May 15, 2024   9:42:32 PM ICT
ตุลาตลาดหุ้นติดปีก19 กองทุนเล็งลงทุน

ตุลาคม ตลาดหุ้นติดปีก เผยหุ้นเด็ด 14 บลจ. ขาย 19 กองทุนระยะยาว กว้านเม็ดเงินจากประชาชนกว่า 5 หมื่นล้านบาท ไล่ซื้อหุ้นในกระดาน ส่วนใหญ่ไม่เลือกบิ๊กแคป เอาหุ้นขนาดกลาง สภาพคล่องสูง เข้าออกง่าย ปันผลดี ไม่อยู่รีแฮปโก้ อย่างไรก็ตามทุกกองทุนเลือกกลุ่มแบงก์ มีหุ้นเดียวในใจที่พลาดไม่ได้

     ข่าวหุ้นธุรกิจ สำรวจหุ้นเด็ดที่ 14 บลจ. จะออกขายกองทุนระยะยาว เพื่อระดมเงินซื้อหุ้นในกระดานราวเดือนตุลาคมนี้พบว่า 14 บลจ. ออก 19 กองทุน รวมเม็ดเงินราว 5.7 หมื่นล้านบาท แต่ละแห่งจะมีหลักการเลือกหุ้นต่างกัน INGเน้นธรรมาภิบาล

     บลจ.ไอเอ็นจี เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีธรรมาภิบาลดี หรือได้ Governance Rating มี 80 บริษัท เนื่องจากที่ผ่านมาได้คำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนทั้ง 80 แห่งแล้วพบว่า การลงทุนในช่วง 1 ปี 3 ปี และ 5 ปีย้อนหลัง ได้รับผลตอบแทนในระดับที่ดีสูงกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

     โดยหุ้นทั้ง 80 ตัวส่วนใหญ่เน้นในกลุ่มการเงินมีมากถึง 17 ตัวธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) ธนาคารไทยธนาคาร(BT) ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ธนาคารธนชาติ(NBANK) ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) บริษัทเทเวศประกันภัย(DVS)บริษัทนวกิจประกันภัย(NKI) บริษัทไทยประกันภัย(TIC) บริษัทนวลิสซิ่ง(NVL) บริษัทสยามพาณิชย์ลิสซิ่ง(SPL)

     บริษัทหลักทรัพย์ซิกโก้(SICSEC) บริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน(KK) บริษัททรีนีตี้ วัฒนา (TRINITY)บริษัทหลักทรัพย์ยูไนเต็ด(US)บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก้(ZMICO) และบริษัทเงินทุนธนชาติ(NFS)

     อย่างไรก็ดีบริษัทจะต้องคัดเลือกหุ้น เพื่อทำการลงทุนอีกครั้ง เพื่อให้การลงทุนสามารถได้ผลตอบแทนสูงสุดนายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการบลจ.ไอเอ็นจี กล่าว

     ขณะที่กลุ่มบริการประกอบด้วย บริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์(CVD) บริษัทบีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเมนท์(BNT) บริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล(ICC) บริษัทไอทีวี(ITV) บริษัทเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์(MAJOR)

     บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป(NMG) บริษัทโอ ซี ซี (OCC)บริษัทอาร์ ซีแอล(RCL) บริษัทรอยัลการ์เด้น รีซอร์ท(RGR) บริษัทซีเอ็ดยูนิเคชั่น(SE-ED) บริษัทแชงกรี-ล่า โฮเต็ล(SHANG) บริษัทไทยบริติชซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง(TBSP) บริษัทยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอร์เรชั่น(UBC)

     กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัทเครื่องสุขภัณฑ์อเมริกันสแตนดาร์ด(ประเทศไทย)( บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ บริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ บริษัทสัมมากรบริษัทปูนย์ซีเมนต์ไทย บริษัทแสนสิริ บริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี บริษัทชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น และบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น

     กลุ่มทรัพยากร ประกอบด้วย บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ บริษัทบ้านปู บริษัทบางจากปิโตเลียม บริษัทผลิตไฟฟ้า บริษัทลานนารีซอร์สเซส บริษัทผาแดงอินดัสทรี บริษัทปตท. บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม และบริษัทไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง

     กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารประกอบด้วย บริษัทเชียงใหม่โฟรเซ่นฟูดส์ (CM)บริษัทเดอะไมเนอร์ฟูด กรุ๊ป(MFG) บริษัทอาหารสยาม(SFP) บริษัทเสริมสุข(SSC) และบริษัททิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย)(TIPCO)

     กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย บริษัทประชาอาภรณ์ บริษัทเอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ บริษัทเท็กซ์ไทล์เพรสทีจ และบริษัทไทยวาโก้ ขณะที่กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม ประกอบด้วย บริษัทเอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรม บริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติ บริษัทสวีเดนมอเตอร์ บริษัทไทยเคนเปเปอร์ บริษัทยูนิเวนเจอร์ และบริษัทวีนิไทย

     กลุ่มสื่อสารและเทคโนโลยี ประกอบด้วย บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส บริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ บริษัทฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ บริษัทอินเตอร์แนชั่นแนลเอ็นจีเนียริ่ง บริษัทเคซีอี อิเลคโทรนิคส์ บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น บริษัทชินแซทเทลไลท์ บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น บริษัทซิงเกอร์ ประเทศไทย บริษัทเอสวีโอเอ บริษัททีทีแอนด์ที และบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น ทหารไทยคัด 25 ตัว

     นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวว่า จะออก 2 กองทุนสำหรับลงทุนรูปแบบ LTF คือกองทุนจัมโบ้ 25 ลงทุนหุ้น 100% และกองทุนจัมโบ้ พลัส สัดส่วนตราสารหนี้ 30% และหุ้น 70% ซึ่งทั้ง 2 กองทุน มีหลักเกณฑ์การคัดเลือกหุ้น 4 ประการ คือ เป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูง มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล มีสภาพคล่องในการซื้อขาย และไม่อยู่ในหมวดรีแฮปโก้

     จากหลักเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นทั้ง25 ตัว ทำให้รับประกันได้ว่ากองทุนจะมีรายได้อย่างแน่นอน เพราะช่วงที่ตลาดกระทบหนักหุ้นทั้ง 25 ตัวนั้นได้รับผลกระทบน้อยมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวนางโชติกา กล่าว

     โดยหมวดการเกษตร คือ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) หมวดธนาคาร มี ธนาคารกรุงไทย(KTB)ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) หมวดวัสดุก่อสร้าง มี บริษัทปูนย์ซีเมนต์ไทย(SCC) และบริษัทปูนย์ซีเมนต์นครหลวง(SCCC) หมวดเคมีภัฑณ์และพลาสติก มี บริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติ(NPC) และ บริษัทไทยพลาสติก(TPC) หมวดพาณิชย์ มี บริษัทซีพี เซเว่น-อีเลฟเว่น(CP7-11) หมวดสื่อสารบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)และ บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN)

     หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ บริษัทเดลต้า อิเล็คโทรนิคส์(DELTA) และ บริษัทฮานา ไมโครอีเล็คโทรนิคส์(HANA) หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค บริษัทปตท.(PTT) บริษัทปตท.สำรวจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) และ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี(RATCH)

     หมวดการบันเทิงและสันทนาการ มี บริษัท บีอีซี เวิลด์(BEC) หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ มี บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(KEST) และบริษัทเงินทุนธนชาติ(NFS) หมวดอาหารและเครื่องดื่ม มี บริษัทไทยยูเนียน โฟรเซ่นส์ TUF กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ LH และบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนต์ ITD ส่วนหมวดขนส่งประกอบด้วยบริษัทการบินไทย(THAI) บริษัท บริษัทโทริเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA) และ บริษัทพรีเชียส ชิปปิ้ง(PSL)AJFเน้นหุ้นเล็ก

     ขณะที่บลจ.อยุธยา เจเอฟ จำกัด หรือ AJF จะเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก โดยเลือกหุ้นที่อัตราผลตอบแทนปันผลสูงกว่าดัชนีตลาด ซึ่งจากการสอบถามไปยังบริษัทหลักทรัพย์พบว่า หุ้นที่มีการจ่ายอัตราส่วนผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่จ่ายระดับ 3% ซึ่งหุ้นเหล่านี้จ่ายที่ประมาณ 7 % ประกอบไปด้วย บริษัทซิงเกอร์ (ประเทศไทย) (SINGER) บริษัทไดนาสตี้เซรามิค (DCC)บริษัทเงินทุนเกียรตินาคิม จำกัด (มหาชน)(KK) บริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ (GRAMMY)บริษัทไมด้า แอสเซ็ท (MIDA)และบริษัทพรีเซียส ชิพปิ้ง (PSL) ทั้งนี้หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่มีความผันผวน และมีรายได้ที่แน่นอน ทำให้ AJF สนใจที่จะเข้าลงทุนอเบอร์ดีนชอบหุ้นบริการ

     ด้านบลจ.อเบอร์ดีน ผู้บริหาร กล่าวว่า พอร์ตการลงทุนของบริษัทจะเน้นลงทุนหุ้นขนาดเล็กถึงกลาง ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่มีอยู่ในพอร์ตบางอาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์สนใจลงทุนหุ้นธนาคารกรุงเทพ(BBL) และธนาคารกสิกรไทย(KBANK) กลุ่มพลังงานสนใจลงหุ้น บริษัทผลิตไฟฟ้า(EGCOMP) และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง(RATCH) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เลือกบริษัทปูนซีเมนต์ไทย(SCC)

     อย่างไรก็ดีที่บริษัทสนใจลงทุนเป็นพิเศษกลุ่มบริการ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพ เพราะเชื่อว่ามีศักยภาพในการทำกำไร อาทิ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์วรรณเน้นหุ้นIPO

     นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ จำกัด กล่าวว่า ได้ขอจัดตั้งกองทุนรวมหุ้นระยะยาวชื่อ เอเอ็มซีเล็คทีฟ มูลค่า 5 พันล้านบาท โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนครั้งแรก ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก นอกจากนี้ได้คัดเลือกหุ้นไว้จำนวน 30 ตัว เพื่อเข้าไปทำการลงทุน โดยจะเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีแนวโน้มที่จะเติบโต และแนวโน้มจ่ายปันผลดี ไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นในดัชนี SET50 เท่านั้น ซึ่งหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ อาทิกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และวัสดุก่อสร้าง

ที่มา www.manager.co.th

เข้าชม: 2,507

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com