April 29, 2024   2:53:49 PM ICT
กุญชรยาคงทิ้งแล้วSOLARสมปองแอบขายอีก3ล้านหุ้น

ตระกูลกุญชรยาคง"ทยอยขายทิ้ง SOLAR หลังจาก"วันดี"ประกาศลาออก ล่าสุด"สมปอง"ดอดขายแล้ว 3 ล้านหุ้น แถมต้นเดือน"สมศักดิ์"ปล่อยออก 1.25 ล้านหุ้น บล.กิมเอ็ง มองปี50 กำไรเหลือแค่ 30 ล้านบาท เหตุราคาวัตถุดิบสูงขึ้น
          วานนี้(29มี.ค.)สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) ระบุว่าเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.สมปอง กุญชรยาคง ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท โซลาร์ ตรอน จำกัด(มหาชน)หรือ SOLAR จำนวน 3,000,000 หุ้น คิดเป็น 1% ของจำนวนหลัก ทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ส่งผลให้ภายหลังการจำหน่ายเหลือหุ้นจำนวน 12,100,000 หุ้น คิดเป็น 4.03% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
          แหล่งข่าวจากวงการเงินเปิดเผยกับ"ข่าวหุ้นธุรกิจ"ว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มกุญชรยาคง ต้องการทยอยขายหุ้น SOLAR ออก เพราะเห็นว่าน.ส.วันดี กุญชรยาคง ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแล้วมีผลตั้งแต่ 1 มี.ค. 50 เห็นได้จากการที่น.ส.สมปอง ได้ขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ถือหุ้นสูงถึง 10.54% หรือจำนวน 31,625,000 หุ้น
          ขณะที่เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ กุญชรยาคง ได้จำหน่ายหุ้น SOLAR จำนวน 1,250,000 หุ้น คิดเป็น 0.42% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ส่งผลให้ภายหลังการจำหน่ายเหลือหุ้นจำนวน 3,750,000 หุ้น คิดเป็น 1.25% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
          "มองว่าผลประกอบการในปี 50 ของ SOLAR อาจออกมาไม่ดี เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 1,111.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 51.13 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.17 บาท เพราะขณะนี้ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น และโครงการใหม่ๆของภาครัฐบาลยังไม่มีความแน่นอน ทำให้คาดว่ารายได้จากภาครัฐอาจลดลง ดังนั้นนักลงทุนที่มีหุ้น SOLAR แนะนำถือ "แหล่งข่าว กล่าว
          บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KSET ประเมินว่า ในปี 50 SOLAR อาจมีกำไรสุทธิประมาณ 30 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.10 บาทและมีรายได้ประมาณ 829 ล้านบาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นจะเป็นตัวกดดันอัตรากำไรขั้นต้น และโครงการใหม่ๆของรัฐบาลยังไม่ชัดเจน ทำให้รายได้จากภาครัฐอาจลดลง 37% เป็น 748 ล้านบาท จากที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 1,027 ล้านบาท
          "แนะนำถือหุ้น SOLAR แม้ว่าจะมีอัพไซด์ 6.5% จากราคาเป้าหมาย 3.62 บาทต่อหุ้นก็ตาม เพราะผลประกอบการในปี 50 อาจออกมาไม่ดี แต่หากโครงการของรัฐบาลเริ่มกลับมา และโรงงานแห่งใหม่ของบริษัทเปิดดำเนินการได้ปลายปีนี้ อาจทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทดีขึ้น"นักวิเคราะห์ กล่าว
          ก่อนหน้านายอัครเดช โรจน์เมธา ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR เปิดเผยว่า ในปี 50 บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ทั้งหมด เนื่องจากผลการดำเนินงานในปี 49 ออกมาไม่ดี เพราะบริษัทเน้นงานภาครัฐมากกว่าเอกชน ทำให้รายได้ส่วนใหญ่ผูกติดอยู่กับภาครัฐเมื่อเกิดเหตุการณ์ด้านการเมืองขึ้นจึงกระทบต่อรายได้
          ในปี 50 บริษัทได้ปรับสัดส่วนรายได้จากภาคเอกชนเป็น 60% จาก 10% และรายได้จากภาครัฐบาลเป็น 40% จาก 90% เพราะมองว่าตลาดภาคเอกชนมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายรับซื้อไฟฟ้าในส่วนที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้นเป็น8 บาท เมื่อรวมกับอัตราเดิมที่ประมาณ 3 บาทก็ทำให้ราคารับซื้ออยู่ที่ประมาณ 11-12 บาทดังนั้นเชื่อว่าภาคเอกชนจะต้องให้ความสนใจอย่างมากและจะเข้ามาติดต่อขอซื้อเซลล์แสงอาทิตย์จากบริษัทเพิ่มมากขึ้น
          "เชื่อว่าปีหน้า โรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกของบริษัทจะแล้วเสร็จ ซึ่งก็จะกระตุ้นยอดขายให้โตอีกมาก แต่คงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจะเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะอยู่ระหว่างการประเมินภาพรวมการดำเนินงานทั้งปี การทำแผนการตลาดใหม่ทั้งหมด"นายอัครเดช กล่าว

ที่มา ข่าวหุ้น

เข้าชม: 3,929

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com