April 29, 2024   8:24:12 AM ICT
แห่ไล่เก็บปิคนิคฯราคาใหม่14บาท

รายย่อยไม่กลัวไดลูทแห่ไล่เก็บ PICNI ดันราคาทั้งแม่และลูกพุ่ง หลังโบรกเกอร์ให้ราคาจากการซื้อเวิลด์แก๊สฯ หลังเพิ่มทุนสูงสุด 14.50 บาท ขณะที่ 4 โบรกฟันธงเพิ่มทุน 1:1ที่ 1.20 บาท ดันฐานะการเงินแข็งแกร่ง ลดหนี้สินต่อทุนได้เพียบ


     ภายหลังจากที่บริษัท ปิคนิคแก๊ส แอนด์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ PICNI ได้มีการประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 750 ล้านบาทเป็น 1350.86 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายกิจการและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงินให้บริษัทโดยมีการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 600.83 ล้านหุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่ 1.20 บาทต่อหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ1 หุ้นใหม่ ทำให้วานนี้(13ก.ย.)ราคาหุ้น PICNI ปิดที่ 22.90 บาท สูงสุด 23.30 บาทต่ำสุด 22.20 บาท บวกไป 0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 559.848 ล้านบาท

     ขณะที่ PICNI-W1 ราคาปิดที่ 14.20 บาท สูงสุด 14.40 บาทต่ำสุด 13.60 บาท บวกไป 0.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 429.403 ล้านบาท

     จากการสำรวจบทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ จำนวน 4 แห่ง ให้ความเห็นหลังจากที่บมจ.ปิคนิคฯได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส(ประเทศไทย)จำกัด ทำให้มีการปรับราคาหุ้น ซึ่งบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ได้ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 14.50 บาทต่อหุ้น ส่วนราคาตามทฤษฎีอยู่ที่ 11.75 บาท ทำให้มีส่วนต่างถึง 23 เปอร์เซ็นต์ขณะที่ PICNI มีค่า PERอยู่ที่ 24 เท่า ภายในสิ้นปีนี้

     อย่างไรก็ตามหลังจากการปรับประมาณการทำกำไรของ PICNI ปีหน้าที่คาดว่าจะมีการเติบโตสูงถึง 139 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากการเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดเป็น 22เปอร์เซ็นต์ ทำให้ปีหน้าคาดว่า PER จะลดลงเหลือเพียง 10 เท่า ส่วนการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้หนี้สินต่อทุนเหลืออยู่ 1.6 เท่าและทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งขึ้น

     บล.กรุงศรีอยุธยา ระบุว่า การขยายการลงทุนโดยซื้อเวิลด์แก๊สฯ คาดว่ากำไรสุทธิของPICNI ปี 47 เพิ่มขึ้นถึง 219.7 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มอีก 33.6 เปอร์เซ็นต์ ในปี48จากกำไรที่เพิ่มขึ้นมาก จะทำให้การไดลูท จากการเพิ่มทุนอีก 1 เท่าตัว ไม่กระทบมากนักโดยคาดว่ากำไรสุทธิต่อหุ้นของปี 47 และปี 48 อยู่ที่ 0.71 บาท และ 0.94 บาทต่อหุ้นตามลำดับ

     สำหรับราคาเป้าหมายของปี 48 อยู่ที่ 13.19 บาท โดยค่าพีอีอยู่ที่ 14 เท่า(ราคาเป้าหมายก่อนเพิ่มทุน) สูงกว่ากลุ่มพลังงานเล็กน้อย แต่เนื่องจาก PICNI มีธุรกิจส่วนหนึ่งในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและราคาเป้าหมายปี 48 เป็นราคาที่คิดจากจำนวนหุ้นกลังการเพิ่มทุนอีกเท่าตัว อย่างไรก็ตามราคาซื้อขายในปัจจุบันเต็มมูลค่าราคาเป้าหมายของปีนี้แล้ว แต่หากมองราคาเป้าหมายของปี 48 ซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลดีจากการลงทุน ยังมีส่วนต่างอยู่ที่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์จากราคาขายปัจจุบัน(เทียบราคาหลังเพิ่มทุนเท่ากับ 11.15 บาท)

     บล.นครหลวงไทย มองว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น สามารถลดอัตราส่วน Net D/E ลงจาก 2.11 เท่า ในปัจจุบันเหลือ 1.2 เท่า ณ สิ้นปี 47 อย่างไรก็ตามอัตราส่วนNet D/E จะต้องเพิ่มขึ้นหลังจากการรวมงบการเงินของเวิลด์แก๊สเข้ามา เนื่องจากบริษัทต้องกู้เงินประมาณ 1200 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการ

     ปัจจุบันเวิลด์มีหนี้สินรวม 780 ล้านบาท ซึ่งทำให้Net D/Eเพิ่มขึ้นเป็น 1.85 เท่า ส่วนการเพิ่มทุนนั้น โดยจะมีการออกหุ้นใหม่ ทำให้เกิดไดลูท แต่ผู้ถือหุ้นเดิมสามารถซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้จึงไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสัดส่วนความเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นเดิมยังมีสัดส่วนเทากับก่อนเพิ่มทุน

     ด้านบล.ดีบีเอสฯ ระบุว่า หลังการเพิ่มทุนNet gearing ยังคงสูง แต่จะลดลงเมื่อวอร์แรนต์ทยอยแปลงสภาพ แม้ว่าบริษัทจะมีการเพิ่มทุน แต่ได้เม็ดเงินจากการเพิ่มทุนเพียง 720 ล้านบาท ขณะที่จะมีการออกหุ้นกู้อีก 3000 ล้านบาท ทำให้หนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทหลังลงทุนตามแผนงานแล้วยังคงสูงกว่า 1เท่า แต่หากวอร์แรนต์มีการทยอยแปลงสภาพเข้ามาปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ เริ่มตั้งแต่ปี 48 พบว่า ภายในสิ้นปี 48 จะอยู่ที่ 0.96 เท่า

     ทั้งนี้ได้มีการประเมินราคาปัจจุบันที่ซื้อขายที่ พีอี 19 เท่า ซึ่งได้สะท้อนข่าวดีของบริษัทไปพอสมควรแล้ว และประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานของPICNI ด้วยวิธี DCF โดยรวมโครงการเอทานอลและการเข้าซื้อเวิลด์แก๊สเข้าไปแล้วได้เท่ากับ 23 บาท และราคาตามปัจจัยพื้นฐานหลัง XR เท่ากับ 11.80 บาท

ที่มา www.kaohoon.com

เข้าชม: 1,931

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com