May 15, 2024   7:32:27 AM ICT
ลุยบิ๊กแคปฯดักโรดโชว์หุ้นไทยคึกวิ่งสวนภูมิภาค
 ผู้จัดการรายวัน-ตลาดหุ้นไทยบานฉ่ำวอลุ่มคึก 3.6 หมื่นล้านบาท หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ดันดัชนีเหนือ 660 จุด สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคร่วงกราวรูดทั้งนิเคอิ ฮั่งเส็ง ไต้หวัน เม็ดเงินนอกประเทศไหลเข้าต่อเนื่องอีกกว่า 3 พันล้านบาท รวมโชว์ยอดซื้อสุทธิ(ก.ย.)แล้ว 1 หมื่นล้านบาท ขาใหญ่ขาย่อยเก็งสนั่นดักงานไทยแลนด์โฟกัสที่จะมาถึง และส่งผลให้เงินฝรั่งเข้ามาต่อยอด
       
        ความเคลื่อนไหวตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (15 ก.ย.) สดใสต่อเนื่อง ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงและมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น นักลงทุนเข้าเก็งกำไรทั้งหุ้นเล็ก หุ้นใหญ่ตลอดวัน โดยเฉพาะหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ทั้งหุ้นแบงก์ ไฟแนนซ์ และพลังงาน ดันดัชนีตลาดปิดที่ระดับ 662.28 จุด เพิ่มขึ้น 10.39 จุด คิดเป็น 1.59% ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 36,104.31 ล้านบาท
        ด้านนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 3,107.77 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 823.01 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,284.76 ล้านบาท รวมยอดซื้อสุทธิของต่างประเทศตลอดเดือนก.ย.ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
        นายเผดิมภพ สงเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ก่อนการจัดงานใหญ่ไทยแลนด์ โฟกัสที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ทำให้เกิดความมั่นใจว่ามีเม็ดเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนค่อนข้างสดใส
        ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงสวนทางกับตลาดในภูมิภาคที่ปรับตัวลงแรง อย่างเช่นดัชนีนิเกอิ ปิดลดลง 137 จุด คิดเป็น 1.21% ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลดลง 65.66 จุด คิดเป็ร 0.48% และตลาดไต้หวันปิดลดลง 48.70 จุด คิดเป็น 0.82%
        ทั้งนี้โดยภาพรวมของการซื้อขายไม่มีหุ้นกลุ่มใดที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่เป็นการไล่ซื้อหุ้นทั่วทั้งกระดาน โดยเฉพาะหุ้นบิ๊กแคปทั้งในส่วนของหุ้นแบงก์ ไฟแนนซ์ และพลังงาน ดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง
        การจัดงานไทยแลนด์ โฟกัสที่จะถึงนี้ ทำให้มีการเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรกันมาก จนกระทั่งนักลงทุนมองข้ามปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องดอกเบี้ยในประเทศที่เริ่มมีแบงก์ปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว รวมทั้งราคาน้ำมันที่เริ่มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อยนายเผดิมภพกล่าว
        เขากล่าวต่อว่า การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องหลายวัน นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง เพราะเริ่มเข้าใกล้ค่าเส้นเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 670 จุดอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นแนวต้านที่สำคัญและมีการขึ้นมาทดสอบในรอบที่แล้วเมื่อเดือน มิ.ย.แต่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ โดยประเมินว่าดัชนีน่าจะมีการปรับฐานลงมาที่แนวรับ 650 จุด ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ
        นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กล่าวว่า งาน Thailand Focus เป็นงานที่คาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมาก และจะช่วยนำเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยในในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาการเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติน่าจะเริ่มรับรู้ข่าวมาบ้างแล้วจึงมีการซื้อติดต่อกันตั้งแต่ต้นเดือนกว่า 8 พันล้านบาท
        นอกจากนี้ยังมองว่าการได้เข้ามารับรู้นโยบายทางการเงิน การคลังของประเทศ รวมถึงข้อมูลบริษัทจดทะเบียนจะช่วงสร้างความมั่นใจในการลงทุนได้อีกทาง โดยเชื่อว่าในช่วงก่อนสิ้นปีหลังงาน Thailand Focus น่าจะเริ่มเห็นการปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย
        ?งานครั้งนี้ดีรับความสนใจอย่างมากเนื่องจากภาครัฐค่อนข้างจะให้ความสำคัญ จากคำยืนยันที่จะเข้าร่วมงานจำนวนกว่า 300 แห่งเป็นตัวเลขที่ถือว่าสูงมากและจะเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย?นางวิวรรณกล่าว
        สำหรับยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ผ่านมาช่วง 2 สัปดาห์น่าจะมีทั้งในส่วนนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากยังมองว่าการเติบโตของตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มที่ดี ทั้งนี้อาจจะมีกองทุนเก็งกำไรปะปนอยู่บ้าง เพราะ P/E ไทยยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้นอื่น ในส่วนของบลจ.วรรณ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานดังกล่าวในฐานะกองทุน ทั้งนี้จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดต่างๆ เพื่อศึกษามุมมองของผู้จัดการกองทุนหลายๆแห่ง
        ?เชื่อว่าการปรับพอร์ตของกอองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมงานจะมีการลงทุนอยู่แล้วและเชื่อว่าสัดส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้นจะเพิ่มขึ้นหลังจากงานนี้ โดยน่าจะเริ่มเห็นการปรับพอร์ตได้ในช่วงก่อนสิ้นปี?นางวิวรรณกล่าว ฃ
        ด้านนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ มองว่า การเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยขณะนี้เนื่องจากคาดหวังว่าเมื่อถึงวันจัดงานไทยแลนด์โฟกัสจะมีเม็ดเงินจากต่างประเทศกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ต่อยอดขึ้นไปอีก เพราะถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาอาจมีเงินต่างประเทศเข้ามาแล้วบ้างก็ตามแต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่เม็ดเงินของนักลงทุนต่างประะเทศทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้นเมื่อถึงวันงานได้รับรู้ข้อมูลกันมากขึ้นอาจทำให้มีเงินต่างประเทศกลับมาลงทุน

เข้าชม: 1,207

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com