาร รวยไปก็แพ้ตัณหาที่จะปิดหู ปิดตา ปิดใจ ทำให้ไม่รู้พอ ทำให้ยังมีการยักยอก ยังโกงกิน ยังฉ้อฉล ยังอยากจะรวยเพิ่มขึ้นอีก ยังอยากมีอำนาจ อยากมีวาสนา อยากมีหน้าตา อยากได้รับความนิยมชมชอบ หาประโยชน์ใส่ตน ไม่เคยสนใจประโยชน์ส่วนรวม

ส่วนคนที่มีปัญญา จะเข้าใจและรู้จักตนเองดี ถึงไม่มีเงินร้อยล้าน หมื่นล้านก็มีความสุขกาย ความสบายใจได้ คนกลุ่มนี้จะสามารถสร้างคุณค่าแก่ตนเองได้จากการสร้างงานที่มีคุณภาพ คือ เอาใจ ใส่ไว้ในงานทุกงานที่ทำ มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มศักยภาพ และจะรวยความภาคภูมิใจ เมื่องานดีมีคุณภาพ การเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ คดโกงกันก็จะไม่เกิดขึ้นในสังคม

ปัญหาสังคมก็ลดลง ความรัก ความปรารถนาดี และความสามัคคีจะเกิดขึ้นในสังคม ลองหลับตานึกภาพ คนทำงานสักสองคนเปรียบเทียบกันดูนะค่ะ คนแรกสักๆ แต่ว่าจะทำให้เสร็จ งานขาดๆ เกินๆ ไปบ้างก็ช่างมัน กับคนที่ตั้งใจทำงาน ใส่ใจในรายละเอียดของงาน หรือแม่ค้าขายขนมที่อยากได้กำไรเยอะๆ จึงลดต้นทุนใช้วัตถุดิบไม่ได้มาตรฐาน กับแม่ค้าที่พิถีพิถัน เน้นคุณภาพ ถึงกำไรจะน้อยกว่าแต่ก็ไม่เบียดเบียนหรือทำร้ายลูกค้า ความเจริญก้าวหน้าในเส้นทางสายอาชีพและความสุขใจจากการทำงานย่อมแตกต่างกันแน่นอน

อยากร่ำ อยากรวย ไม่ยากเลยค่ะ หากได้รู้จักบรมทรัพย์ เราจะรวยได้อย่างมีความสุข และหากอยากรวยความสุข ถึงขั้นบรมสุขก็ไม่ยากเช่นกัน เพราะทั้งบรมทรัพย์และบรมสุขล้วนสร้างได้จากตัวเราเองทั้งสิ้น

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ชัดเจนว่า บรมทรัพย์ หรือ สนฺตุฎฐี ปรมํ ธนํ คือ ความรู้จักพอ เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง และบรมสุข หรือนิพฺพานํ ปรมํ สุขํ คือ ความสงบเย็น เป็นสุขอย่างยิ่ง ใครอยากมีทรัพย์ที่มีคุณค่า ให้รู้จักพอ และถ้าอยากมีความสุขอย่างแท้จริงด้วยแล้ว จะต้องเข้าใจว่า ความสงบเย็น คือบรมสุข

เห็นไหมค่ะว่าทั้งทรัพย์และความสุขที่จะเข้าขั้นเป็นบรมทรัพย์และบรมสุขได้นั้น ไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ เกี่ยวข้องกับเงินทองมากมายมหาศาล ไม่ต้องมีเงินดาวน์ เงินผ่อนขั้นต่ำ ไม่ต้องวางเงินประกัน เงินจองล่วงหน้า แต่ต้องเอาใจไปตั้งไว้ให้ถูกที่ ไม่ต้องวิ่งวุ่นไปหาวัตถุดิบ หาสูตรการผลิตจากที่ไหน แต่ต้องทำความเข้าใจ ทำความรู้จักตัวเองให้ดี เพื่อจะได้กำหนดความพอที่เหมาะสม ที่พอดี แก่ตนเอง บางคนอาจจะมีเป้าหมายต้องมีเงินร้อยล้าน เพราะต้องดูแลครอบครัวใหญ่ มีภาระค่าใช้จ่ายมากมาย ในขณะที่บางคนหากมีเงินสักแสนสองแสนก็อยู่ได้สบายๆ ไปตลอดชีวิต

เป้าหมายของแต่ละคน ย่อมจะแตกต่างกันไปตามลักษณะชีวิตและสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคล เป้าหมายที่ดี ที่เหมาะสมกับเรา ย่อมจะมีความเฉพาะ เหมาะเจาะกับเราเท่านั้น ไม่ควรเปรียบเทียบกับเป้าหมายของใคร และต้องไม่หวั่นไหวไปกับกระแสสังคมบริโภคนิยมจนเสียศูนย์

สำคัญที่เราต้องรู้จักตัวเองให้ดีก่อน เมื่อรู้ตัว รู้ใจตนเองดีแล้ว หากอยากร่ำรวยบรมทรัพย์ก็ต้องรู้จักพอ และก็ต้องหมั่นสรรค์สร้างบรมสุข ซึ่งหนทางง่ายๆ เพื่อลดระดับความร้อนอก ร้อนใจ ให้สงบเย็นลงได้บ้าง ให้เริ่มจากการไม่เบียดเบียนสังคม โดยการถือศีลห้า ซึ่งเป็นพื้นฐานในการฝึกตน ฝึกใจที่สำคัญมาก

ฟังดูไม่น่าจะยาก หากจะรวยทรัพย์ที่มีคุณค่าและรวยสุขที่แท้จริง ต้องลองค่ะ


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :
เข้าชม: 1,688

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com