น.ส.ฉัตรสุดา เบ็ญจนิรัตน์ นักลงทุนรายใหญ่ รายงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า วันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ซื้อหุ้นบริษัท บลิส-เทล (BLISS) เพิ่มอีกจำนวน 5 ล้านหุ้น หรือ 1.58% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด เมื่อรวมกับหุ้นเดิมที่ถืออยู่ 15.462 ล้านหุ้น ทำให้ถือหุ้นรวมทั้งหมด 20.40 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 6.48%

น.ส.ฉัตรสุดา มีต้นทุน BLISS สูงสุด ที่ได้มาก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ราคา 6.1 บาท

สำหรับ น.ส.ฉัตรสุดา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ BLISS อันดับ 3 รองจากบริษัท Audiovox Corporation ซึ่งถือหุ้น ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 จำนวน 27.65 ล้านหุ้น และอันดับ 1 บริษัท อินเตอร์เนชั่นเนิล เอนจีเนียริง (IEC) ถือหุ้นอันดับ 1 สัดส่วน 24.35%

นอกจากนี้ ยังมีนางสุรีรัตน์ สุพิชญางกูร ที่เข้าไปซื้อ BLISS เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา จำนวน 14.95 ล้านหุ้น หรือ 4.74% รวมกับหุ้นเดิมที่ถือหุ้น 4.85 ล้านหุ้น หรือ 1.54% เป็น 19.80 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.28%

ก่อนหน้านี้ น.ส.ฉัตรสุดา ยังเข้าไปซื้อหุ้น ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2550 จำนวน 15.11 ล้านหุ้น หรือ 3.28% จำนวนหุ้นเดิมที่ถืออยู่ 34.94 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.59% รวมหุ้นที่ถือทั้งสิ้น 50.052 ล้านหุ้น หรือ 10.88%

นอกจากนี้ น.ส.ฉัตรสุดา ยังถือหุ้น บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง (IEC) จากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 มีนาคม 2549 จำนวน 42.52 ล้านหุ้น หรือ 2.70%

ด้านบรรยากาศการซื้อขายหุ้น BLISS วันที่ 3 เมษายน ซบเซา ขาดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา ถึงแม้การประกาศตัวซื้อหุ้นเพิ่มของนักลงทุนรายใหญ่ กลับไม่มีผลจิตวิทยาต่อราคาหุ้น และกลับมีแรงขายออกมา กดราคาร่วงปิด 3.46 บาท ลดลง 0.16 บาท หรือ 4.42% มูลค่าซื้อขายเบาบาง 7.5 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้น LIVE การซื้อขาย ซบเซาเช่นกัน ขาดการกระตุ้นเก็งกำไร ส่งผลให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงปิด 1.72 บาท ลดลง 0.02 บาท มูลค่าซื้อขายเบาบาง 10.08 ล้านบาท