April 29, 2024   10:12:46 AM ICT
โนวาสโกเทีย? ฮุบ TBANK 24.99% เล็งดันออก ตลท.-จ่าย TCAP 7 พันล.

TCAP ขายหุ้น TBANK ให้ “ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย” สัดส่วน 24.99% มูลค่ากว่า 7,100 ล้านบาท  หรือ 16.37บาท/หุ้น พร้อมตั้งกรรมการเข้าร่วมบริหาร 3 คน “บันเทิง ตันติวิท” หวังนโยบายการเงินใหม่ผ่านฉลุย ดันต่างชาติถือหุ้นเพิ่มได้ ขณะเดียวกันเล็งถอน TBANK ออกตลาดหลักทรัพย์เหตุสภาพคล่องต่ำ ด้านกูรู แนะนำ “ถือ” อย่าปล่อย ตั้งเป้าสินเชื่อโตแค่ 6% แต่หวังเพิ่ม Fee-based
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 มี.ค.) ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย ประกาศว่า ได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อหุ้น 24.99% จากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) โดยธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย จะซื้อหุ้นจำนวน 157,130,216 หุ้น จาก บริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) รวมถึงหุ้นที่ออกใหม่ โดยธนาคารธนชาตอีกจำนวน 276,263,200 หุ้น ในราคาหุ้นละ 16.37 บาท รวมมูลค่ากว่า  7,100 ล้านบาท โดยการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อมีการยื่นเอกสารครบถ้วนและได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และคาดว่าขั้นตอนดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2550  อีกทั้งในการทำธุรกรรมครั้งนี้จะทำให้ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย สามารถส่งตัวแทนเข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารของธนาคารธนชาตได้ตามสัดส่วน รวมทั้งมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการธนาคารด้วย


          ด้าน นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) และประธานกรรมการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) กล่าวว่า ภายหลังธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเข้ามาถือหุ้นใน TBANK 24.99% จะมีการโอนสินทรัพย์ของโนวาสโกเทียมาที่ TBANK ประมาณ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อ ทั้งนี้ ธนาคารจะต้องมาร่วมวางแผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 3 ปี จากพันธมิตรรายใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่ในเบื้องต้นธนาคารจะยังคงเน้นธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ เนื่องจากพันธมิตรรายใหม่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้อยู่แล้ว ซึ่งการผนึกความร่วมมือระหว่างกันจะช่วยเสริมให้ธุรกิจของ TBANK เติบโตได้ก้าวกระโดดมากขึ้น

          "ธนาคารแห่งโนวาสโกเทียถือหุ้นใน TBANK 24.99% จะสามารถส่งคนเข้ามานั่งเป็นกรรมการได้ 3 คน จากกรรมการทั้งหมด 10 คน และถ้าสัดส่วนเพิ่มเป็น 49% ธนาคารแห่งโนวาสโกเทียสามารถส่งคนเข้ามานั่งเป็นกรรมการใน TBANK ได้ 5 คน" สำหรับ การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์จากผู้ถือหุ้นรายย่อยของ TBANK จะเกิดขึ้นเมื่อธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเข้ามาถือหุ้นใน TBANK ครบตามจำนวนที่ตกลง ซึ่ง TCAP จะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ในราคา 16.37 บาท โดยเป็นราคาเดียวกันกับหุ้นที่ออกใหม่และขายให้แก่ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย
          “ในเบื้องต้นธนาคารแห่งโนวาสโกเทียจะเข้ามาถือหุ้นใน TBANK 24.99% แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับการอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อน ซึ่ง TCAP ก็หวังว่าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านนโยบายหรือกฎหมายการเงินเกี่ยวกับเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้านี้น่าจะทำให้ ธปท.อนุญาตให้ธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเข้ามาถือหุ้นใน TBANK ได้ถึง 49%” นายบันเทิง กล่าว

          นายบันเทิง กล่าวต่อว่า หากกระบวนการเข้ามาซื้อหุ้น TBANK ของธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเสร็จสิ้น TCAP จะต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์จากผู้ถือหุ้นรายย่อยใน TBANK ในราคา 16.37 บาท เพื่อนำ TBANK ออกจากตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก TBANK มีสภาพคล่องต่ำ ถือหุ้นใหญ่โดย TCAP ถึง 99.36% ประกอบกับพันธมิตรรายใหม่ที่จะเข้ามาอย่างธนาคารแห่งโนวาสโกเทียไม่ได้กังวลกับ TBANK ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้น ดังนั้นจึงไม่ขัดข้องหาก TCAP จะเพิกถอน TBANK ออกจากตลาด TCAP
          ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟินันซ่า จำกัด กล่าวถึงหุ้น  TCAP ว่าแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย ที่14.40 บาท โดยให้เหตุผลว่า สำหรับปีนี้คาดว่า TCAP จะเปิดสาขาเพิ่มไม่เกิน 40 แห่ง (vs. 60 ในปี 06) และตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้ขยายตัวเพียง 6% เพราะแนวโน้มยอดขายรถใหม่ไม่สดใส (คาดยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 07 อยู่ที่ 7 แสนคัน เพิ่มขึ้นเพียง 3% YoY จากปี 06) และ 80% ของสินเชื่อของ TCAP มาจากเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ อย่างไรก็ตามคาดว่า NIM ปีนี้จะดีขึ้นจาก 2.80% เป็น 3% จากการลดลงของต้นทุนหลังเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษทยอยหมดอายุ/หมดโปรโมชั่นไป และหันไปให้ความสำคัญกับ Fee-based incomeมากขึ้น โดยเฉพาะที่มาจากธุรกิจประกันชีวิตในรูปค่าเบี้ยประกัน เพื่อลดการพึ่งพิงการปล่อยสินเชื่อส่วนการตั้งสำรองฯ กฎ IAS 39 ไม่มีผล เพราะธนาคารมีสัดส่วน LLRs/NPLs ที่ค่อนข้างสูง (73% vs.66% ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม) แต่เพื่อเป็นไปตามหลักระมัดระวังและสอดคล้องกับความเสี่ยงในธุรกิจ จึงประมาณการค่าใช้จ่ายสำรองฯปีละประมาณ1 พันล้านบาท ตั้งแต่ปี 07 เป็นต้นไป ในแง่กำไรสุทธิ คาดปีนี้จะโตโดดเด่น 31% YoY เป็น 1.93 พันล้านบาทในปี 07 แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เท่าช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ (03-05) ที่ทำได้ปีละประมาณ 2.7-3.1 พันล้านบาท นอกจากนี้คาดว่าบริษัทจะลดระดับ Dividendแค่ “ถือ” เพราะไม่ดีพอที่จะซื้อ แต่ก็ไม่แย่จนต้องขาย

          “แม้ราคาจะมี Upside 13% จากเป้าหมาย @ 14.40 บาท (ตามวิธี BV Multiple หาราคาที่ปี 2010 คิดส่วนลดกลับพร้อมเงินปันผลระหว่างทาง) แต่แนะนำแค่ “ถือ” เพราะไม่เด่นพอที่จะซื้อ แต่ก็ขายไม่ลงเพราะไม่แพง จุดเปลี่ยนของ TCAP น่าจะอยู่ที่การมีพันธมิตรเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บมากกว่า”

กระแสหุ้น
เข้าชม: 1,866

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com