April 29, 2024   7:29:25 AM ICT
BGHตั้งโต๊ะซื้อสมิติเวช100%
BGH เล็งตั้งโต๊ะซื้อหุ้น SVH จากผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมดอย่างช้าปี 2551 หลังไม่สามารถแก้เกณฑ์ฟรีโฟลตได้ตามเกณฑ์ตลาด 15% ได้พร้อมพลิกฐานะกลายเป็นบริษัทย่อยเท่านั้น

 

นพ.พงษ์ศักดิ์ วิทยากร รองประธานกรรมการ บริษัท สมิติเวช (SVH) กล่าวถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาฟรีโฟลต (ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด) ที่ปัจจุบันไม่ได้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดคือ 15% เพราะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นอยู่เพียง 7.04% เท่านั้น โดยทางออกเดียวในการแก้ไขปัญหา คือ การให้บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ที่ตอนนี้ถือหุ้นใน SVH อยู่ 92% เข้าไปรับซื้อหุ้น SVH จากผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมด ซึ่งเรื่องดังกล่าวคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551

/
นพ.พงษ์ศักดิ์
“ตอนนี้ SVH ถูกถือหุ้นส่วนมากโดย BGH และผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นออกมาเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ดังนั้นก็ต้องเข้าไปรับซื้อหุ้นทั้งหมดแทนและหลังซื้อก็จะทำให้ SVH กลายเป็นบริษัทย่อยของ BGH ในท้ายที่สุด เพราะจะกลายเป็นผู้ถือหุ้น 100% ทันที” นพ.พงษ์ศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทได้เริ่มมีการเจรจาและชี้แจงให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับทราบมาตั้งแต่ต้นปี 2550 แล้ว ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งที่เห็นด้วยกับแผนการดังกล่าว เพราะหลังจาก BGH เข้าไปรับซื้อหุ้นทั้งหมดแล้วสุดท้ายก็จะต้องเพิกถอนหุ้น SVH ออกจากตลาดหลักทรัพย์ไปโดยปริยาย

นอกจากนี้ ปัจจุบัน SVH เป็นหุ้นที่อยู่ในช่วงกำหนดเวลาการเข้าซื้อขาย (คอลมาร์เก็ต) เพราะมีฟรีโฟลตไม่ถึง 15%

นพ.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ผลพวงจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ความผันผวนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และปัญหาการเมือง ทำให้บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ลงจากเดิมที่วางว่าจะโตจากปี 2549 กว่า 30% จะลดเหลือเพียง 25% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะหดเป้าหมายรายได้ลง แต่มั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่อยู่ 408 ล้านบาทได้ทั้งหมด เพราะจะได้รับผลดีจาก บริษัทในเครือ SVH มีศักยภาพในการบริการลูกค้าทั้ง 3 สาขา ได้เต็มรูปแบบ จากสาขาสุขุมวิทที่พร้อมในการบริการอย่างต่อเนื่อง ส่วนสาขาศรีนครินทร์อยู่ระหว่างการพัฒนาบริษัทอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ปีนี้ก็พร้อมเปิดให้บริการเต็มที่ สาขาศรีราชาซึ่งบริษัทเพิ่งได้เข้าไปถือหุ้นเพิ่มเติมเมื่อปีที่แล้วจาก 30% เป็น 59.78% ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี (บุ๊กแวลู) ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปี


โพสทูเดย์
เข้าชม: 2,420

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com